กีตาบมิศบาหุ้ลมุนีร ตอนที่ 4
بسم الله الرحمن الرحيم
ตอนที่ 4, 7/12/58 หน้าที่ 4
คำบรรยายที่หนึ่ง เรื่องการรู้จักศาสนา
สำหรับคำว่าศาสนานั้นคือ เป็นคำเรียกอันหนึ่งมาจากประมวลและรวบรวมกันเข้าจากบรรดากฎเกณฑ์และคำสั่งใช้ ข้อปฏิบัติต่างๆซึ่งสิ่งเหล่านั้นมาจากอัลลอฮ์ตาอาลา และคำสั่งใช้เหล่านั้นลงมายังท่านนาบีมูฮัมหมัด(ซล.) เพื่อที่ท่านจะได้นำมาเผยแพร่ต่อบรรดามนุษย์ (หมายรวมไปถึงบรรดาญินและมลาอิกะห์ ประกาศต่อมนุษย์และญินเพื่อให้เขาปฏิบัติ นั่นคือการตกหนักบนญินและมนุษย์ แต่มาลาอิกะห์นั้นไม่ทำชั่วไม่ฝ่าฝืนอยู่แล้ว แต่เป็นการให้เกียรติต่อท่านนาบี คือ แม้แต่บรรดามาลาอิกะห์ ผู้ซึ่งทำแต่ความดี ก็เป็นอุมัต(ประชาชาติ ) ท่านนาบีเช่นกัน)
หรือจะเรียกศาสนาอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ บรรดากฎเกณฑ์ต่างๆ ข้อบังคับต่างๆที่มาจากอัลลอฮ์ ตาอาลา (แต่ถ้ากฎเกณฑ์ที่มาจากมนุษย์จะไม่เรียกว่าศาสนา ) ผ่านบรรดาร่อซู้ลต่างๆ บรรดาร่อซู้ลนำบรรดาคำประกาศต่างๆเหล่านั้นมาประกาศยังอุมัต(ประชาชาติ ) ของพวกท่าน(มนุษย์และญิน)
ศาสนาที่อัลลอฮ์ประทานลงมาให้นั้น. นั่นคือ ศาสนาอิสลาม คนที่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ หรือกฏเกณฑ์ต่างๆ เหล่านั้น เราเรียกว่า คนมุสลิม ดังนั้นจากนิยามที่เรากล่าวมานั้นทำให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เราเรียกว่าศาสนาได้แก่กฎข้อบัญชาใช้ ซึ่งเหล่านั้นถูกส่งลงมาจากอัลลอฮ์ ตาอาลา มายังบรรดาท่านร่อซู้ล สู่ประชาชาติ สิ่งเหล่านั้นได้แก่เรื่องการยึดมั่น (อากีดะห์) การทำอีบาดัต การเคารพภักดีต่ออัลลอ. และแนวทางการดำเนินชีวิต(มุอามาลัต)
กฎข้อบังคับในศาสนานั้นประกอบไปด้วย 5ประการ(ในทางชาเราะอ์)
1. วายิบ คือ สิ่งที่ถูกสัญญาว่าจะได้รับผลบุญเมื่อกระทำ และได้รับโทษหากละทิ้ง เช่น ละหมาดฟัรดู การถือศีลอด เป็นต้น
2. สุนนะห์ ( สุนัต ) คือ สิ่งที่ถูกสัญญาว่าจะได้รับผลบุญเมื่อปฏิบัติ. และไม่มีการลงโทษเมื่อไม่กระทำ เช่น การละหมาดสุนัตก่อนหรือหลังละหมาดฟัรดู
3. ฮาราม คือ สิ่งที่ถูกสัญญาไว้ว่าจะได้รับการลงโทษเมื่อกระทำ และได้รับผลบุญถ้าละทิ้ง เช่น. ซีนา การพนัน เป็นต้น
4.มัคโระห์ คือ สิ่งที่ได้รับการตอบแทนผลบุญเมื่อละทิ้ง หากทำก็ไม่มีโทษอันใด เช่น สูบบุหรี่ กินอาหารที่มีกลิ่นฉุน (บุหรี่มีหลายทัศนะ ถ้าสูบแล้วเมา ก็ฮาราม)
5.ฮารุส คือ สิ่งที่กระทำหรือไม่กระทำก็ไม่มีผลอันใด ( ทำก็ไม่ได้ผลบุญและไม่มีโทษ ละทิ้งก็ไม่ได้ผลบุญ และไม่มีโทษ )
แต่ทั้งนี้เมื่อพิจารณาที่ตัวการกระทำนั้นเพียงอย่างเดียว ( อะซอล ) แต่ถ้าหารพิจารณาที่เจตนาในการกระทำนั้น ก็จะถูกฮุกมไปตามเจตนา
เช่น ปั่นจักรยาน การปั่นจักรยาน เป็นสิ่งที่ฮารุส( ทำก็ไม่ได้ผลบุญและไม่มีโทษ ละทิ้งก็ไม่ได้ผลบุญ และไม่มีโทษ ) แต่เมื่อพิจารณา เจตนา ในการกระทำนั้น เช่น ปั่นจักรยานไปขโมยของ ก็ถือว่าการปั่นจักรยานนั้นฮาราม ถ้าปั่นจักรยานไปละหมาด ก็ถือว่าได้รับผลบุญ
ดังนั้นการกระทำของมนุษย์ทั้งหลายก็อยู่ในบรรดากฎเกณฑ์ทั้ง 5 ที่กล่าวมาทั้งหมด เราเรียกกฎเกณฑ์นั้นว่า ฮุก่มชาเราะอ์ หรือฮุก่มตักลีฟียะห์(บังคับ=ตกหนักบนคนมูกัลลัฟ) ซึ่งจะได้กล่าวรายละเอียดทั้ง 5 ในแต่ละบทต่อไป
จากการอธิบายที่ผ่านมาทำให้เข้าใจอีกว่า แท้จริงแล้วการรู้จักศาสนาของคนทั่วไป เขาไม่ได้รู้จักศาสนาอย่างแท้จริง พวกเขาแค่พูดและเขียนไปแค่นั้นเอง ซึ่งเราสังเกตได้ว่าคนส่วนใหญ่เขาไม่ได้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านั้นอย่างเคร่งครัดแท้จริง (เช่น ละหมาดแต่ไม่ถือศีลอด นั่นคือทำไม่ครบตามคำสั่งใช้) หรือมีอีกหลายหลายรูปแบบ เช่น ทำละหมาดสุนัต แต่ละทิ้งฟัรฎู (ละหมาดรายอแต่ไม่ละหมาดฟัรฎู เป็นต้น) ทั้งหมดนั้น เป็นเพราะพวกเขาไม่ได้รู้จักศาสนา อย่างแท้จริง
เมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านจงศึกษาศาสนา อย่างจริงจังเถิด จนกว่าท่านจะรู้จักศาสนา
วัลลอฮุอะลัม