📚กีตาบ ตักรีบุลอิควาน
✅ตอนที่ 6 2/5/60 น6 บ9 ต่อ 7ข้อความเสียง
บิสมิลละห์ฯ แท้จริงแล้ววิชาอุซูลุดดีน เป็นวิชาที่ทำให้เรานั้นเกิดความสว่างไสว ที่เรานั้นได้ใช้สติปัญญาในการพินิจพิเคราะห์ซึ่งเป็นกลางเที่ยงตรง เพื่อที่เราจะได้เข้าใจจนกระทั่งว่าเกิดความยาเกนในหัวใจของเราแต่ละคนๆไป พร้อมกับจิตใจเรายินยอม(ยอง(ยอม),ตือรีมอ, ตัสดี้ก)(คิดพินิจพิเคราะห์>มองเห็น>เกิดความยาเกน(มั่นใจ)>ยอมรับในจิตใจ)
ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่ทีความสามารถและจะจดจำไม่ได้มนการที่จะเอามาบอกกล่าว เช่นเมื่อเขานั้นถูกถามว่า ท่านเชื่อหรือไม่ว่าอัลลอฮ์มี เราบอกว่าเราเชื่อและในใจของเราก็มองเห็นเหตุผลและหลักฐานชัดเจนว่าอัลลอฮ์มี แต่เมื่อจะอธิบายเหตุผลเหล่านั้นเรากลับทำไม่ได้ เราพูดไม่ได้ไม่เก่ง หรือว่าจำไม่ได้ถึงขั้นตอนการอธิบายหลักฐาน แต่ในใจรู้เห็นถึงหลักฐานและมีความยาเกนในหัวใจแต่ไม่สามารถจะพูดออกมาได้ และอีกตัวอย่าง มีรองเท้าวางอยู่หลายคู่แต่เราจะรู้ได้ว่าคู่ไหนเป็นของเราเพราะเวลาสวมใส่ แล้วรู้ได้ทันทีแม้ว่ามันจะมีหน้าตาเหมือนกัน แบบนี้ถือว่าการยึดมั่นของเขาใช้ได้ ดังนั้นถือว่าเป็นความไร้ประโยชน์สำหรับผู้ที่เขานั้นเพียงแต่จดจำและพูดได้คล่องแคล่วแต่ในใจของเขานั้นไม่ได้มองเห็นและไม่เข้าใจเป้าหมาย และไม่เข้าใจว่าเป้าประสงค์นั้นคืออะไร
และถึงแม้ว่าคนคนนั้น(คนที่จดจำได้)จะได้รับคำสรรเสริญเยินยอสักทีก็ตามถือว่าไร้ประโยชน์ ดังนั้นการจดจำและท่องได้ ถือว่าไร้ประโยชน์ถ้าหากเราไม่มีความเข้าใจจริงๆ การจะเข้าใจได้ต้องใช้การพินิจพิเคราะห์ด้วยสติปัญญาจึงจะมองเห็น และบรรดาพวกพ้องพี่น้องของฉัน ท่านอย่าได้ฟังและอย่าได้ถือตามและอย่าได้เชื่อต่อบรรดาถ้อยคำของบรรดาผู้ที่โง่เขลา ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นมีความคิดมีความเข้าใจว่า ไม่มีประโยชน์และไม่มีความจำเป็นใดๆในการจะร่ำเรียนวิชาอุซูลุดดีนให้มากๆ ดังนั้นคำพูดเหล่านี้ รากฐาน/รากเหง้าเดิมของคำพูดเหล่านี้คือ มันมาจากคนที่มีความอิจฉาริษยา ต่อผู้ที่มีความรู้ความอาเล็มในวิชาอุซูลุดดีน ซึ่งเป็นวิชาที่ยากเพราะมันเป็นวิชาที่ต้องใช้สติปัญญาในการพินิจพิเคราะห์ นั่นเอง ซึ่งคนที่ชอบพูดแบบนั้นชอบที่จะชักชวนคนเอาวาม ไปสู่การอิสระร่าเริงของดุนยา(ให้ปฏิบัติตัวไม่อยู่ในกรอบของชาเราะอ์ ทำตามอารมณ์) ซึ่งดุนยานั้นมีความเหม็นเน่ายิ่งกว่าซากสัตว์เสียอีก คือไม่มีค่าอะไร เช่น มีรีวายัตจากท่านซัยยีดีนาอาลีบอกว่า ดุนยานี้เปรียบเสมือนซากสัตว์ที่เหม็นเน่า และอันความร่าเริงและอิสระนั้น ความครึกครื้นสนุกสนานบนหน้าดุนยา และในลักษณะของผู้ที่วางตัวไม่เหมาะสม บุคคลเหล่านี้บอกว่าวิชาอุซุลุดดีนไม่มีความจำเป็นต้องเรียน มาสนุกสนานยังดีเสียกว่า คำพูดเหล่าานี้เป็นที่น่ากลัวว่าเขานั้นจะได้พบกับความตกใจใหญ่หลวง เพราะเขาอาจจะตายในสภาพของมุรตัด(คนที่ทำเบาความในการเรียนวิชาอุซูลุดดีน ปล่อยตัวปล่อยใจไม่ปฏิบัติ สนุกสนานร่าเริงตอนมีชีวิต เพราะเขาเหล่านั้นมีความยึดมั่น(เอียะติกอต)ที่ไม่ถูกต้องนั่นเอง หรือว่าเขายึดมั่นถูกต้อง แต่เขานั้นอยู่ในสภาพตักลี้ด (คนมุกอลลิต)ไปตลอดชีวิต บางทัศนะบอกว่ายังเป็นการเฟรอยู่ พวกเขาเหล่านั้นภายนอกดูสวยงาม แต่ทว่าคนทั่วๆไปเขาไม่ได้สงสัยถึงความเน่าเฟะด้านใน(อากีดะห์)ของเขา ไม่ได้รู้ว่าเอียะติกอตของเขาเสาะห์หรือไม่เสาะห์
โอ้พี่น้องของฉัน ท่านพึงทราบเถิดว่าแท้จริงผู้ที่ได้ทำการตำหนิต่อผู้ที่มีทุน ทรัพย์สินเยอะๆก็คือคนที่ จน นั่นเอง และถ้าคนคนนึงมีวิชาอุซูลุดดีน คนที่ตำหนิพวกเขาคือคนที่ไม่มีความรู้วิชานี้นั่นเอง และผู้ที่ตำหนิคือผู้ที่โง่เขลาไม่รู้จักคิดนั่นเอง เล่นเดียวกับพวกที่เราได้กล่าวมานั่นเอง แม้ว่าเราจะไม่ได้รับเกียรติบนโลกดุนยานี้ก็ตาม ถ้าหากว่าเรานั้นมีความรู้สึกอยู่เสมอว่าเรามีความรู้น้อย ใจเราก็จะเปิดรับความรู้จากคนอื่น พร้อมที่จะเรียนรู้ เราต้องมีความถ่อมตนอยู่เสมอในเรื่องของความรู้ ถ้าเรามีความยโสเราจะไม่ได้รับความรู้ สุดท้ายเราจะไม่ได้ความรู้เพิ่มเติม ดังนั้นให้เราเท้าติดดินอยู่เสมอว่าเราเป็นคนที่มีความรู้น้อยและเราจะพร้อมที่จะเรียนรู้จากคนอื่นเสมอไม่วางตัวไม่สร้างภาพว่ามีความรู้ และเรานั้นพยายามจงตั้งใจพยายามประกอบหน้าที่การงาน(ประกอบอาชีพ) ซึ่งเรามั่นใจว่าการงานอันนั้นเป็นงานฮาลาล และไม่ชุบฮัตแน่ๆ และการงานอันนั้นทำให้ได้เงินที่ฮาลาลมานั้นเอง กล่าวโดยสรุปแล้ว ไม่มีหรอก ใครคนนึงที่จะตำหนิต่อผู้ที่ชำนาญในเรื่องใดเรื่องนึง เว้นเสียแต่ว่าคนที่ไม่เข้าใจในงานนั้นๆที่จะมาตำหนินั่นเอง
วัลลอฮุอะลัม