เรื่อง อุฎฮิยะห์ ( การทำกุรบาน ) ตอนที่ 3
بسم الله الرحمن الرحيم الحمدلله رب العالمين
والصلاة السلام على سيدالمرسلين وعلى آله وصحبه أجمعين
ฮารามรับประทานเนื้อกุรบาน สำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
1. ผู้ที่ได้บนบาน ฮารามที่จะรับประทาน ส่วนหนึ่งส่วนใดจากเนื่อกุรบานซึ่งเขาได้บนบานไว้ และฮารามด้วยเช่นกันสำหรับคนในครอบครัวของเขา ซึ่งเขาวายิบต้องจ่ายนาฟาเกาะห์ ( ฮารามกินเนื้อกุรบาน ที่บนบานไว้เช่นกัน ) และวายิบที่เขาจะต้องบริจาคเนื้อกุรบานทั้งหมด โดยบริจาคเป็นเนื้อดิบ ( ยังไม่ได้ปรุงให้สุก ) รวมทั้งหนัง เขา ของสัตว์ที่ทำกุรบานนั้น ( วายิบต้องบริจาคเช่นกัน ) ถ้าหากว่าเขาได้รับประทานส่วนหนึ่งส่วนใดจากเนื้อกุรบานนั้น วายิบที่จะต้องหาเนื้อมาทดแทนส่วนที่เขารับประทานไป
2.ฮารามกินเนื้อกุรบาน สำหรับผู้ที่กุรบานให้ผู้อื่น ( เช่นบนบานทำกุรบานให้ ลูก หรือ เราได้รับการสั่งเสียจากคนหนึ่งให้ทำกุรบาน โดยเขากล่าวว่า หลังจากที่ฉันได้เสียชีวิตแล้ว ท่านจงทำกุรบานให้กับฉัน ด้วยสัตว์ของฉันตัวนี้ เช่นนี้แล้ว เนื้อกุรบานนั้นเราฮารามที่จะกินเนื้อนั้น )
3. คนที่ตกมุรตัด ฮารามที่จะกินเนื้อกุรบาน เช่น คนหนึ่งได้ทำกุรบานให้ตัวเอง เสร็จแล้วเขาได้ตกมุรตัด คนนั้นก็ฮารามที่จะกินเนื้อกุรบานนั้น
สุนัตให้ผู้ทำกุรบานรับประทานเนื้อกุรบาน ที่เป็นกุรบานสุนัต ที่ดีนั้นให้เขารับประทานตับของสัตว์กุรบานนั้น และวายิบให้บริจาคเนื้อส่วนหนึ่งจากสัตว์กุรบาน ตามทัศนะที่ถูกต้อง ( ทัศนะที่ตรงข้ามคือ ไม่วายิบจะต้องบริจาคเนื้อกุรบาน )โดยบริจาคเนื้อดิบ และยังสดอยู่ ให้แก่ ฟาเกร และ มิสกีน เพื่อที่พวกเขาจะได้เป็นเจ้าของเนื้อนั้น ซึ่งเขาสามารถที่จะนำไปขาย หรือทำอย่างอื่น เช่น รับประทานเอง และถือว่าเพียงพอ ถ้าหากเขาบริจาคให้กับคนมิสกีน เพียงหนึ่งคน ( กุรบานนั้นใช้ได้ ) ถึงแม้จะบริจาคเพียงเล็กน้อยก็ตามที เช่น บริจาค ครึ่งกิโลกรัม ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
ถ้าหากว่าไม่ได้บริจาคเนื้อกุรบานสุนัต ( เช่น ไม่ได้บริจาคแม้เพียงแค่ครึ่งกิโลกรัม ) วายิบที่เขาจะต้องซื้อเนื้อ ด้วยกับราคาของเนื้อ ( เช่น ซื้อเนื้อสักครึ่งกิโลกรัม ) และทำการบริจาคเนื้อที่ซื้อมานั้น เป็นการทดแทน
ถ้าหากได้บริจาคเนื้อกุรบาน (กุรบานสุนัต ) เท่ากับปริมาณที่วายิบต้องบริจาค และกินเนื้อส่วนที่เหลือทั้งหมด ถือว่ากุรบานนั้นใช้ได้แล้ว
และทัศนะที่ตรงข้ามกับทัศนะที่ถูกต้อง ก็คือ ไม่วายิบต้องบริจาคเนื้อกุรบาน และถือว่าได้รับผลบุญของการทำกุรบานเช่นเดียวกัน เพียงแต่ให้มีการหลั่งเลือดของสัตว์กุรบาน และได้มีการเนียตเพื่อให้ตัวเองได้ใกล้ชิดอัลลอฮ์ (เนียตทำกุรบานเพื่ออัลลอฮ์ )
และที่ดีที่สุดนั้น ให้บริจาคเนื้อกุรบานทั้งหมดแก่คน ฟาเกร มิสกีน ยกเว้นส่วนที่จะเก็บไว้รับประทานเองเพียงไม่กี่คำเพื่อเอาบะรอกัตจากเนื้อกุรบาน
ถ้าหากว่าไม่ได้บริจาคเนื้อทั้งหมดแก่ฟาเกร มิสกีน ก็ให้เขาบริจาค หนึ่งในสามส่วน ของเนื้อกุรบาน ให้แก่คนฟาเกร และ มิสกีน ที่เป็นมุสลิม และมอบเนื้อ หนึ่งในสามส่วน เป็นของขวัญ(เพื่อเป็นการให้เกียต )แก่ผู้ที่ร่ำรวย ที่เป็นมุสลิม และเก็บไว้รับประทานเอง อีกหนึ่งในสามส่วน
ไม่อณุญาตให้บริจาคเนื้อกุรบาน ให้กับคนฟาเกร และ มิสกีน ที่เป็นกาเฟรซิมมีย์ ( กาเฟรที่อยู่ภายใต้ปกครองของรัฐอิสลาม ) หรือแม้กระทั่งว่า คนยากจนหรือคนร่ำรวยซึ่งเป็นมุสลิมที่ได้รับเนื้อกุรบานไป ก็ไม่อณุญาตในการเอาเนื้อกุรบานนั้น บริจาคหรือให้เป็นของขวัญ แก่กาเฟรซิมมีย์
และไม่อณุญาตเช่นกัน ( ฮาราม ) การขายเนื้อกุรบานให้แก่กาเฟรซิมมีย์
และเป็นสิ่งที่ฮาราม อีกทั้งทำให้กุรบานนั้นใช้ไม่ได้ ถ้าหากผู้ที่ทำกุรบานนั้นได้ขายส่วนหนึ่งจากเนื้อ หรือขน หรือหนังของสัตว์กุรบาน
และฮารามเช่นกัน ในการให้เนื้อ หรือขน หรือหนังของสัตว์กุรบาน เป็นค่าจ้างแก่ผู้ที่มาเชือดหรือชำแหละเนื้อกุรบาน แต่อณุญาต ถ้าหากจะซอดาเกาะห์ให้ผู้ที่มาชำแหละนั้น
และอณุญาตให้มอบ(ฮาดิยะห์ ) หนังของสัตว์กุรบาน หรือจะเอาหนังมาทำที่ตักน้ำ หรือ ทำเป็นรองเท้า หรือใช้ทำที่รองนั่ง หรือจะให้ยืมหนังของสัตว์นั้น ดังกล่าวนี้สำหรับกุรบานที่เป็นสุนัต แต่สำหรับกุรบานที่วายิบ(ด้วยสาเหตการบนบาน)นั้น วายิบให้บริจาคทั้งหมด แม้กระทั่งหนังและเขาของสัตว์กุรบาน(จะกินหรือเก็บไว้ไม่ได้ ) ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น
ถือว่าใช้ไม่ได้ การทำกุรบานให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยที่ไม่ได้รับอณุญาตจากเจ้าตัวเสียก่อน แต่เป็นที่อณุาตที่ผู้ปกครอง ( วาลีย์ ) ได้แก่ พ่อ หรือ ปู่ ( แต่ไม่อณุญาตสำหรับคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อหรือปู่ )จะทำกุรบานด้วยกับทรัพย์สินของผู้ปกครองเอง ให้แก่ผู้อยู่ภายใต้ปกครอง ( เช่น เด็กเล็กที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ ) แต่ถ้าทำกุรบานด้วยทรัพย์สินของผู้อยู่ภายใต้ปกครอง ถือว่ากุรบานนั้นใช้ไม่ได้
ถือว่าใช้ไม่ได้เช่นกัน ในการทำกุรบานให้กับผู้ที่ตายไปแล้ว ถ้าหากผู้ตายไม่ได้สั่งเสียไว้ว่าให้ทำกุรบาน แต่ถ้าหากว่าผู้ตายได้สั่งเสียไว้ ก็ถือว่ากุรบานนั้นใช้ได้
และวายิบบนผู้ที่ทำกุรบานให้กับผู้ตายนั้น จะต้องบริจาคทั้งหมดจากสัตว์กุรบาน โดยที่ห้ามในการที่เขาจะเอาส่วนหนึ่งส่วนใดจากสัตว์กุรบานให้กับตัวเอง(ซอดาเกาะห์ให้กับตัวผู้ทำกุรบานให้ผู้ตายเอง) หรือผู้ที่เขาจะต้องจ่ายนะฟาเกาะห์ เพราะจะทำให้ผู้ให้และผู้รับเป็นคนเดียวกัน