بِسْمِ اللهِ الرَّحْمٰنِ الرَّحِيْمِ
หนังสือเล่มนี้ เมื่อได้เปรียบเทียบกับหนังสือเล่มอื่นๆ ที่มีขนาดเล็กพอๆ กัน ก็เปรียบได้กับตาดําเล็กกลางลูกตา (1) และเป็นหนังสือที่เด่นกว่าเล่มอื่นๆ ซึ่งเสมือนทองคําที่มีคุณค่ามากกว่าเงิน (2) ที่จริงนั้นควรจะได้สนใจเรียนรู้ (3) และจดจําสาระต่างๆ ไว้ในหัวใจ (4) อีกทั้งควรจะได้เก็บหนังสือเล่มนี้ไว้บนที่ที่มีเกียรติ(5) ข้าพเจ้าตั้งชื่อหนังสือเล่มนี้ว่า“ ฟะรีดะตุ้ล ฟะรอเอ็ด”(6) ซึ่งว่าด้วยวิชาที่เกี่ยวกับการยึดมั่นต่าง ๆ อัลลอฮ์เท่านั้น ข้าพเจ้ายอมสยบ(7) และในความกรุณาของอัลลอฮ์เท่านั้น (8) ข้าพเจ้ามุ่งหาความเพิ่มพูน (9)
อธิบาย
(1)ดวงตานั้นมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถเก็บทุกสิ่งทุกอย่างให้เราได้เห็น ซึ่งเมื่อเปรียบกับหนังสือเล่มนี้ ที่มีขนาดเล็กก็จริง แต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางวิชาการ เกี่ยวกับการยึดมั่นศรัทธาต่อพระองค์อัลลอฮ์ ( ซ.บ.) สำหรับที่กลางดวงตานั้นก็เสมือนกับการที่เราได้มีการจัดการแข่งขันประกวดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น แข่งนก เราได้เห็นว่ามีนกอยู่ตัวหนึ่งที่มีความสวยงาม และมีเสียงที่ไพเราะยิ่ง จนไม่มีที่ติ เมื่อเทียบกับนกตัวอื่นๆแล้ว นกตัวนี้นับว่าเหนือกว่า ฉะนั้นอันนี้แหละที่สายตาของเรา จะเพ่งมองดูที่ความสวยงามของนกตัวนั้น โดยนกตัวอื่นๆเราแค่เพียงชำเลืองมองเท่านั้น ความโดดเด่นของนกตัวนั้น เมื่อเทียบกับนกตัวอื่นๆแล้ว ก็เสมือนกับหนังสือเล่มนี้ ที่มีความโดดเด่นจนเป็นที่จับตา เมื่อเทียบกับหนังสือเล่มอื่น ที่คล้ายๆกัน
(2)ทองคำนั้นมีคุณค่าเหนือกว่าเงิน ทั้งในแง่ ความงาม ความมีระดับ และราคา ผู้เขียนได้เปรียบเทียบหนังสือเล่มนี้ว่า มีคุณค่าเหนือกว่าหนังสือเล่มอื่นๆ เปรียบเสมือนทองที่มีค่ามากกว่าเงิน เมื่อผู้อ่าน ได้อ่านหนังสือมาถึงตรงนี้ บางคนจะคิดว่าผู้เขียนมีความตะกับโบ๊รอยู่ในจิตใจ ( คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่น ) แต่จริงๆแล้วจุดมุ่งหมายของผู้เขียนนั้น เพื่อต้องการปลุกเร้าให้กับบรรดาผู้ที่ศึกษาหนังสือเล่มนี้ ให้มีความอยากรู้ อยากศึกษา และเพื่อเป็นการบ่งบอกถึงความเมตตาที่พระองค์อัลลอฮ์ ( ซ.บ.) ทรงประทานให้กับผู้เขียน เพราะด้วยความสูงส่งของความรู้ของผู้เขียนนั้น ไม่มีความตะกั๊บโบ๊รในจิตใจแล้ว
( ตรงนี้อูลามะอ์ ได้ให้ตัวอย่างเปรียบเทียบว่า สมมติว่า มีคนป่วยคนหนึ่ง ที่ไม่ยอมรับประทานอะไรเลย เมื่อเราไปเยี่ยมเขา พร้อมกับได้นำอาหารไปด้วย เราก็ได้บอกถึงคุณค่าของอาหารที่เราได้นำไปนั้นว่ามีความดีเลิศ อย่างนั้น อย่างนี้ ของคนอื่นเทียบไม่ได้กับอาหารของเรา เมื่อคนป่วยได้ยิน ก็ยอมรับประทานอาหารนั้น แบบนี้ไม่ถือเป็นการตะกั๊บโบ๊ร แต่เพื่อเป็นการโน้มน้าวจิตใจเขา ชักชวนให้คนป่วยรับประทานอาหารของเรา เช่นเดียวกัน คนที่ไม่มีความรู้ก็เปรียบเสมือนกับคนป่วย เราก็ต้องบอกถึงความเลอเลิศของหนังสือ เพื่อจะปลุกเร้าจิตใจเขาให้เกิดความอยากเรียน )
(3)สมควรเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีความอยากได้หนังสือเล่มนี้ พร้อมกับมีความเข้าใจบรรดาความรู้ทั้งหลายในหนังสือเล่มนี้ ถ้ายังไม่มีหนังสือก็ต้องขวนขวายให้ได้มา แต่ถ้ามีหนังสือแล้วก็ควรตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้เข้าใจ
(4)ให้เราเข้าใจคำอธิบายต่อประเด็นต่างๆในหนังสือเล่มนี้ และจำให้ขึ้นใจ
(5)ในหนังสือใช้สำนวน “ แท่นวิวาห์อันมีเกียรติ” คือแท่นวิวาห์ที่ประดับตกแต่งไว้สำหรับส่งตัวเจ้าสาวให้แก่เจ้าบ่าว ตอนเข้าพิธีวิวาห์ ซึ่งได้แสดงต่อหน้าผู้คนได้เห็น (ตามหลักอิสลามแล้วไม่ถูกต้อง ) จุดมุ่งหมายของผู้เขียนหนังสือ เพื่อจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้นั้นมีเกียรติ ควรได้เก็บไว้ในที่ที่เหมาะสม อย่าไปตั้งวางในที่ต่ำต้อย เช่น บนพื้น ใต้บันได
(6)ฟะรีดะตุ้ลฟะรอเอ็ด แปลว่า ยอดอัญมณี แห่ง อัญมณีทั้งหลาย (อูลามะอ์ ได้ให้ความหมายว่า ที่หนึ่ง จากบรรดาที่หนึ่งทั้งหลาย หมายถึง ในบรรดาหนังสือชั้นแนวหน้าทั้งหลายนั้น หนังสือเล่มนี้ นับว่าเป็นที่หนึ่ง ของบรรดาหนังสือเหล่านั้น )
(7)ข้าพเจ้ามีความหวังต่อพระองค์อัลลอฮ์ ( ซ.บ.) ทรงให้เกิดประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ แก่มนุษย์ทั้งหลาย
(8)لمفه كرنيا ความโปรดปราน หรือการประทานให้ของอัลลอฮ์ อย่างเปี่ยมล้น ( อูลามะอ์ ยกตัวอย่างว่า เช่นมีคนให้ข้าวสารกับเรา เราเอาภาชนะไปใส่ข้าวสาร เขาก็ให้จนกระทั่งล้นภาชนะของเรา )
(9)ข้าพเจ้ามีความมุ่งหวังว่า พระองค์อัลลอฮ์ ( ซ.บ.) จะทรงเพิ่มพูนความรู้ให้กับข้าพเจ้า ด้วยกับสาเหตุที่ข้าพเจ้าได้เขียนหนังสือเล่มนี้