✅กีตาบมิศบาฮุลมุนีร ตอนที่18 หน้าที่13
อธิบายเรื่องที่5 เรื่อง ความรู้เกี่ยวอุซุลุดดีน หมายถึง รากฐานของศาสนา(อิลมูมีสองจำพวก จำพวกแรกคืออุซุลุดดีน จำพวกสอง คือฟุอูรุดดีน(เช่นฟิกฮ์) ซึ่งความรู้ต่างๆมาจากอุซุลุดดีนทั้งนั้น ถ้าไม่มีพื้นฐานแน่นอนความรุ้ศาสนาจะไม่แข็งแรง คนปัจจุบันจะไม่ให้ความสำคัญต่ออุซุลลุดดีนและไม่มีความเข้าใจที่แท้จริง ความเข้าใจซีฟัต20ก็ยังไม่มี เอียะติกอตอาจจะไม่เสาะห์ เพราะพื้นฐานทางศาสนาของเรายังน้อย และทำให้เราหันเหไปหาความรู้ที่หาได้ง่าย เช่น ความรู้ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีความรู้ของวาฮะบีย์เผยแพร่อย่างมากในปัจจุบัน และคนที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ของศาสนา หลงเชื่อได้อย่างง่ายดาย)
อนึ่ง(เบิรมูลอ=มุบตาดา) จุดเริ่มต้นหรือรากฐาน/อาซัซ ของมัน สำหรับบรรดาสิ่งต่างๆที่ถุกสั่งใช้ต่อคนมุกัลลัฟ(เข้าอาเกลบาเลฆ มีสติสัมปชัญญะ ไม่ตาบอดหูหนวกพร้อมกัน ศาสนาไปถึงเขา) อย่างเด็ดขาด ซึ่งได้เรียกข้อสั่งใช้/กฎเหล่านั้น เรียกว่า "ฟัรดูอีน" นั่นคือ ให้เขานั้นรู้จักอัลลอตาอาลานั้นเอง และรุ้จักท่านร่อซุ้ลของพระองค์ (เรียนจนให้รุ้) และจุดมุ่งหมายของการที่ต้องรุ้จักนั้น คือเขานั้นจะต้องรุ้และจิตใจของเขาต้องยอมรับ(รุ้อย่างเดียวแต่ไม่ยอมรับนั้นก็ไม่ได้) รู้และต้องมั่นใจ(ยาเกน=มั่นใจ100%, ซอล=มั่นใจมากกว่า50%แต่ไม่เต็มร้อย, ชั้ค=สงสัย 50/50, ถ้าเชื่อมั่นน้อยกว่า50%=วาฮัม, ไม่เชื่อเลย=0% ยาเฮล) ที่บอกว่ารู้และยอมรับด้วยหัวใจนั่นคือมันเป็นเรื่องที่จำต้องจริง สำหรับบรรดาสิ่งที่วายิบสำหรับอัลลอตาอาลา (จะไม่ยอมรับว่าไม่จริงอีกตลอดกาล) และต้องรู้ว่าสิ่งที่มุสตาฮีลต้องเป็นสิ่งที่จำต้องไม่จริง (จะไม่ยอมรับการจริง/มี อีกตลอดกาล) และรู้สิ่งที่ฮารุสสำหรับอัลลอตาอาลา (คือการที่อัลลอจะสร้างหรือไม่สร้างมุมกินขึ้นมาก็ได้ , มุมกินคือทุกสิ่งที่ทุกอย่างนอกจากอัลลอตอาลา) ฮารุสคืออัลลอจะสร้างก็ได้ไม่สร้างก็ได้ และการรุ้นั้นต้องรุ้พร้อมกับหลักฐานด้วย(ทำไมเราต้องรู้พร้อมกับหลักฐาน, เพราะการที่คนคนนึงรู้แต่ไม่มีหลักฐาน เขาเรียกว่าเชื่อตามคนอื่น ตักลี้ดตามคนอื่น คือคนมุกอลลิต(ภาษาอาหรับ) คนมุกอลลิตนี้ฮาราม การเชื่อตามคนอื่น(ในวิชาอุซุดดีน) มีคีลาฟว่าเป็นคนกาเฟรหรือคนมุสลิมอยู่ ตามทัศนะที่แข็งแรงบอกว่าเขานั้นยังมีโทษถ้าหากแม้นว่าเขานั้นเป็นคนมีสติปัญญาแต่ไม่คิดหาหลักฐานให้เข้าใจหลักฐาน จึงจะพ้นจากการเป็นคนมุกอลลิต หลักฐานที่เราต้องรู้เพื่อจะให้เราพ้นจากการเป็นคนมุกอลลิต คือหลักฐานอิจญมาลีย์ ก็เพียงพอแล้ว (หลักฐานมี2แบบ; หลักฐานอิจญมาลีย์ (เช่น ถ้ามีคนถามว่าอะไรคือหลักฐานว่าอัลลอมี เราก็บอกว่า การมีโลกและจักรวาล ซึ่งแสดงการมีของอัลลอตาอาลาและหลักฐานตัฟซีลีย์(คือเป็นการอธิบายถึงการมีของอัลลอหรือแสดงให้เห็นว่าอัลลอตาอาลามี)) ในตัวบทของอัลกุรอ่านนั้นมีมากมายหลายบทที่ใช้ให้เรานั้น ใช้สมอง/สติปัญญา ให้เราคิดวิเคราะห์ถึงการมีอยุ่ของอัลลอนั้นว่ามีอยู่จริง(โดยพิจารณาจากมัคโลกที่อัลลอสร้างเพื่อให้รุ้จักผุ้สร้าง(รุ้สึกคุณลักษณะของอัลลอไม่ใช่ไปรุ้จักซาตของพระองค์) ไม่ใช่การพิจารณาถึงอัลลอ เพราะไม่มีใครทราบว่าอัลลอเป็นอย่างไร) แต่สำหรับวิชาฟิกฮ์นั้นวายิบที่เราต้องตามคนอื่น วายิบเราต้องตั้กลี้ด ที่เราต้องตามมัซฮับเพราะเราวินิจฉัยเองไม่ได้ เราไม่ได้ถึงขั้นเป็นอิหม่ามมุจญตะฮิด (เงื่อนไขของอิหม่ามมุจญตะฮิตได้คือต้องจดจำฮาดิษได้เท่าไหร่? ฟัตวาได้จากความรุ้อัลกุรอ่าน/ฮาดิษ) และมุจญตะฮิดนั้นมีหลายระดับ ซึ่งสมัยนี้นั้นไม่มีแล้ว สมัยก่อนนั้นมีมากมายหลายมัซฮับ แต่ปัจจุบันเหลือ4มัซฮับทั่วโลก อิหม่ามต่างๆที่อาเล็มๆในประวัติศาสตร์ก็ยังตามมัซฮับ เราจึงต้องยึดมั่นและมีความรู้อย่างแท้จริง และเช่นกันเราต้องรุ้และยึดมั่นในหัวใจถึงซีฟัตวายิบและหลักฐานต่างๆของท่านร่อซุ้ลลุลลอด้วย และซีฟัตมุสตาฮีล พร้อมหลักฐาน และซีฟัตฮารุสพร้อมด้วยหลักฐานของซีฟัตด้วย
วัลลอฮุอะลัม