Primolut N
Primolut N(r) คือ norethisterone ขนาดยาที่มีจำหน่ายในประเทศไทย คือ 5 mg
ข้อบ่งใช้
1.ใช้แก้ปัญหาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก,
2.ภาวะไม่มีประจำเดือน (primary and secondary amenorrhoea),
3.เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis)
4. ใช้สำหรับการเลื่อนประจำเดือน
5.รักษากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน
ซึ่งขนาดยาและวิธีการบริหารยาจะแตกต่างกันไปตามข้อบ่งใช้ ดังนี้
1. ภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก
Dose : Primolut N (5 mg) 1*3pc * 10 วัน
หากต้องการใช้ในการป้องกันภาวะเลือดออกผิดปกติซ้ำ
ขนาดยาที่ใช้ป้องกันคือ รับประทานยา Primolut N (5 mg) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2-3 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 19-26 ของรอบเดือน หรือวันที่ 16-25 ของรอบเดือน สามารถเลือกแบบใดแบบหนึ่งได้ (นับวันแรกของรอบเดือน คือ วันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย) รับประทานติดต่อกันสามรอบเดือน
2. ภาวะไม่มีประจำเดือน
Dose : Premalin 1t 14 day then Primolunt-N 1-2t 10 day
ก่อนเริ่มใช้ยา Primolut N แพทย์จะให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน เป็นเวลา 14 วันก่อน
หลังจากนั้นจึงให้รับประทานยา Primolut N (5 mg) ครั้งละ 1 เม็ดวันละ 1-2 ครั้ง เป็นเวลา 10 วัน
3. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่1,2
ให้เริ่มยาในวันที่ 5 ของรอบเดือน โดยรับประทานยา Primolut N (5 mg ) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้งหากใช้ขนาดยาดังกล่าวแล้วผู้ป่วยมีเลือดออกกกระปริบกระปรอยอาจเพิ่มขนาดยา โดยรับประทานยา Primolut N (5 mg ) ครั้งละ 2 เม็ด วันละ 2 ครั้งแทน แต่เมื่อเลือดหยุดแล้วให้กลับมาใช้ในขนาดเดิมคือ ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้ง โดยระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาอย่างน้อย 4-6 เดือน
4. เลื่อนประจำเดือน
Dose : Primolut N (5 mg) 1*ิbid-tid pc * 3 day ก่อนประจำเดือนจะมา
ไม่ควรใช้ยาเป็นระยะเวลานานกว่า 10-14 วัน และผู้ใช้ยาจะมีประจำเดือนหลังจากหยุดยาแล้วประมาณ 2-3 วัน
5. กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน
Dose : Primolut N (5 mg) 1*2-3pc
ตั้งแต่วันที่ 19-26 ของรอบเดือน
ดังนั้นขนาดยาและวิธีการให้ยา Primolut N ขึ้นอยู่กับ
1. ข้อบ่งใช้ว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
2. ในแต่ละข้อบ่งใช้ จากข้อมูลจะเห็นว่าขนาดยาที่ให้อาจระบุขนาดยาเป็นช่วงการรักษา รับประทาน 1-3 ครั้งต่อวัน (5-15 mg) ขึ้นอยู่กับการตอบสนองต่อผลการรักษา3
3. ในกรณีของการใช้เพื่อเลื่อนประจำเดือน ซึ่งเป็นข้อใช้ที่พบบ่อย มีการระบุจากข้อมูลว่าเป็น 2-3 เม็ดต่อวัน4 ซึ่งอาจเป็นที่มาของปัญหาที่ผู้ถามถามมา พบว่าในทางปฏิบัติมีการจ่ายแบบวันละ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้ง จึงแนะนำว่าการใช้ทั้งแบบวันละ 2 ครั้งหรือ 3 ครั้ง สามารถทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ใช้แต่ละราย ถ้าหากใช้วันละ 2 ครั้ง แล้วมีประสิทธิภาพไม่มีปัญหาเรื่องเลือดออก ก็สามารถใช้ได้ ทั้งนี้หากใช้วันละ 2 ครั้งแล้วมีปัญหาเลือดออกกระปริดกระปรอย อาจเพิ่มเป็น 3 ครั้งต่อวันได้ในครั้งถัดไป
จากการสืบค้นข้อมูลพบการศึกษาด้านประสบการณ์ทางคลิกนิกเกี่ยวกับการใช้ยา Norethisterone และ Norethisterone acetate ในการเลื่อนประจำเดือน ซึ่งการศึกษานี้ได้ทดลองให้ยา Norethisterone acetate หลายๆ ขนาด ระหว่างวันที่ 10-23 ของรอบเดือน โดยให้ยานาน 20-30 วัน5 พบว่าการตอบสนองต่อการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ดังแสดงในตารางข้างล่าง
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งการศึกษาซึ่งทำในอาสาสมัครหญิงอายุตั้งแต่ 21-30 ปี ที่มีรอบเดือนปกติอยู่ในช่วง 24-32 วัน จำนวน 15 คน ซึ่งการศึกษานี้ให้อาสาสมัครแต่ละคนรับประทานยา Norethisterone (Pimolut N) ขนาด 5 mg วันละ 3 ครั้ง โดยเริ่มรับประทานยา 3 วันก่อนวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมา และรับประทานต่อเนื่องไปจนคอร์สคือ 8 วัน ผลการศึกษาพบว่ามีอาสาสมัครจำนวน 7 คนที่สามารถเลื่อนประจำเดือนได้ 7 วัน อาสาสมัครจำนวน 5 คนสามารถเลื่อนประจำเดือนได้ 8 วัน และ 10 วันในอาสาสมัครที่เหลืออีก 3 คน6
ข้อมูลจาก
http://drug.pharmacy.psu.ac.th/wbfile/1912255414421.doc
ภาวะแทรกซ้อน
อาการข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยา ได้แก่
พบบ่อยมาก: 10 คน หรือมากกว่า จากผู้ป่วยทั้งหมด 100 คน
- เลือดออกผิดปกติที่มดลูก/ช่องคลอด รวมถึงเลือดออกกระปริบกระปรอย
- เลือดประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ
พบบ่อย: 1-10 คน จากผู้ป่วยทั้งหมด 100 คน
- ปวดศีรษะ
- คลื่นไส้
- เลือดประจำเดือนขาดหายไป
- บวมน้ำ
ไม่ค่อยพบ: 1-10 คน จากผู้ป่วยทั้งหมด 1,000 คน
- ไมเกรน
พบน้อย: 1-10 คน จากผู้ป่วย 10,000 คน
- ภูมิไวเกิน
- ลมพิษ (urticaria)
- ผื่น
พบน้อยมาก: น้อยกว่า 1 คน จากผู้ป่วยทั้งหมด 10,000 คน
- การมองเห็นผิดปกติ
- หายใจลำบาก (dyspnea)
REF.
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/dic/qa_full.php?id=1710