การทำสมาธิ โดยทั่วไปต้องการให้จิตสงบ โดยการนั่งคร่ำเคร่งอยู่คนเดียว ด้วยความตั้งใจว่าเราต้องทำสมาธิให้ได้ จนเกิดความเครียด ปวดตึงดึงรั้ง ทำให้การทำสมาธิ ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก และไม่มีความสบายตัวและสบายใจเลย
แต่สำหรับการทำสมาธิแนวใหม่ จะใช้ผู้ฝึกปฏิบัติ สองคนหรือที่เรียกว่าสมาธิดูโอ นั่งสมาธิหันหน้าเข้าหากัน ทำให้จักระของทั้งคู่ เชื่อมต่อกัน รวมถึงสนามแม่เหล็กและสนามพลังที่เชื่อมต่อกัน และหลับตาอยู่ตลอด เพื่อดูกระแสพลังงานที่เกิดขึ้นรวมถึงดูลมหายใจให้ได้ตลอดและต่อเนื่อง การทำสมาธิดูโอนี้ เมื่อหลับตา จะให้พูดคุยกันได้ มีข้อแม้ต้องหลับตาอยู่ตลอดเวลา เมื่อฝ่ายหนึ่งพูดขึ้นมา เท่ากับเป็นการเปิดท่อพลังงานของผู้ที่พูด เพราะมีการเกร็งท้องทำให้พลังงานขึ้นสมองทำให้น้ำในสมองเร็วขึ้น ดังนั้นเมื่อเป็นอนุกรมพลังงานจึงเป็นการเชื่อมต่อผู้ที่นั่งตรงข้ามกับผู้ที่พูดก็จะส่งผลกระทบ ทำให้นำ้ในสมองลอยตัวได้เช่นเดียวกัน หลังจากนั้นก็ดูกระแสพลังงานที่เกิดขึ้นพร้อมกับดูลมหายใจไปพร้อมๆ กัน ผลัดกันพูดคุยกันไปเรื่อยๆ แต่ต้องหลับตาเท่านั้น พร้อมกับดูกระแสพลังงานและลมหายใจให้ได้ตลอดและต่อเนื่อง ช่วงนี้จะรู้สึกเพลิดเพลินกับการดูกระแส และลมหายใจ จิตจดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเกิดอัตราความเร็วของน้ำในสมอง จนกระทั่งสามารถเข้าสมาธิได้เลยแบบอัตโนมัติ จะเห็นได้ว่าการทำสมาธิดูโอนี้ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด และสามารถเข้าสมาธิได้โดยง่าย ไม่ต้องกดดันตนเองว่าได้หรือไม่ได้ และไม่ต้องพยายามบังคับขู่เข็นให้เราทำสมาธิได้ แต่มันจะสามารถนิ่งของมันเอง ด้วยพลังสมาธิดูโอ เท่ากับเพิ่มพลังในการผลักดันให้น้ำขึ้นสมองเป็นเท่าตัวกว่าการนั่งสมาธิคนเดียว จึงทำให้เกิดความสุข สารเอนโดฟิน หลั่ง จนกระทั่งสารโดพามีนหรือสารผ่อนคลาย รวมถึงสารบรมสุขหรือสารเซโรโทนินหลั่งได้อย่างง่ายดาย
สำหรับคนทั่วไปที่มีกระแสพลังงานไม่เคลื่อนตัว ก็สามารถฝึกได้ เพียงแต่จับคู่หันหน้าเข้าหากันและหลับตาอยู่ตลอด นำจิตให้จดจ่อกับลมหายใจให้ได้ตลอดและต่อเนื่อง ก็จะทำให้สมาธิดูโอนี้ผ่อนคลายมากขึ้น ก็จะสามารถเข้าสมาธิได้ ซึ่งมาจาก ทุกกิจกรรมทั้งหลายเช่นการ ทำ พูด คิด รับรู้ รู้สึก ก็สามารถทำให้นำ้ขึ้นสมองได้ เพียงแค่หลับตาและเอาจิตจดจ่อกับลมหายใจเท่านั้น โดบเฉพาะกิจกรรมการการพูดจะทำให้นำ้ขึ้นสมองได้มากกว่าเมื่อจับคู่กัน ซึ่งทำให้เกิดการเชื่อมต่อพลังงานและเส้นสายทั้งสองคนเข้าด้วยกัน
สรุปแล้ว จะเห็นได้ว่าการหลับตา เราจะเห็นกระแสพลังงานที่ชัดเจนขึ้นและจดจ่อกับลมหายใจได้ดีขึ้น เพียงแต่กระตุ้นในการพูดในแต่ละครั้งให้พลังงานลอยตัว ขึ้นสมอง คนที่ได้ฟัง คนที่พูดก็จะได้อานิสงค์เช่นเดียวกันจากอัตราความเร็วของนำ้ในสมองที่เกิดขึ้นในขณะฝึกปฏิบัติ
...สมาธิแนวใหม่..คือ สมาธิที่อิงแนวทางวิทยาศาสตร์ เกิดจากการเฝ้าสังเกตโมเลกุลของน้ำที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย มีจุดศูนย์กลางเป็นรูปไดนามิกคล้ายกลีบดอกบัว มีการหมุนวนกลับไปกลับมาของพลังงานคล้ายก้นหอยอยู่ตรงกลาง และ มีลิ้นพลังงาน หรือ ที่เรียกว่า คอร์ด เป็นเส้นสายที่ยื่นออกไปเรียงร้อยประจุไฟฟ้า หรือ พลังงานกลับเข้ามาพัฒนาเส้นสายสนามแม่เหล็กภายในร่างกายให้มีความยิ่งยวด เชื่อมต่อพลังงานในทุกระดับชั้น ทุกระดับสัญญา มีการเปลี่ยนแปลงดำเนินไปจนกระทั่งก่อเกิดความสำเร็จทางจิต และจิตวิญญาณในที่สุด...
เครดิต: คุณสวรินทร์ คุ้มภัย ผู้เรียบเรียง