............การที่จะเป็นสนามแม่เหล็กที่เข้มข้นเกิดจากการฝึกปฏิบัติที่ทำใ้ห้เส้นสายของจักรวาลมารวมอยู่ชิดกันเป็นจำนวนมากและขดตัวจนกระทั่งกลายเป็นทรงกลม ที่ขับเคลื่อนรอบทิศทาง การเดินพลังและการเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่งจึงเกิดขึ้นด้วยอัตราความเร็วของพลังงานที่เกิดขึ้นแบบต่อเนื่อง การฝึกปฏิบัติเมื่อถึงจุดที่มีความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างเข้มข้น ต้องใช้การเคลื่อนไหวที่ช้า เนื่องจากอัตราความเร็ว่ที่เกิดขึ้น การเคลื่อนไหวทางกายที่ช้า จะทำให้สนามแม่เหล็กทำงานมากขึ้น เกิดการแยกประจุไฟฟ้าได้อย่างสืบเนื่องและมีอัตราความเร็วที่ยิ่งยวด.......
........ สิ่งที่สำคัญคือการออกกำลังกาย ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนือง เพื่อให้สนามแม่เหล็กนี้มีความยิ่งยวดมากขึ้น ...ภาวะทรงกล่มจะยิ่งเล็กลง การเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่งก็จะยิ่งรวดเร็วมากขึ้น........ การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือการยกนำ้หนัก โดยการเพิ่มน้ำหนักไปเรื่อยๆ เมื่ออยู่ในรูปสนามแม่เหล็ก จะดูดซับประจุไฟฟ้าได้ปริมาณที่สํูง ส่งผลการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อได้ แต่ถ้าทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังแข็งแรง จะทำให้ผู้ฝึกสามารถฝึกแบบไม่มีเอฟเฟคใดๆ อีกทั้งการยกนำ้หนัก ยังทำให้พัฒนาแนวกระดูกสันหลัง ให้ไฟฟ้าสามารถปลดปล่อยออกมาด้วยความรุนแรง ซึงแนวกระดูกสันหลัง ถือว่าเป็นโรงงานของพลังงานท้งหลาย มีท้้งเม็ดเลือด แดง ขาว เกล็ดเลือด พลาสมา รวมถึงเสต็มเซล ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลประกอบไปด้วยน้ำทั้งสิ้น .......คนที่จะสำเร็จทางจิต จะต้องมีนำ้ในสมองที่มีความเร็วอย่าง่ยิ่งยวด เพื่อใช้ในการประมวลสรรพสิ่งต่างๆ โดยไม่ได้ใช้ความคิด มันเกิดขึ้นเอง เมื่อมีอัตราความเร็วของนำ้ในสมอง ก็สามารถขยายสัญญานั้นออกไปทันทีเกิดการขยายตัวของพลังงาน สัญญาทั้งหลายจึงออกไปไกล การเข้าถึงสีญญาต่างๆ จึงสามารถเข้าใจธรรมมะหรือธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ ทุกอย่างไม่แน่นอน เกิิดขึ้น ทรงอยู๋และดับไป ทุกครั้ง จากความเร็วที่เกิดขึ้น เพราะฉนั้น แนวกระดูกสันหลังจึงเป็นส่วนที่สำคัญ ที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จทางจิตได้
การออกกำลังกายจึงเป็นส่วนที่สำคัญ และเป็นการพัฒนากายและจิต จิตวัญญาณได้อย่างสืบเนื่อง การเดิน หรือการขี่จักรยานอยู่กับที่ก็สามารถทำให้ พัฒนาสมอง พัฒนาความเร็ววงขาส่งผลให้พลังมาพร้อมกับนำ้ขึ้นแนวกระดูกสันหลังไปสู่สมองได้อย่างรวดเร็ว..............
..........เมื่ออยู่ในรูปสนามแม่เหล็กวิถีการฝึกก็เปลี่ยนไป เราใข้นิ้วก้อยเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่ง ได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำไมใช้นิ้วก้อยเพราะนิ้วก้อยเป็นตัวเชื่อมต่อเส้นสายภายในและภายนอกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เส้นสายของนิ้วก้อย จะอยู่บริเวณด้านในของแขนและเชื่อมต่อกับซีรีเบลลัมโดยตรง การใช้องศาของนิ้วก้อยจะสามารถเชื่อมต่อระบบอวัยวะภายในและเชื่อมต่อกับภายนอกเสมือนเป็นหนึ่งเดียวกัน เ่มื่ออยู่ในรูปสนามแม่เหล็กที่เข้มขัน เพราะฉนั้นวงกลมที่เกิดขึ้นทั้งภายในและภายนอกร่างกายจึงสามารถเชื่อมต่อกันด้วยความเร็ว เพียงรู้องศาแต่ละองศา ที่เชื่อมต่อกับเส้นสายภายในและภายนอก จะเกิดอัตราความเร็วอย่างยิ่งยวด ส่งผลอำนาจพลังทะลุทะลวงพลังงานแนวกระดูกสันหลัง ที่หนาแน่นไปด้วยเส้นสายเชื่อมต่อทุกสรรพสิ่งเป็นหนึ่งเดียว.......
.........การปลดปล่อยพลังงานผ่านแนวกระดูกสันหลัง ให้กระแสพลังงานพุ่ง ทำได้ไม่ยาก โดยการตีที่ศรีษะให้พุ่งขึ้นมาและล๊อคพลังงานไว้โดยการกำมือเล็กน้อย ค่อยคลิ๊กขึ้น ส่วนอีกมือใช้นิ้วชี้งอบริเวณด้านบนมือที่กำ แล้วคลิ๊กหงายลากออกไปสู่ด้านบน พร้อมกับหาเส้นสายสนามพลังที่เป็นปากแตรเป็นระยะตามชั้นพลังงาน เมื่อนั้นจะเกิดการพุ่งของพลังงานอย่างรุนแรง รวมทั้งการดูดพลังทืี่ข้างจมูกขวาให้ลงไปด้านล่าง จะเกิดการผลักดัน ให้แนวกระดูกสันหลังพวยพุ่งอย่างสืบเนื่อง ยิ่งดูดพลังลงด้านล่างมากเท่าไหร่ ก็จะเกิดการผลักดันให้พลังขึ้นด้านบนมากขึ้นเท่านึ้น ........
...........เนื่องจากภาวะทรงกลม ทำให้เส้นสายที่หนาแน่นอยู่รอบทิศทาง การพัฒนาจึงง่่่ายในการล๊อคเส้นสายรอบทิศทาง และมีผลต่อแนวกระดูกสันหลัง เพียงล๊อคพลังรอบๆตัวและคลิ๊กองศาหงายมือไปเรื่อยๆแต่ละคลิ๊กจนอยู่ในรูปสลับขึ้วสนามแม่เหล็ก แล้วใช้มืออีกข้างหนึ่งชี้ที่มือที่สลับขั้ว คลิ๊กนิ้วออก จะเกิดการขับเคลื่อนเป็นวิถีโค้งขึ้นมาที่ปากแตรด้านบน เกิดการพุ่งของพลังงานอย่างรุนแรง แนวกระดูกสันหลังจะทรงประสิทธิภาพ เส้นสายทำงานอย่างสืบเนื่อง การเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่งจะเป็นในอัตราความเร็วที่ยิ่งยวด ยิ่งใช้ทรงกลม เช่นมณีนาคราช และนำ้ร่วมกันแล้ว ทำให้เกิดความเร็วเมื่อเกาะติด การทำสมาธิจึงเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว.......