7 M หนทางสู่ความสำเร็จทางจิต
เครื่องมือและวิธีการในการสร้างเหตุปัจจัยถึงพร้อมให้ซีรีเบลลัม จนเกิดการพัฒนาซีรีเบลลัมให้ถึงพร้อม
1. Mantra คือ การ vibration ด้วยเสียงหรือการสวดมนต์ เมื่อมีการสั่นสะเทือนจะทำให้เกิดการลอยตัวของพลังคุณฑาลินี ขึ้นมายังสมองส่วนท้ายทอยเพื่อให้เกิดการอัดแน่นของสมองส่วนท้ายทอย จนกระทั่งสมองส่วนนี้ตึง เกิดการดูดซับพลังงานเพิ่มขึ้น มีการอัดแน่นและยุบตัวของอนุภาคและขยายชั้นพลังงานออกไปสู่วงรอบนอก เกิดการขับเคลื่อนอัตโนมัติ คลื่นความถี่ของสมองถูกยกระดับขึ้น และการสวดมนต์ยังนำพาน้ำมาพร้อมกับพลังคุณฑาลินีที่อยู่ในรูปประจุไฟฟ้า ลำเลียงขึ้นแนวกระดูกสันหลังเข้าช่องน้ำเลี้ยงสมอง น้ำนี้จะสามารถดูดซับประจุได้อย่างมหาศาล จึงเกิดการรวมอนุภาคและแยกประจุออกไปไกล เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ เป็นน้ำที่เป็นไอโซโทป เป็นกัมมันตภาพรังสี มีนิวตรอนมากกว่าอะตอมมิกนัมเบอร์ เป็น 4 เท่าของน้ำธรรมดา ทำให้เกิดความเร็ววงรอบของพลังงานสูง และมีการแตกระเบิดทางพลังงานตลอดเวลา การสวดมนต์จึงถือเป็นหัวใจสำคัญในการฝึกเพื่อความสำเร็จทางจิต การแปรธาตุ การเชื่อมต่อกับระบบและจักรวาล และการเข้าฌาน เพราะเมื่อมีความเร็ววงรอบสูงเหนือแสง จะเกิดการรวมเส้นสายจักรวาลเข้ามา ณ จุดเดียวกัน ทำให้ระยะทางจึงหายไป จึงสามารถเชื่อมต่อกับทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลได้อย่างสมบูรณ์
2. Mudra คือ การควบคุมเส้นสายโดยใช้นิ้วมือ ในการขึงเส้นสายจักรวาล และรวบรวมเส้นสายเข้ามา เพราะนิ้วแต่ละนิ้วมาจากสมองส่วนท้ายทอยที่ถูกพัฒนาแล้วให้เป็นสนามแม่เหล็ก เกิดเส้นสายเชื่อมต่อมาที่นิ้วมือแต่ละนิ้ว ซึ่งเชื่อมโยงกับอวัยวะภายในร่างกายและภายนอกร่างกาย มือซ้าย จะใช้ในการขับเคลื่อนพลังงานให้ต่อเนื่อง กระตุ้นประจุไฟฟ้าในสมองส่วนหน้า ส่วนมือขวา นิ้วมือขวาจะเป็นส่วนที่เก็บเกี่ยวเส้นสายที่โยงใยมาจากสมองส่วนหลัง การสร้างสัมโภคยกายให้เป็นกายวัชระ หรือมีเส้นสายที่มีความถี่สูงมารวมอยู่ ณ จุดเดียวกันได้..จะขาดการถักทอเส้นสายไม่ได้ โดยใช้นิ้วมือในการเก็บเกี่ยวเส้นสายเข้าเพื่อสร้างกายวัชระ ซึ่งเป็นกายที่ไม่แตกดับ
3. Mandala คือ อักขระจักรวาล จิตจะทำงานได้ต้องมีลายเส้น จิตจะมีความเร็วเมื่อเห็นแสง ชาวลามะใช้ Mandala ในการเข้าสมาธิและพัฒนาจิต โดยการมองภาพที่เป็นรูปทรงเรขาคณิต เมื่อนำจิตไปจดจ่อ จะเกิดความเร็ววงรอบของพลังงานหมุนปั่นด้วยความเร็วสูง เกิดการแยกประจุและอนุภาค วงรอบของพลังงานจะล๊อคอนุภาคให้อยู่แกนกลาง สู่จุดนิ่งดำดิ่งเข้าสมาธิระดับฌาน เชื่อมต่อกับระบบและจักรวาลได้เช่นเดียวกัน mandala จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความเร็ววงรอบและเกิดการแยกประจุและอนุภาค เกิดการเปลี่ยนแปรธาตุเช่นเดียวกัน
4. Mind คือ จิตใจ ที่มีความรัก ความเมตตาต่อสรรพสัตว์ มีความรักต่อคนทุกผู้ทุกนาม ไม่แบ่งแยก ทำให้จักระ 4 ขยายออกไป แบบไร้ขีดจำกัด มีการดูดซับพลังงานอย่างมหาศาล เกิดการขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง เมื่อนั้นก็สามารถเชื่อมต่อกับทุกสิ่งทุกอย่าง..เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ความรักจึงนำพาไปสู่พระเจ้า คนที่ต้องการความสำเร็จทางจิต จะขาดซึ่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไขไม่ได้ อีกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยใจที่มุ่งมั่น มั่นคง เด็ดเดี่ยว ใจเต็มร้อย ใจมี จักรวาลมี ดังคำกล่าวว่า
ชะตาชีวิต อาจอยู่ที่ฟ้า
การกระทำ อาจอยู่ที่ดิน
แต่ที่แน่กว่าฟ้าดิน นั้นอยู่ที่ใจ
ใจต้องรู้สัจจะ แห่งความเป็นจริงของธรรมชาติ
5. Material คือ เครื่องมือ ที่นำพาไปสู่ความสำเร็จทางจิต มีหลายอย่างทุกอย่างถ้าเรามีวาระจิต ทุกอย่างสามารถเป็นเครื่องมือในการพัฒนาจิตได้ทั้งนั้น เช่น น้ำ..เป็นตัวดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล ส่วนไฟ..มีความเร็ววงรอบสูง ตะเกียบเซียน..ทำให้สามารถพัฒนาเส้นสายในกายให้มากขึ้น รวมทั้งการสร้างสมองส่วนหน้าให้เป็นสนามแม่เหล็ก และสามารถพัฒนาสมาธิระดับฌานได้ดี การใช้ลูกแก้วหรือกำไลสี..เพื่อให้เกิดความเร็ววงรอบ..ล็อกอนุภาคไว้แกนกลาง เข้าสมาธิระดับฌานได้ การเลือกเครื่องมือในการฝึกจิต แล้วแต่วาระจิตขณะนั้นว่ามีจุดประสงค์ต้องการอะไร ก็เป็นส่วนหนึ่งให้เกิดการพัฒนาจิตขั้นสูงได้เช่นเดียวกัน
6. Movement คือ การเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวตามวาระจิตจะทำให้พลังคุณฑาลินีลอยตัวขึ้นสมองได้ง่ายขึ้น สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล เพราะวาระจิตจะค้นหาพลังงานหรือเส้นสายสนามพลังได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องใช้ความคิด จึงได้พลังที่แท้จริงและสามารถรวมเส้นสาย โดยการม้วนตัว..จะเป็นการรวมเส้นสายในจักรวาล การเต้น..ก็เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาให้สู่ความสำเร็จทางจิต ขณะเต้นจะเกิดความเร็ววงรอบ เกิดการสลัดประจุ เกิดการรวมอนุภาคและแยกประจุออกไปไกล จักระทุกจักระจะหมุนปั่นด้วยความเร็วสูง สามารถเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ในขณะเต้น การใช้เท้า.. จะเป็นการบริหารจักระที่ดีที่สุด ใช้ส้นเท้าเพื่อให้พลังคุณฑาลินีลอยตัวได้ดีขึ้น เกิดจิตวิญญาณ..คือการรับรู้เรื่องพลังงานได้ดี ใช้ปลายเท้าเพื่อบริหารสมอง..ยิ่งกดปลายเท้าเท่ากับเราได้นวดสมอง มีแรงกดที่สมองเกิดการรวมอนุภาคและแยกประจุในสมองในที่สุด สมองจะอยู่ในย่านความถี่สูง สามารถเชื่อมต่อกับระบบและจักรวาลได้เช่นเดียวกัน...
7. Meditation คือ การเข้าสู่สมาธิ คนที่จะสำเร็จทางจิต เมื่อเราทำทุก M ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว เมื่อมีเหตุปัจจัยถึงพร้อมจากการใช้สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อให้เกิดความเร็ววงรอบดูดซับประจุได้อย่างมหาศาล เมื่อนั้นจะเกิดการล๊อคอนุภาคให้อยู่แกนกลาง การเข้าสมาธิอย่างล้ำลึกระดับฌานจึงเกิดขึ้น เป็นระดับคอสมิค คืออยู่ในคลื่น ระดับ ½-1 รอบ/วินาที สิ่งนี้จะทำให้เกิดการเชื่อมต่อกับระบบและจักรวาล องค์ความรู้จากจักรวาลจะถูกผ่องถ่ายมา และสามารถรู้แจ้งแทงตลอดในทุกสัญญา เกิดสติปัญญาโดยฉับพลัน เห็นสิ่งทั้งหลายทั้งปวง เป็นธรรมชาติของจิต เกิดขึ้น ทรงอยู่ ดับไป เห็นโดยไม่ต้องคิด มันเป็นของมันเอง ด้วยการฝึกปฏิบัติที่ได้กล่าวมา จะเป็นตัวส่งเสริมและเป็นเหตุปัจจัยถึงพร้อมทั้งหมดทั้งมวล
สาธุ สาธุ สาธุ สรรพสิ่งทั้งปวงเกิดจากความว่าง...ดำเนินสู่ความไม่ว่าง...สิ้นสุดเมื่อว่าง เป็นวัฏจักรที่ดำเนินอย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด...