คล้อยตามข้าอยู่ ขัดขืนข้าตาย สัมพันธ์อย่างไรกับความสำเร็จทางจิต
ข้าในที่นี้คือธรรมชาติ คนที่เจ็บป่วยส่วนใหญ่เกิดจากความคิดที่ขัดแย้งกับความรู้สึก เพราะความรู้สึกถือเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเมื่อเกิดความรู้สึก พลังงานจะถูกขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง แต่ถ้ามีความคิดต่อต้านหรือการยับยั้งชั่งใจด้วยระบบวัฒนธรรม หรือระเบียบที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาที่อาจไม่สอดคล้องกับหลักธรรมชาติ จะเป็นตัวเบรกพลังงานไว้ เนื่องจากความคิดเป็นคลื่นความถี่เฉพาะ มีความเร็วอยู่แค่ระดับหนึ่ง (มีความเร็วน้อยกว่าความรู้สึกหลายเท่า) ทำให้พลังงานนั้นถูกปิดกั้นและสะท้อนกลับมาภายในอวัยวะของร่างกาย ส่งผลทั้งกับร่างกายและจิตใจ เช่น มักพบปัญหาเกี่ยวกับอารมณ์ที่หงุดหงิด แปรปรวนง่าย วีนบ่อย บางครั้งหดหู่ซึมเศร้า.. หรือรุนแรงจนกระทั่งมีการเจ็บป่วยที่หาสาเหตุไม่ได้ ก็เพราะความคิดไม่คล้อยตามความรู้สึก ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวข้องกับพลังงานและความคิดของเรา ที่ส่งผลต่อร่างกายและจิตใจเรา ความคิดมีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนของพลังงาน ถ้าเรายังอยู่ในภาวะของทวิภาวะ (ใช่-ไม่ใช่ ดี -ไม่ดี) สิ่งที่มีสองภาวะจะทำให้เกิดการทำร้ายจิตใจและร่างกายได้โดยตรง
เพียงแต่เราต้องเปลี่ยนคลื่นสมองส่วนท้ายทอยของเราให้อยู่ในรูปสนามแม่เหล็ก มีการขับเคลื่อนพลังงานเป็นอัตโนมัติ จะทำให้เกิดการรับรู้ รู้สึกถึงคลื่นพลังงานตลอดเวลา และทุกขณะจิต จึงใช้ความคิดคอยเฝ้าดูความรู้สึกที่เกิดขึ้น โดยไม่ขัดแย้ง เมื่อนั้นการกระจุกตัวของพลังงานทางจิตใจและร่างกายก็จะไม่เกิดขึ้น
เพราะเมื่อความคิดคล้อยตามความรู้สึก เราเอาความคิดเข้ามาดูความรู้สึก เราจะเห็นการขยายตัว ของคลื่นพลังงานออกไปอย่างกว้างไกล โดยไม่คิดขัดแย้งกับความรู้สึกที่เกิดขึ้น จนกระทั่งสิ่งที่เราเฝ้าดูอยู่ ยิ่งเกิดความเร็ววงรอบที่สูงขึ้น เกิดการสลัดประจุ สารเอ็นดอร์ฟินหลั่ง คนที่ฝึกพลังเมื่อเห็นเป็นเช่นนี้ จะเป็นผู้ที่มีความสุขได้ทุกขณะจิต เพียงแต่อย่าเอาความคิดไปเบรก
การเคลื่อนไหวตามวาระจิต ต้องใช้ความรู้สึก หรือจิตวิญญาณในการค้นหาพลังงาน แต่ถ้าใช้ความคิดว่า สิ่งไหน หรือจุดไหนให้พลังงาน ย่อมไม่พบพลังงานที่แท้จริง เพราะยังอยู่ในขีดจำกัดที่เป็นกายภาพ อีกทั้งยังทำให้บาดเจ็บจากการใช้ความคิดในการฝึกพลังโดยไม่รู้ตัว
คนที่สำเร็จทางจิต คือสมองแห่งความคิดหรือสมองส่วนหน้าถูกดูดรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับสมองส่วนหลัง จากความเร็ววงรอบที่เกิดขึ้น เกิดการขยาย ขยาย ขยาย ออกไปไกลแสนไกลจนไม่หวนคืนมา เพราะความคิดอยู่ในรูปของข้อมูลประจุไฟฟ้าจะถูกเข้าชั้นพลังงานของสมองส่วนหลังหรือซีรีเบลลัมที่อยู่ในรูปของสนามแม่เหล็ก มีการขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูง จนกระทั่งขยายออกไปไกลจนสุดไม่สามารถสัมผัสได้อีก เรียกว่าการดับสัญญา ของสิ่งที่เกิดขึ้นจากความคิดนั่นเอง
สิ่งทีเรียนรู้ คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบันขณะ ทำอย่างไร ให้เราสามารถดูสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยการยอมรับ และดูพลังงานที่ขับเคลื่อนทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ใช้ความคิดไปปรุงแต่ง เมื่อนั้นพลังงานนั้นจะเป็นเชื้อเพลิงให้กับจิต ขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งขยายสิ่งที่มากระทบอยู่ในรูปคลื่นพลังงานออกไปไกลแสนไกล ความสุขทุกขณะจิตอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพียงแต่คล้อยตามสิ่งที่เกิดขึ้นหรือธรรมชาติ เท่ากับเรารอดพ้นบ่วงกรรมได้เลยทีเดียว