องค์ความรู้ที่ได้รับเพิ่มเติม เกี่ยวกับการพัฒนาจักระ โดยการใช้ Thor ซึ่งเราก็เคยเรียนอยู่แล้ว แต่มันมีความละเอียดมากขึ้น การใช้ Thor เริ่มต้นที่ตอกเส้นสายโดยการแตะเลเยอร์ที่ทางเข้าของพลังงาน คือง่ามหัวแม่เท้าซ้าย และง่ามนิ้วก้อยเท้าซ้าย และใช้ Thor ในการควบคุมทิศทางของพลังงานว่าจะให้เข้าหรือออก หรือให้กระแสพลังงานบิดเป็นเกลียว การใช้ Thor ในจุดจุดเดียว แต่ใช้องศาคลิกแต่ละองศา ก็สามารถควบคุมวงจร เส้นเลือดวงแขน วงขา และแนวกระดูกสันหลัง รวมถึงการทำให้จักระมีความเร็ว
เทคนิคการตอก Thor มีอยู่ 2 ลักษณะ คือตอกโดนเนื้อ ซึ่งอยู่ในระดับกายภาพ และตอกกับเส้นสายที่เชื่อมโยงกับอวัยวะนั้น ๆ ทั้ง 2 อย่างใช้ขั้นตอนเหมือนกัน คือเมื่อหาตำแหน่งที่จะตอกได้แล้ว ใช้พายควบคุมทิศทางก่อน แล้วจึงใช้ค้อนตอกพายลงไป เมื่อตอกเสร็จแล้ว ให้ใช้ค้อนมาต่อที่พาย และงอข้อมือ พร้อมกับเอนค้อนไปซ้ายหรือขวาก็ได้ เมื่อเอนค้อนแล้วก็ให้บิดข้อมือเข้าหรือออก จุดที่ท่านคุราจารย์สอนและควรทำคือ ตันเถียนล่าง ซี่งเป็นแหล่งรวมพลังงาน เมื่อตอกจะทำให้เกิดการดูดซับพลังงานมากขึ้น ทำให้พลังคุณฑาลินีลอยขึ้นสู่สมองอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้ผู้ที่ฝึกปฏิบัติ มีการปลดปล่อยพลังงานได้อย่างสืบเนื่อง ทำให้มีความสุข
จุดต่อไปที่ท่านคุราจารย์สอนคือ จุดบริเวณ ไธมัส ซึ่งคนส่วนใหญ่ ในปัจจุบัน มีประจุไฟฟ้าในต่อมน้ำเหลืองเต็มเป็นจำนวนมาก ทำให้ไปมีผลต่อไธมัส ผู้คนเกิดภาวะหดหู่ ซึมเศร้า เบื่อหน่าย ท้อแท้ อ่อนล้าอ่อนแรง ให้ตอกแล้วทำเทคนิควิธีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จุดต่อไปคือ ช่องท้องอยู่ระหว่างลิ้นปีกับสะดือ ให้ตอกรอบๆลักษณะเป็นก้นหอย ออกและเข้า เมื่อถึงจุดศูนย์กลางของก้นหอย จะถูกดูดไปจุดนี้ จึงตอกบริเวณจุดนี้ ใช้ในการทำสมาธิ เป็นการรวมเส้นสายให้เข้าสู่จุดศูนย์กลางกาย เมื่อตอกบริเวณไธมัส จะเชื่อมโยงกับหัวใจ ให้ตอกบริเวณหัวใจ ทำให้ระบบการไหลเวียนในร่างกายดี เพราะเมื่อฝึกพลัง จะทำให้มีไฟฟ้าบริเวณหัวใจเป็นจำนวนมาก หัวใจทำงานหนัก จึงต้องลดทอน และทำให้หัวใจแข็งแรง ทนทานกับสภาพไฟฟ้าที่เข้ามาจำนวนมาก โดยการตอก
อีกจุดนึงที่สำคัญในการพัฒนาจิต คือบริเวณสมองส่วนหน้า ที่เรียกว่าบีเทน เพื่อให้อยู่ในรูปสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวด และส่งผลให้ซีรีเบลลัม พัฒนาสนามแม่เหล็กได้เข้มข้นมากขึ้น เมื่อตอกแล้ว จะดึงพลังคุณฑาลินีขึ้นมาจากแนวกระดูกสันหลัง ทำให้น้ำในสมองส่วนกลางมีความเร็ววงรอบที่สูง ทิศทางของน้ำที่สมองจะขับเคลื่อนอยู่ในรูปไดนามิค ดูดซับและผลักดันอยู่ตลอด จึงเกิดการแยกประจุและอนุภาค อนุภาคจึงถูกฝังที่บีเทนและซีรีเบลลัมมากขึ้น ส่งผลให้อัตราความเร็วของพลังงานมีสูง การเชื่อมต่อ การประมวลในสภาวธรรม จึงสามารถเข้าใจและเชื่อมต่อกับระบบและจักรวาลได้