เมื่อมีความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างเข้มข้น เส้นสายจะมีความหนาแน่นมาก การเดินพลังจะเดินได้ไม่ทั่วร่างกาย จะมีอาการตึงหน่วงเหนี่ยวนำบริเวณ บีเทน และซีรีเบลลัม เป็นแรงเฉื่อยที่ขับเคลื่อน ทำอย่างไรให้พลังงานขับเคลื่อนได้รุนแรงกว่านี้ และรวดเร็ว เราต้องใช้การเปิดท่อพลังงานหรือเส้นประธานด้านข้าง โดยการเปิดทางเดินเส้นประธาน ที่อยู่ระหว่างแนวกระดูกสันหลัง มีทั้งซ้ายและขวา โดยใช้มือซ้ายและขวาทำเป็นสามเหลี่ยมหัวกลับใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้งอให้ตรงกับเพดานคลื่นที่มีผลต่อคลื่นในสมอง พร้อมทั้งดันลงมาด้านล่าง บริเวณเหนือขาหนีบ และใช้มือขวาหัวแม่มือบิดขึ้น มือซ้ายหัวแม่มือบิดลง การทำเช่นนี้ จะเป็นการเปิดท่อพลังงานและขยายเมอริเดียนออกไปกว้างขึ้น ซึ่งสัมพันธ์กับเส้นสายสนามพลังที่อยู่วงรอบนอก จึงเกิดการทะลุทะลวงด้วยความรุนแรงมากกว่าเดิม เมื่อเดินพลังในวงรอบนอก เมื่อเปิดท่อทั้งซ้ายและขวา ความเร็ววงรอบของพลังงานรวมถึงน้ำในสมอง จะมีอัตราความเร็วที่สูงและรุนแรง หลังจากนั้น มาเปิดที่แนวแกนกลาง ด้วยสามเหลี่ยมหัวกลับเช่นเดียวกัน ทำให้ส่งเสริมการพุ่งของพลังงานและเกิดเส้นสายสนามพลังที่กว้างไกล แกนกลางจึงมีความหนาแน่นอย่างสูง เส้นสายชัดเจนทั้งระบบ
การเปิดเส้นเลือดวงขา โดยใช้นิ้วล๊อคให้ชนกับเส้นหัวแม่เท้า ที่เป็นทางเข้าของพลังงาน ทำสามเหลี่ยมหัวกลับ ทำนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ ให้ตรงกับคลื่นในสมอง และตรงกับเส้นเลือดวงขา โดยการควบคุมพลังงานคลิกองศาให้เกิดการทะลุทะลวง วงแขน วงขา แนวกระดูกสันหลังรวมถึงวงศีรษะ อีกกรณีนึงใช้ในการทะลุทะลวงบริเวณจักรมงกุฎ ทำให้เกิดการทะลุทะลวง แนวกระดูกสันหลัง จนทะลุออกฝ่าเท้า
การทะลุทะลวงแนวกระดูกที่ทำให้กระแสพลังงานดูดซับมากขึ้น โดยใช้ก้นกบ ยื่นออกไปด้านหลัง ให้สัมพันธ์กับแนวกระดูกสันหลัง และชนเส้นสายพลังงาน จะเกิดการดูดซับพลังงานที่มากขึ้น และการใช้เท้าซ้ายให้เป็นหลักพร้อมโยกไปทางซ้ายชนเส้นสาย บิดใบหน้าไปทางซ้ายพร้อมอ้าปาก และให้พลังออกทางก้นกบ โดยการดูดออก อาจใช้นิ้วสำทับที่ก้นกบ และใช้อีกมือสำทับอีกครั้ง เพื่อให้เกิดการพุ่งของพลังงานมากขึ้นและสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ใช้ดูดกลืนพลังชีวิตและเชื่อมต่อกับทุกสรรพสิ่ง สิ่งที่ทำในแต่ละวิวัฒนาการเพื่อไม่ให้เส้นสายตีบ การขับเคลื่อนหนืด แต่จะทำให้เกิดการพัฒนาความเข้มข้นของสนามแม่เหล็ก ได้อย่างสืบเนื่อง