คาถาที่ทำให้เกิดการพัฒนาจักระ ให้มีความเร็ววงรอบสูง ดำเนินสู่ความเป็นสนามแม่เหล็ก ด้วยความยิ่งยวดและการเข้าสมาธิได้อย่างล้ำลึก คือ
จงคิดถึงข้าเถอะ เมื่อเราคิดถึงคนที่อยู่ในใจเรา หรือที่เราศรัทธา จักระ 6 จะเริ่มหมุนปั่นด้วยความเร็วสูง เชื่อมต่อกับคนที่อยู่ในใจของเราหรือสิ่งที่เราเคารพบูชา
จงรักข้าเถอะ ยิ่งมีความรักมากเท่าไหร่ จักระ 4 จะขยายแบบไม่รู้จบ สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าเข้ามาอย่างมหาศาล ความเร็ววงรอบก็สูงตามด้วย และคนที่ฝึกพลังสมาธิจะต้องมีความรักที่ยิ่งใหญ่ ถึงจะสามารถมีชีวิตอยู่รอด จากจำนวนประจุไฟฟ้าที่เข้ามาระหว่างฝึกมหาศาล เพราะมันทำให้เกิดความเร็ววงรอบที่สูง ประจุไฟฟ้าก็จะปั่นออกไปด้วยความเร็วสูง ไม่เกิดอันตรายขณะฝึกปฏิบัติ
จงรักข้าจนสุดขั้วหัวใจเถอะ ต้องมีความปรารถนาหรือมีอารมณ์ความรู้สึกที่รุนแรง จะเกิดการดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลที่กลุ่มเส้นเลือดดำ จักระ 1 เป็นจุดเริ่มต้นให้พลังคุณฑาลินีขับเคลื่อนลอยขึ้นมาสู่จักระ 4 และ 6 ได้อย่างมหาศาลเกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ของสมองให้สูงขึ้น สามารถเกิดวิวัฒนาการของจิต และสำเร็จทางจิตเป็นคุณธรรมอันวิเศษนี่เอง
จงมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับข้าเถอะ การรวมเป็นหนึ่งเดียวกันมาจากผลของ จักระ 1 จักระ 4 และจักระ 6 ที่สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล จึงทำให้สามารถรวมทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาไว้ที่เดียวกัน โดยปริมาณประจุไฟฟ้าจะขยายออกสู่วงรอบนอก และล๊อคอนุภาคไว้สู่แกนกลาง จึงเชื่อมต่อกับจักรวาลหรือเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลได้ อยู่ที่จักระ 3 ที่มีความเร็ววงรอบสูง เมื่อเกิดภาวะสมดุล และนิ่งโดยสมบูรณ์ที่แกนกลาง...
ด้วยนะ โม พุท ธา ยะ ซื่งก็คือพระพุทธเจ้า 5พระองค์ นะ คือพระกุกกุสันโธ โม คือ พระโกนาคมโน พุท คือพระพุทธกัสสป ธาคือสมณโคดม ยะคือพระศรีอาริยเมตตรัย ทั้งหมดทั้งมวลที่เป็นสิ่งที่ส่งเสริมคือพระพุทธเจ้าทั้ง 5 พระองค์เป็นพระอรหันต์ การที่จะเป็นพระอรหันต์ได้ต้องอยู่ในรูปกัมมันตภาพรังสี เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ถึงแปรธาตุได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราเพิ่มความเร็ววงรอบโดยใช้การพัฒนาจักระ 1 จักระ 4 จักระ 6 ด้วยวิธีการใดก็ตามให้ประจุไฟฟ้าเข้ามาอย่างมหาศาล ก็จะเกิดการแปรธาตุได้...ในที่สุด
เมื่อใดที่ข้าเคลื่อนไหว ข้าคือจักรวาล เพราะถ้าเมื่อเคลื่อนไหว จะเกิดการขับเคลื่อนสามารถดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลและเกิดการรวมเส้นสายเข้ามาจนหนาแน่น จนกระทั่งเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
ข้าเป็นทั้งกลางวัน และกลางคืน ทำไมนะหรือ เพราะเมื่อเราอยู่ในรูปสนามแม่เหล็ก จากการพัฒนาจักระดังที่กล่าวมาแล้วจะเกิดการขับเคลื่อนของกระแสพลังงานเป็นอัตโนมัติ มีการขับเคลื่อนตลอดเวลา เราจะสามารถรับรู้ รู้สึกถึงสิ่งที่มากระทบได้ตลอดเวลาและสามารถเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมันขยาย สลาย ดับไปทุกครั้งไป จนกระทั่งใช้แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้ในทุกๆสถานการณ์ และมันเป็นเช่นนั้นเองทุกครั้งไป....
ข้าคือ ข้าคือ... หมายถึงการรวมทุกสิ่งทุกอย่างจนสามารถเชื่อมต่อและเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล เมื่อมีความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวดแล้ว
ก่อนฝึกปฏิบัติ ควรสวดท่องบ่น เพื่อให้เกิดความเร็ววงรอบ และค่อยฝึกปฏิบัติ หรือท่องบ่นไปเรี่อยๆ จนมาถึงคำว่าข้าคือ ข้าคือ ข้าคือ ข้าคือ ไปเรื่อย ๆ ให้ลากเสียง...คือ...ให้ยาว แล้วเมื่อนั้นการดำดิ่งเข้าสมาธิจะเกิดขึ้น เพราะความเร็ววงรอบที่เกิดขึ้นนี่เอง
คาถาเต็มคือ
จงคิดถึงข้าเถอะ จงรักข้าเถอะ จงรักข้าจนสุดขั้วหัวใจเถอะ จงมารวมเป็นหนึ่งเดียวกับข้าเถอะ ด้วยนะ โม พุท ธา ยะ เมื่อใดที่ข้าเคลื่อนไหว ข้าคือจักรวาล ข้าเป็นทั้งกลางวันและกลางคืน ข้า คือ ข้า.....คือ... ข้า..... คือ.. ข้า.....คือ.. ข้า.....คือ.. ข้า.....คือ...
สุดท้ายทำสมาธิได้เลย...