กลูตาเมต

กลูตาเมตคืออะไร มีผลอย่างไรในการพัฒนาจิต

ในระบบประสาท "กลูตาเมต" ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทที่ออกฤทธิ์แบบกระตุ้นอยู่ในรูปของกระแสไฟฟ้า มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเรียนรู้และจดจำของสมอง เมื่อเซลล์ประสาทหลั่งกลูตาเมตออกสู่ช่องว่างระหว่างไซแนปส์ (ไซแนปติกเคล็ป) แล้วสารนี้จะไปจับกับตัวรับกลูตาเมต กลูตาเมตที่มากเกินไปซึ่งละลายอยู่นอกเซลล์ประสาทและเซลล์เกลียจะถูกดูดกลับเข้าเซลล์โดยอาศัยกลูตาเมตทรานสปอตเตอร์เป็นสิ่งที่สำคัญ..

ในกรณีคนที่สวดมนต์เป็นประจำ จะมีการลอยตัวของพลังงาน ซึ่งอยู่ในรูปกระแสไฟฟ้า ที่ไหนมีประจุไฟฟ้าที่นั่นย่อมมีน้ำตามมาเสมอ จนกระทั่งลอยขึ้นสู่สมอง เกิดการเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ที่สมองจากปริมาณประจุไฟฟ้า และส่งผ่านไปยังระบบประสาททุกส่วน ทำให้เกิดความไวในการรับรู้รู้สึก กลูตาเมตจะทำงานได้ดีและแทรกไปทุกอณูทุกเซลของร่างกาย ตามเซลประสาททั่วร่างกาย จะมีความเร็วในการรับรู้ถึงความรู้สึกได้ดี เมื่อคนที่สวดมนต์ ที่มีอารมณ์เข้าถึงความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติอยู่ในคลื่นความถี่สีแดง ทำให้สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างสูง เมื่อมีการสวดมนต์ จะมีการลอยตัวของพลังคุณฑาลินีลอยขึ้นสู่แนวกระดูกสันหลังไปพร้อมกับน้ำ เข้าสู่สมองส่วนกลาง ทำให้สมองส่วนกลาง มีปริมาณประจุไฟฟ้าจำนวนมาก มีการสั่นสะเทือนสูง มีความเร็ววงรอบเร็วมาก จึงทำให้เกิดการขยายตัวของพลังงานออกไปสู่วงรอบนอก เปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ของสมองให้อยู่ในย่านความถี่สูง อยู่ในรูปของสนามแม่เหล็ก สารสื่อนำประสาทกลูตาเมตจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อให้มีความไวในการับรู้รู้สึกที่เหนือกายภาพ เข้าแทรกตามเซลประสาท ทั้งแอกซอนและเดนไดร์ท.... ด้วยความเร็วสูง และมีแรงขับที่สูงมากๆ การรับรู้จะรู้สึกตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้ธาตุเหล็กขึ้นสมองเป็นจำนวนมาก สมองเป็นสีเทาจึงเกิดขึ้น การจดจำสิ่งต่างๆ ก็สามารถจดจำข้อมูลต่างๆ ได้ดี ใช้ในการพัฒนาจิตอย่างไร มีผลต่อจิตวิญญาณ คือสมองส่วนท้ายทอย กลูตาเมตจะส่งผลทำให้ระบบประสาทคู่ที่ 5 ไม่สามารถควบคุมได้ โดยแสดงออกแบบไม่ได้ใช้ความคิดแต่เป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่เมื่อพัฒนาต่อให้อยู่ในรูปสนามแม่เหล็ก แล้วมีการขับเคลื่อนเป็นอัตโนมัติแล้ว เมื่อมีสารสื่อนำประสาท กลูตาเมตแล้ว จะมีความไวในการรับรู้รู้สึก เมื่อได้ยินได้ฟังสภาวธรรม เราสามารถเข้าใจ และเข้าถึงสภาวธรรมได้โดยฉับพลัน ....เมื่อมีเหตุปัจจัยถึงพร้อม.....แต่สารกลูตาเมตเมื่อถูกหลั่งมากเกินไปและเราไม่มีวงจรในการขับเคลื่อนพลังงาน จะเกิดการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ อาจมีกล้ามเนื้ออ่อนล้า อ่อนแรงรวมระบบอวัยวะภายในไม่ทำงาน เพราะฉะนั้นการที่จะทำให้สารกลูตาเมตทำงานได้ดีและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย ต้องมีวงจรและพลังงานขับเคลื่อนแบบกระแสอัตโนมัติ มีการทุบตีตามร่างกายโดยเฉพาะหน้าอก เพื่อให้เกิดการกระจายตัวของพลังงาน เมื่อนั้นจะส่งผลการพัฒนาจิตวิญญาณ ได้อย่างไร้ขีดจำกัดเลยทีเดียว..