...........เนื่องจากความหนาแน่นของเส้นสายเริ่มมากขึ้น วิถีของการฝึกจึงเปลี่ยนไป การเคลื่อนไหวก็ช้าลง การพัฒนาแนวกระดูกสันหลังจึงต้องมาใช้เพื่อเร่งความเป็นสนามแม่เหล็กให้ยิ่งยวดขึ้น เพราะแนวกระดูกสันหลังมีส่วนประกอบของธาตุน้ำ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงให้เป็น ซุปเปอร์พลาสมา ที่มีปริมาณประจุไฟฟ้าที่สูง มีการทะลุทะลวงให้ดูดซับประจุไฟฟ้าขึ้นสู่แนวกระดูกสันหลังได้เพิ่มขึ้น การรับรู้ถึงพลังงานจิตวิญญาณจึงเปลี่ยนไป การพัฒนาจะใช้เพียงนิ้วมือโดยการชี้ที่จักระหนึ่ง ในแนวคว่ำและพลิกนิ้วขึ้นมาเพื่อเปิดพลังงาน พร้อมกับงอนิ้วเข้ามาแนวขวาง บิดคลิ๊กนิ้วเล็กน้อย ใช้นิ้วมืออีกข้างล๊อคนิ้วมือระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วหัวแม่มือ เข้ามาให้ชนวงแหวนของอีกมือ แล้วลากขึ้นมาให้เหนือเลยหน้าผากขึ้นไป ยกมือขึ้นไป คลิ๊กนิ้วมือออกด้านนอก ให้ชนกับจุดที่พลังงานขับเคลื่อน แนวกระดูกสันหลัง จะเกิดการทะลุทะลวงด้วยความรุนแรงและรวดเร็ว ทำได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ถ้าทำด้านหลัง จะพบว่ามีแรงดันที่พลังงานขึ้นแนวกระดูกสันหลังได้รุนแรงกว่า เพราะด้านหลังไม่มีสิ่งที่เป็นฉนวน คือด้านหน้าจะมีอวัยวะที่ยื่นออกมา แต่ด้านหลังจะสัมผัสกับแนวกระดูกสันหลังได้ชัดเจน ไม่มีอะไรปิดกั้น
..............ทำลักษณะเดียวกัน โดยชี้หาก้นกบ ของผู้ที่ร่วมฝึกด้วยแนวคว่ำ และพลิกนิ้วให้อยู่ในแนวตั้งงอนิ้วให้ปลายนิ้วหันเข้าหาตัวเอง เพราะคลิ๊กขึ้นเล็กน้อย ส่วนอีกนิ้วมือ ทำการล็อคนิ้วกลางกับนิ้วหัวแม่มือเข้ามาให้ชนกับนิ้วที่ล๊อคบริเวณก้นกบ ดึงขึ้นไปที่เหนือศีรษะ และบิดนิ้วออกด้านนอก พลังงานจะเกิดการหมุนปั่นทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้ที่กระทำจะใช้เท้าโดยการยกปลายเท้าคลิ้วให้หาเส้นเลือดที่บริเวณขาทั้งสองข้าง จะยิ่งทำให้พลังงานที่แนวกระดูกสันหลัง ชับเคลื่อนและพุ่งด้วยความรุนแรง มีผลต่อพลังน้ำในสมองขับเคลื่อนด้วยความรุนแรงและรวดเร็ว เสร็จแล้วผู้ที่กระทำการทะลวงจุด ค่อยๆหันออกไปด้านข้าง ประมาณ 45 องศา จนกระทั่งหลังของทั้งคู่ชนกัน ผู้ที่กระทำการทะลวงจุด ใช้นิ้วมือชี้ไปด้านหน้าจักระหนึ่งและบิดนิ้วออก ส่วนอีกนิ้วมือล๊อคพลังงาน แล้วดึงขึ้นไปเหนือศีรษะ พร้อมกับคลิ๊ก นิ้วออก จะเกิดการรวมแนวกระดูกสันหลังระหว่างคนสองคน เพื่มความเร็วของพลังงานที่ผ่านแนวกระดูกสันหลัง เป็นทวีคูณ เส้นสายจะเริ่มหนาแน่นขึ้น การรับรู้ก็จะเปลี่ยนไปอีกระดับหนึ่ง.........
..........เมื่อทำสำเร็จ ทะลุทะลวงจุดแนวกระดูกสันหลังแล้ว เราสามารถนำมาพัฒนาจักระให้หมุนปั่นเร็วขึ้น โดยการใช้นิ้วมือล๊อคระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วหัวแม่มือแล้วใช้นิ้วชี้ ชี้ลงไปที่บีเทน ส่วนอีกมือให้เลื่อนลงไปที่ไอชีวิตที่อยู่บริเวณใต้รูจมูก คลิ๊กนิ้วออกเล็กน้อยจะเกิดการหมุนปั่นที่สมองส่วนกลางด้วยความรุนแรง และเลื่อนลงมาที่จักระ จะเกิดการหมุนปั่นและขยายออกไปด้วยความรุนแรง เลื่อนลงมาที่ช่องท้อง ก็จะหมุนปั่นที่ช่องท้อง ยิ่งทำให้พลังงานลอยขึ้นด้านบนด้วยความรวดเร็วรุนแรง ส่งผลให้ซีรีเบลลัม มีความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้น รวมถึงเลื่อนมาที่ตันเถียน จะเป็นตัวผลักดันให้พลังขึ้นสู่สมองด้วยความรวดเร็ว การรับรู้เส้นสายจะรับรู้ทั้งตัว ..........
.........เมื่อนั้นการเชื่อมต่อกับทุกๆสิ่งจะทำได้ โดยการใช้มือขวาทำเป็นเกร็งและงอนิ้วเล็กน้อย จะเกิดจักรวาลล๊อคที่เส้นสาย ดันลงด้านล่าง ส่วนอีกมือ ทำการล๊อคพลังงานให้เกิดจิตวิญญาณ โดยการใช้นิ้วกลางและนิ้วหัวแม่มือ ล๊อคพลังงานให้เกิดการขับเคลื่อน ให้ชนกับจักรวาลหรือมืออีกด้านหนึ่ง และเคลื่อนไหวไปตามวาระจิต จะสามารถเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธ์หรือทุกสิ่งที่อยู่รอบๆตัวเรา โดยการเกาะติดเส้นสายที่เชื่อมโยงตัวเรากับสิ่งรอบข้าง เกิด macro cosmic orbit อยู่ตลอดเวลา อัตราความเร็วยิ่งเพิ่มมากขึ้น การล๊อคนิ้วก็เป็นส่วนสำคัญ ดูตามแนว ถ้าแนวนอน แสดงว่าล๊อคเส้นสายแนวตั้งกระแสจะพุ่ง ถ้าล๊อคแนวตั้งแสดงว่าล๊อคแส้นสายแนวนอน กระแสพลังงานจะถูกผลักไปแนวนอน ขยายออกไป ใช้ในการบำบัดรักษาก็ได้ จะเกิดการทะลวงจุดด้วยความรวดเร็ว เมื่อทำแล้ว กระแสพลังงานจะมีความเร็วทำให้สามารถเข้าสมาธิได้อย่างง่ายดาย