คนยุคไอที

คนยุคสมัยนี้ มีแนวโน้มเป็นผู้มีพรสวรรค์ ทั้งนั้น

คนมีพรสวรรค์หมายถึงผู้ที่มีพลังคุณฑาลินีสูง หยั่งรู้ในสิ่งต่างๆ มีการรับรู้ที่ไวกว่าคนปกติ และเป็นโรคที่ไม่ทราบสาเหตุได้ง่าย เพราะอะไรล่ะ เพราะคนสมัยนี้ติดอยู่ในยุคของไอที เล่นไลน์ เกม แชทคุยกัน ขณะที่เล่นสมาร์ทโฟน ต้องก้มหน้าเพื่อกดดูหรือจิ้มแป้นพิมพ์ในสมาร์ทโฟน ส่งผลให้น้ำขึ้นสมองเป็นจำนวนมาก ทำให้สมองได้รับปริมาณประจุไฟฟ้าอย่างสูง ส่งผลต่อไพเนียลแกลนด์ที่อยู่บนก้านสมองหรือเมดดุลลาออบลองกาต้าฝ่อลง ตัวไพเนียลแกลนด์มีหน้าที่หน่วงอารมณ์ทางเพศ แต่ถ้าฝ่อแล้วจะเกิดการสั่นสะเทือนบริเวณนี้สูง จึงเกิดการดูดซับพลังคุณฑาลินีขึ้นสู่สมองในอัตราเร่ง คนที่เล่นสมาร์ทโฟน จะตึงท้ายทอย ขมับ และตึงมากที่สุดคือระหว่างคิ้วหรือตาที่สาม ยิ่งตึงมากเท่าไหร่ ก็จะดูดซับพลังงานหรือประจุไฟฟ้ามามากเท่านั้น

แล้วเกิดการหยั่งรู้ได้อย่างไร ก็เพราะเมื่อพลังคุณฑาลินีลอยขึ้นสู่สมองจะดูดซับประจุไฟฟ้าหรือข้อมูลต่างๆ ขึ้นมาด้วย จึงสามารถหยั่งรู้ได้ แต่ไม่ถาวร และเป็นโรคร้ายต่างๆ ตามมา

ปัญหานี้จะแก้ไขอย่างไร เมื่อเรารู้อย่างนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการใช้สมาร์ทโฟน เราควรมาดูแลตัวเอง โดยการทุบตีบริเวณที่เกิดปัญหา คือท้ายทอย ให้กระจายกลุ่มก้อนพลังงานให้คลายตัว ทำให้การดูดซับพลังงานนั้นน้อยลง ตีตอนเวลาก่อนนอนก็ได้ เพราะขณะนอน เราจะอยู่ในรูปของกระแสไฟฟ้า จะต้องดูดซับพลังงานอยู่แล้ว ทำอย่างไรไม่ให้ดูดซับพลังงานมากไปกว่าเดิม ก็โดยการตีบริเวณท้ายทอยให้พลังงานกระจาย แล้วคืนนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาจะไม่เกิดอาการตึงดึงรั้ง และไม่เป็นตะคริว

ส่วนเพื่อการพัฒนา ถ้าเราต้องรับประจุไฟฟ้าจากภาวะในปัจจุบันอยู่แล้ว เราควรมารู้จัก ประจุไฟฟ้า เพื่อเราจะได้จัดการกับมันได้ เพราะประจุไฟฟ้าที่เข้ามาไร้ทิศทาง เราต้องมาเรียนรู้การจัดระบบระเบียบให้โมเลกุลเรียงไปในทิศทางเดียวกัน และขับเคลื่อนเป็นวิถีโค้ง สร้างทางเดินให้กับพลังงาน เมื่อสร้างเสร็จแล้วต้องทำให้มีความเร็ววงรอบของพลังงานมีความเร็ว โดยการเปลี่ยนคลื่นสมองให้อยู่ในย่านความถี่สูง และสามารถขับเคลื่อนเป็นอัตโนมัติ เมื่อเราได้กระแสอัตโนมัติ ไม่ต้องกลัวประจุไฟฟ้าว่าจะเข้าทำอันตราย เพราะเมื่อเข้ามาแล้ว จะเข้าสู่ทางเดินที่สร้างไว้ ไม่แวะไปกระจุกตัวตามอวัยวะต่างๆ ข้างทาง อีกทั้งเมื่อเกิดกระแสอัตโนมัติแล้ว เรายังสามารถพัฒนาจิตให้เห็นเป็นรูปธรรมสัมผัสได้ จึงทำให้เราสามารถดูจิตเราได้ทุกขณะ เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับเราได้อยู่ตลอดเวลา โดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบนอก แต่กับมองสิ่งภายในหรือจิตได้อยู่เรื่อยๆ

สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คนยุคนี้ต้องเผชิญ จะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสในการพัฒนากาย จิต จิตวิญญาณได้โดยไม่รู้ตัว เมื่อเรามาเข้าโรงเรียนเพื่อให้จิตเรียนรู้ คำว่าวิชชาจะเกิด อวิชชาจะลบเลือนไป สิ่งที่สูงค่าที่สุด อยู่ภายในของทุกคน...สาธุ สาธุ...