ใครเคยสงสัยไหมว่าเวลาตื่นนอน สังเกตไหมว่าบางครั้งแขน ขาชา เหมือนคนเป็นอัมพาต หรือตื่นมาเป็นตะคริว เพราะอะไร เกิดจากมีปริมาณประจุไฟฟ้าอยู่สมองมาก สมองตึง ทำให้ขณะนอน ซึ่งอยู่ในท่านอน ขนานไปกับพื้นโลก ซึ่งอยู่ในรูปของประจุไฟฟ้า สามารถดูดซับพลังงานได้มากขึ้น เส้นเลือดในสมองเกิดการหดตัว ภาวะเลือดที่เลี้ยงสมองน้อยลง ประจุไฟฟ้าจะถูกผลักไปที่แขนและขา ทำให้บริเวณแขนขา ไม่มีความรู้สึกไปชั่วขณะ ต้องรอตื่นสักพัก และค่อยๆ เคลื่อนไหวไปมา จึงจะทำให้แขน ขา สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ยิ่งดูดซับพลังงานมาก จะทำให้ประจุไฟฟ้าแทรกเข้าร่องกล้ามเนื้อรับพลังงานได้มากกว่าเดิม จึงมีการหดเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณน่องทำให้เกิดตะคริว วิธีการก่อนนอน ควรเคลียร์พลังงานที่ศีรษะให้โล่งเสียก่อน โดยการตีที่ท้ายทอยให้พลังงานกระจาย อาจตีที่ศีรษะด้านบน เพื่อให้พลังงานพวยพุ่งขึ้น ตีจนกระทั่งรู้สึกโล่ง สบาย แล้วจึงค่อยนอน ภาวะอาการแขน ขา ชาและเป็นตะคริวก็จะลดน้อยลง จนกระทั่ง ไม่พบอาการดังกล่าว
ทุกอย่างอยู่ในรูปของพลังงานเพียงแต่เรารู้จักพลังงาน เราจะสามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากภาวะที่เป็นอยู่.. ยิ่งคนฝึกพลังช่วงแรก สมองจะตึงมาก ทำให้ดูดซับพลังงานมากขึ้น จึงควรตีบริเวณท้ายทอย ศีรษะเป็นประจำทุกครั้งหลังการฝึกปฏิบัติ เพื่อไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวข้างต้น..
การดูแลตนเองสำหรับผู้ที่ฝึกพลัง
1. อาจมีกลิ่นตัว เนื่องจากเหงื่อออกง่ายจากประจุไฟฟ้าในกระแสเลือดสูง และผิวแห้งจากการระเหยของน้ำออกทางรูขุมขน ควรอาบน้ำบ่อยๆ และทาโลชั่นป้องกัน
2. มีกลิ่นปาก เพราะในช่วงแรก จะเกิดการดูดซับประจุไฟฟ้าคลื่นที่มีความสั่นสะเทือนสูง เข้าไปที่ลำไส้ เพราะลำไส้มีไขมันสามารถดูดประจุเข้าไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดกลิ่นได้ วิธีการอมน้ำมันมะพร้าว ทานโยเกิร์ต +นมสด+มะนาว+น้ำผึ้งผสมเข้าด้วยกัน และทานในช่วงเช้า ก็จะสามารถหายได้ อีกตัวหนึ่งที่สามารถใช้ได้ผลคือ แก่นตะวัน หาซื้อได้ตามห้างและร้านดอยคำ ทานเข้าไป 1 แง่ง จะทำให้ทั้งเรอและผายลมออก ถ้าในที่กรณีลำไส้มีแก๊สเยอะ อีกอย่างคือ คนที่ฝึกพลังท้องอืดง่าย ต้องมียาประจำตัวคือยาธาตุน้ำขาว แนะนำตรากระต่ายบิน และยาช่วยย่อยคือ Air X เพื่อลดทอนความอึดอัด ในกรณีเร่งด่วน
3. คนที่ฝึกพลังอาจมีอาการดังต่อไปนี้ ถ้ามีอาการร้อนที่ไหน แสดงว่ามีประจุไฟฟ้าอยู่ตำแหน่งนั้นมาก ทางเราขอแนะนำน้ำมันเหลือง Aroma oil acupuncture therapy ตัวยาจะมีคุณสมบัติปราบออกซิแด๊น ในร่างกาย มีประจุไฟฟ้าอยู่ที่ไหนจะวิ่งไปตรงจุดนั้นทันที สำหรับผู้ที่มีประจุไฟฟ้าเยอะจะเย็นทันที แม้บางครั้งไม่ได้เปิดฝา หรือการดึงประจุลงน้ำ ใช้น้ำอุ่นจัดๆ ใส่เกลือเล็กน้อย และแช่เท้าประมาณ 20 นาที ห้ามแช่ซ้ำอีกครั้งในวันนั้นเพราะประจุไฟฟ้ามีทั้งขาเข้าและขาออก อีกอย่างคือจุดเทียน ขนาดใหญ่แล้วดึงประจุลงวงรอบชองไฟ จะรู้สึกเย็นขึ้น เพราะไฟมีความเร็ววงรอบสูง ทำให้พลังงานละเอียดเนียนได้
4. คนที่ฝึกพลังทุกคนจะต้องมีการทุบตีตามร่างกายเป็นประจำ เพื่อไม่ให้ไฟฟ้านั้นกระจุกตัวตามอวัยวะต่างๆ จะเกิดการกระจายตัวของพลังงาน ร่างกายถึงจะแข็งแกร่ง
5. สำหรับคนที่เริ่มฝึกใหม่ที่เป็นสตรี จะมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ จากช่องคลอด เพราะประจุไฟฟ้าเกิดการชนกันทำให้เกิดความร้อนมีสภาพเป็นกรด เกิดการกัดกร่อนเนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอด ควรใช้น้ำมันมะพร้าวในการดูแลหรือใช้บวมฝานบางกำลังดีและชุบน้ำผึ้ง น้ำผึ้งจะเป็นตัวสมานแผลที่ดีและฆ่าเชื้อได้ ส่วนบวบมีคุณสมบัติเย็นดับพิษร้อนได้
6. ควรโยคะเป็นประจำเพื่อยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ให้พลังงานที่อยู่ตามกล้ามเนื้อและข้อกระดูกออกมา ลดทอนพลังงานที่ไต ที่ประจุไฟฟ้าเข้ามา ใช้การตีบริเวณไธมัส เพื่อให้พลังงานลอยจากไตขึ้นมาแล้วดึงออก หรือถูมือทั้งสองให้ร้อนและจับบริเวณไต จะเกิดการปั่นของพลังงานจนกระทั่งเรารู้สึกสบายแล้วจึงคลายออก
7. ดื่มน้ำหวานบ่อยๆ เพราะคนที่ฝึกจะต้องรับประจุไฟฟ้าปริมาณสูง ทำให้ตับทำงานหนัก ปากจะแห้ง อ่อนล้าอ่อนแรง ควรมีน้ำหวานติดบ้านไว้ เป็นน้ำผึ้งก็ดีเพราะน้ำผึ้งมีพาราฟินจะช่วยเคลือบเส้นสายไม่ให้เราบาดเจ็บจากประจุมากนักและเป็นตัวดักจับประจุแบบดีเยี่ยมเลย เวลาทานน้ำผึ้งก็ค่อยๆจิบ ไปเรื่อย มันจะแทรกซึมเข้าเส้นสายภายในกายได้เอง
8. ไม่ควรให้ศรีษะตึงเกินไป ควรเคลียร์พลังงานโดยการทุบตีให้กระจาย เพราะถ้าตึงจะทำให้ประจุไฟฟ้าเข้าไม่หยุด
9. ปวดบริเวณทวารหนักเหมือนใครเอาอะไรมาตอก ไม่ต้องตกใจมันมาจากประจุไฟฟ้าเข้าที่ลำไส้มากเกินไป อาจจะปวดบริเวณก้นกบด้วยก็ได้
คนที่เริ่มฝึกระยะแรก อาจมีอาการเหมือนเข็มทิ่มตามตัว เพราะเส้นสายสนามแม่เหล็กจะเข้ามาแทนที่ประจุไฟฟ้าไม่ต้องตกใจ เด๋วมันจะปรับสภาพไปได้เอง พยายามเร่งฝึกให้เร็วที่สุด เพื่อกายนี้จะได้เปลี่ยนแปลงเป็นสนามแม่เหล็กช่วงแรกต้องรับประจุไฟฟ้าให้เต็มที่จนอัดแน่นกลายเป็นอนุภาคที่หนาแน่น หลังจากนั้นเมื่อมีประจุไฟฟ้าเข้าเท่าไหร่ก็สามารถผลักดันออกไปสู่วงรอบนอกไม่เกิดอันตราย บางครั้งคนที่ไม่ได้ฝึกพลังแต่ก็มีพลังอยู่แล้ว ก็อาจมีอาการข้างต้นที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด
การบริหารกายสำหรับคนฝึกพลัง
คนที่ฝึกพลัง ควรบริหารกายตามจุดต่างๆ เพราะเมื่อประจุไฟฟ้าเข้ามาก ๆ จะเกิดกรดยูริคและแลคติค ทำให้เกิดการตึงดึงรั้ง อาจมีแคลเซียมตามข้อกระดูก วิธีการบริหารร่างกาย เตรียมร่างกาย
สบัดมือ สบัดเท้า ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
1.กระโดดด้วยปลายเท้าแล้วส่ายศรีษะ นับออกเสียง 30 ครั้ง
2.เริ่มตั้งแต่ข้อเท้า ใช้ปลายนิ้วเท้าตั้งขึ้นแล้วหมุนซ้าย 20 ครั้ง ขวา 20 ครั้ง
3.หมุนเข่า โดยจับเข่าสองข้าง หมุนซ้าย 30ครั้ง ขวา 30 ครั้ง
4. หมุนเอว ซ้ายและขวา ข้างละ30 ครั้ง
5. ก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งไปด้านข้าง มือเท้าเอวข้างหนึ่งใช้แขนอีกข้างหมุนไป 30 ครั้ง และหมุนกลับ 30 ครั้ง หลังจากนั้นสลับทำอีกด้านหนึ่ง
6.จับใหล่สองข้าง แล้วหมุนเข้า 30 ครั้งและออก 30 ครั้ง
7.หมุนคอเป็นวงกลม ทางซ้าย 20 ครั้ง ทางขวา20 ครั้ง หลังจากนั้นให้รีบก้มทันทีแล้ว ยกชูมือขึ้น 10 ครั้ง
8. ชูมือสองข้างแล้วก้มลง ปลายมือออกไปด้านนอก เข้ามาตรงกลาง และเข้ามาด้านใน นับ 1 2 3 แล้วชูมือขึ้น ทำ 30 ครั้ง
9.หลังจากนั้น สบัดมือ สบัดเท้า ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ แล้วยืนเข้าสมาธิสักพัก...