ตันตระ คือสายป่านของจักรวาลที่อยู่ในรูปของสนามแม่เหล็ก การที่เราจะรวมเส้นสายหรือสายป่านจักรวาล เราจะต้องมีความรักในสรรพสัตว์ทั้งปวง (โพธิสัตว์) ซึ่งตรงกับคัมภีร์ บทเริ่มต้นสู่ตันตระทรรศนะแห่งความบริบูรณ์ ว่าด้วยเรื่อง การยึดมั่นตนเองคือเหตุของความทุกข์ และความไม่พอใจ ขณะที่ยึดเอาจิตใจของผู้อื่นมากกว่าตัวเอง คือ พื้นฐานของการตระหนักรู้และความรู้ทั้งปวง เพราะเมื่อเรามีความรักให้กับผู้อื่นโดยไม่ได้หวังผลสิ่งใด เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีข้อแม้ใดๆ เมื่อนั้นใจของผู้ฝึกตันตระ จะขยายออกไปกว้างไกล เพื่อดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล และไม่เกิดการบาดเจ็บใดๆ จึงเกิดความเร็ววงรอบของพลังงานสูง ขยายชั้นพลังงานออกไป จนไม่มีขอบเขต เมื่อนั้น เส้นสายหรือสายป่านจักรวาลจะเข้ามาแทนที่ สิ่งที่ผู้ที่ฝึกตันตระนั้นจะได้รับคือเส้นสายที่หนาแน่น ความเป็นสนามแม่เหล็กก็จะเพิ่มขึ้น จนกระทั่งเส้นสายนั้นรวมมาชิดกัน ไร้ระยะทาง ไร้กาลเวลา ทุกสิ่งทุกอย่างรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในจักรวาล คัมภีร์บทเริ่มต้นสู่ตันตระทรรศนะแห่งความบริบูรณ์ จึงสอนให้เป็นผู้อุทิศตน สร้างบรรยากาศบางอย่างของพลังสร้างสรรค์ในตัวเอง ความตั้งใจที่จะแบ่งปันความสุขให้แก่ผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทำให้ใจเป็นอิสระ ไม่ยึดมั่นในตนเอง เพราะการยึดมั่นในตนเอง คือ เหตุแห่งความสับสนและคับข้องใจทั้งปวง ความเห็นแก่ตัวแคบๆ มักนำไปสู่ความผิดหวังและจะกระจ่างเท่าๆ กับใจที่เปิดกว้าง ส่วนการอุทิศตนเพื่อผู้อื่น นำพาไปสู่ความผาสุกและความรู้สึกดี
จิตใจที่คับแคบ เห็นแก่ตัวเองเป็นสำคัญ ก็จะทุกข์อยู่ร่ำไป เพราะอะไร เพราะยึดสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าพอใจ ถ้าไม่ได้ดังใจปรารถนาก็ยึดไว้ ความเร็ววงรอบของพลังงานจึงช้าลง ยึดอยู่ในคลื่นความถี่ที่ไม่พอใจขณะนั้น แต่ถ้าเราเห็นแก่ผู้อื่น ให้ผู้อื่นมีความสุข จะเกิดความเร็ววงรอบของพลังงานไม่มีที่สิ้นสุด พลังงานขับเคลื่อนอย่างอิสระ ความสุขนี้จะยั่งยืนถาวร เมื่อจิตขับเคลื่อนอิสระ จะทำให้ความเร็ววงรอบพลังงานสูง การเข้าใจเข้าถึงธรรมจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป คนเรามีทุกข์ก็เพราะยึด ตันตระจึงสอนให้เป็นผู้ที่อุทิศตน ดังเช่นโพธิสัตว์ จนกระทั่งเป็นบันไดของการบรรลุทรรศนะอันบริบูรณ์ของการตรัสรู้ที่สมบูรณ์