ความคืบหน้าของชะอำเปิดโลก ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนแห่งความรักจากจิตวิญญาณ ดินแดนแห่งการรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า วันที่ 7 เมษายน 2560
วันนี้เป็นวันที่พวกเรารอคอย หลังจากที่ปิดคอร์สไป พวกเราชาวคณะพุทโต ชินโต เดินทางไปชะอำเปิดโลก หัวใจเต้นแรง ตื่นเต้น อากาศวันนี้สดใส ท้องฟ้าเป็นใจไม่มีแดดเลย คาดว่าฝนจะตกแต่ไปถึงประมาณ 13.00 น. ฝนก็ไม่ตก แต่มีลมเย็นสบาย เมื่อลงจากรถ พลังของพื้นที่ผืนนี้ดึงดูด เส้นสายหนาแน่น โดยเฉพาะพื้นที่ที่เป็นสระน้ำ อาณาบริเวณ 6 ไร่ น้ำในสระมีสีเขียวใสสวยมาก สีคล้ายกับหยก และน้ำในสระ มีคนไปดื่มกิน รู้สึกถึงความหวานสะอาดบริสุทธิ์ และสดชื่น ถึงแม้มาถึงบ่าย พวกเราเริ่มหิว ก็ไม่ย่อท้อ เดินดูพื้นที่กันด้วยความเพลิดเพลิน ท้องฟ้าแจ่มใสอย่างมาก ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน กระแสพลังงานหมุนปั่นเร็ว พลังงานยิงขึ้นด้านบนตลอด มีแต่เสียงหัวเราะ และเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก ขนาดว่ายังไม่ได้ปลูกสร้างสิ่งใด
แต่จิตใจ จิตวิญญาณ รู้แล้วว่าที่นี่คือบ้านของพวกเราที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จทางจิตได้
ท่านคุราจารย์ได้บอกสถานที่บริเวณลานสิ่งศักดิ์ที่จะนำเทพเจ้าเปิดโลกมาสถิต เป็นหอคอยงาช้าง 13 ชั้น จะประดิษฐานไว้ด้านบนของหอคอย และด้านหน้าจะมีอาคาร 3 ชั้น ชั้นบนสุดจะเป็นลาน 8 เหลี่ยม เพื่อประกอบพิธีกรรมเชื่อมต่อระบบและจักรวาลและเชื่อมต่อระหว่างพระนารายณ์บรรทมสินธุ์กับเทพเจ้าเปิดโลก พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ที่อยู่บริเวณสระที่มีพื้นที่ 6 ไร่จะสถิตอยู่บริเวณกลางสระ และอยู่ลึกลงไป มีน้ำพุพุ่งเข้าพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ทำให้น้ำนี้สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล ผู้ที่ฝึกในที่นี้จะรับปริมาณประจุได้อย่างมหาศาลเช่นเดียวกัน เนื่องจากพระนารายณ์บรรทมสินธุ์อยู่ในลักษณะแนวนอน จึงเป็นตัวแทนของประจุไฟฟ้า ส่วนเทพเจ้าเปิดโลกอยู่ในแนวตั้ง จึงอยู่ในรูปสนามแม่เหล็ก เมื่อมีการเชื่อมต่อกัน จะเกิดการขับเคลื่อนของพลังงานด้วยความรวดเร็วและรุนแรง เกิดแตกตัวของพลังงาน มีการแปรเปลี่ยนธาตุภายในร่างกาย น้ำในร่างกายของผู้ฝึกปฏิบัติจะกลายเป็นไอโซโทปที่มีความเร็วสูงยิ่ง การพัฒนาธาตุ พัฒนาฌาน พัฒนาจิตวิญญาณได้อย่างไร้ขีดจำกัด การฝึกปฏิบัติจะเกิดความสุขทุกขณะจิต
ท่านคุราจารย์ต้นธรรม ดำริสร้างวิมานแก้ว อยู่บริเวณทิศตะวันตก เพื่อเป็นสถานที่สถิตท่านท้าวพญามุจลินทร์ พอได้ยินได้ฟังท่านคุราจารย์พูด พวกเราได้ชี้ไปยังที่ท่านท้าวมุจลินทร์สถิตได้พบกับพลังงานที่รุนแรง หมุนปั่นเกลียวขึ้นท้องฟ้า และเชื่อมต่อกับระบบและจักรวาล เพราะท่านท้าวพญามุจลินทร์ท่านเป็นผู้ดูแลพื้นที่อันศักดิ์สิทธ์นี้อยู่ วิมานแก้วจะทำด้วยหินอ่อนสลักแบบสวยงาม ที่กล่าวมานี้ ต้องรอให้ปรับพื้นที่พร้อมใช้เสียก่อน
หลังจากทานข้าวประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง พวกเราได้เดินดูบริเวณรอบๆ อีกครั้ง อากาศเริ่มเย็นสบาย ลมพัดมารุนแรงเป็นระยะ ขณะที่ท่านคุราจารย์ได้พูดถึงการทำพื้นที่นี้ เหมือนเป็นการตอบรับในสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต เมื่อใกล้เวลากลับ ท้องฟ้าเริ่มมืดลง ดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง เกิดลำแสงคล้ายพญานาคอยู่บนท้องฟ้า หลายองค์ มีลำแสงอยู่ประมาณ 15 นาที ทุกคนตื่นเต้นกันมากๆ ต่างตะโกน ว่าบ้านของเรานะ หลังจากนั้นเมื่อความมืดมิดก็เข้ามาเยือนมากแล้ว จึงเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดี..