รูปลักษณ์สัญญาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีผลต่อการพัฒนาจิตชั้นสูงอย่างไร
รูปลักษณ์สัญญาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าอยู่ในแนวตั้งและมีเศียรหลายเศียรขึ้นไป จะทำให้สามารถปลดปล่อยประจุได้ดี เกิดการทะลุของพลังงานได้สูง และยิ่งมีหลายกร จะเกิดการแยกของประจุไฟฟ้าและอนุภาคออกไปไกล บ่งบอกถึงความเป็นสนามแม่เหล็ก เช่นพระแม่กวนอิมพันมือ พระศิวะนารายณ์เจ้า ยิ่งมีพระเศียรมากเท่าใด เท่ากับซีริเบลลัมก็จะมากตามเท่านั้นเมื่อเราใช้รูปลักษณ์สัญญานี้เราก็จะได้ความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวด ส่วนรูปลักษณ์สัญญาของสิ่งศักดืสิทธิ์ที่อยู่ในแนวนอน เช่นพระพิคเณศ บางเสวยสุข พระนารายณ์บรรทมศิลป์ ในภาวะแนวนอนนี้ จะสามารถดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล กระตุ้นให้พลังคุณฑาลินี ลอยตัวขึ้นสู่สมองได้สูง เกิดจิตวิญญาณในการรับรู้ได้จนกลายเป็นจิตอันวิเศษ ทั้งรูปลักษณ์สัญญาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แนวนอน และแนวตั้ง จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน อีกกรณีรูปลักษณ์สัญญาของเศียรพระฤษี ต่างๆ เช่นพระฤษีตาไฟ พระฤษี นารอด พระฤษีนารายณ์ พระฤษีอิศวร เป็นต้น ทั้งหลายจะต้องมีปล่องขึ้นไป เอาไว้ทำอะไร เอาไว้เมื่อพลังงานเข้ามามากและไม่สามารถปลดปล่อยได้ทัน จะใช้เศียรพระฤษี ช่วยในการรวมประจุให้ปลดปล่อยออกจากศรีษะของผู้ที่ฝึกพลัง ไม่งั้นปริมาณประจุไฟฟ้าที่มากอาจทำให้เส้นเลือดแตกได้จากแรงดันของเลือดที่สูงขึ้น จะมีแรงเหวี่ยงขึ้นด้านบน ความเร็ววงรอบที่สูง และเป็นการปลดปล่อยที่ดี อีกทั้งเป็นตัวจัดระบบให้เส้นสายลงมาสวนทางกับประจุไฟฟ้า พัฒนาความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้น รูปลักษณ์สัญญาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกอย่างอยู่แต่ละคลื่นความถี่ ความเร็ววงรอบที่ไม่เท่ากัน ทุกกรณีต่างเลือกใช้ตามวาระจิตที่เกิดขึ้น คือตามความรู้สึกที่สัมผัสได้ ดูตามรูปลักษณ์แต่ละอย่างเช่นเศียรพระฤษี จะมีผลต่อระบบประสาทคู่ที่ 5 ซึ่งมีผลต่อจิตวิญญาณ หรือสมองส่วนหลัง ทำให้เกิดการสร้างจิตวิญญาณ ได้ดี พยาครุฑ รูปลักษณ์บ่งบอกถึงพลังคุณฑาลินีที่มหาศาล เพราะพระยาครุฑ กางขาออกมาก ทำให้เปิดช่องปราน เปิดรับพลังงานได้อย่างมหาศาล วงขาจึงมีความเร็ววงรอบสูง ส่งผลให้เกิดการลอยตัวขึ้นสู่สมอง พัฒนาไอชีวิตเพื่อล่าสนามแม่เหล็ก มาพัฒนาจิตในอันดับต่อไป... ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถพัฒนาจิต จากคลื่นได้ ถ้าเราสามารถสัมผัสเส้นสายเป็น เราจะมีความสุขในการปฏิบัติ และเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ในแต่ละวัน ทุกวันจะมีคุณค่า โดยไม่มีการปรุงแต่งเพียงดูคลื่นเป็นและนำมาพัฒนา....ต่อยอดจนมีเหตุปัจจัยถึงพร้อมในความสำเร็จทางจิตโดยสมบูรณ์
การพัฒนากาย จิต จิตวิญญาณโดยใช้รูปลักษณ์สัญญาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นตัวส่งเสริม ทำได้อย่างไร
เพราะรูปลักษณ์สัญญาของสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลาย โดยเฉพาะองค์เทพต่างๆ เราสามารถนำมาพัฒนาจิตได้จากคลื่นความถี่ของแต่ละองค์ไม่เท่ากัน ดูจากรูปลักษณ์สัญญาจะพระกร พระเศียร ยิ่งมีพระกรมาก จะทำให้เกิดการดูดซับพลังงานและผลักดันพลังงานออกได้อย่างมหาศาล จากการที่พระกรชี้ออกไปทุกทิศทุกทาง คนที่มีพรสวรรค์ หรือคนที่มีพลังคุณฑาลินีสูง หรือคนที่เจ็บป่วยอย่างมากๆ ควรใช้องค์เทพที่มีพระหัตถ์ พระกร มากๆ เช่น พระแม่กวนอิม พระศิวนารายณ์เจ้า เหวัชระ พระแม่กาลี พระแม่ทุรคา จะทำให้เกิดการผลักดันให้ประจุออกไปได้ไกล และดูดซับเข้ามาได้อย่างมหาศาล เหมาะแก่การบำบัดรักษาและพัฒนาจิต แต่การตั้งสิ่งศักสิทธ์ที่มีหลายพระหัตถ์ พระกร ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ถ้าตั้งผิดทิศทาง ผิดตำแหน่งโดยการเอียงไปทางใดทางหนึ่งทำให้เกิดความไม่สมดุล จะทำให้คนที่อยู่ ณ บริเวณนั้นเกิดความเจ็บป่วยได้ อาจจะปวดหัวอย่างรุนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ รูปลักษณ์สัญญาที่มีพระหัตถ์ พระกรมาก จึงถือว่าทำให้เกิดความเร็ววงรอบของพลังงานไม่มีที่สิ้นสุด องค์เทพที่มีเศียรมาก ก็ถือว่าทำให้เกิดพลังงานอย่างมหาศาลเช่นเดียวกัน เช่นพระศิวะ 5 เศียร เนื่องจากมีเศียรมาก ไพเนียลแกลน medullar oblongata และ Amygdala ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนดูดซับประจุไฟฟ้าเข้ามาได้ เมื่อตาเรามองไปยังพระศิวะ 5 เศียร จะเชื่อมต่อกับสมองส่วนท้ายทอยของเรา ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนดูดซับพลังงานเป็น 5 เท่าเช่นเดียวกับพระศิวะ 5 เศียร เป็นความแยบยลของคนโบราณ ที่ใช้รูปลักษณ์สัญญาของสิ่งศักดิ์สิทธ์ เพื่อให้เรามีความเร็ววงรอบ พัฒนาให้เท่ากับสิ่งศักดิ์สิทธ์แต่ละองค์ตามคลื่นความถี่ที่อยู่ในรูปลักษณ์สัญญาที่ปรากฏ สิ่งที่มหัศจรรย์ก็คือ เศียรพระฤษี เศียรพระฤษี ที่มีอยู่โดยทั่วไป ใบหน้าจะใช้ระบบประสาทคู่ที่ 5 เป็นภาวะที่ผู้ฝึกปฏิบัติมองแล้ว จะทำให้เกิดจิตวิญญาณสูง เพราะเมื่อเกี่ยวข้องกับระบบประสาทคู่ที่ 5 ท้ายทอยจะตึงมาก และเกิดความเร็ววงรอบตามลักษณะของใบหน้าของพระฤษีที่ปรากฏ ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ พระฤษีที่มีฌาน ตบะ แก่กล้า จะมีตาที่ สามปูนออกมา เพราะตาที่สามหมายถึงพลังคุณฑาลินี ที่มาจากจักระ1 อย่างมหาศาล ทำให้เกิดพลังอย่างมหาศาลเช่นเดียวกัน ฤษีแต่ละท่านก็มีความสามารถแตกต่างกัน บางท่านใช้ในการรักษาบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ เช่นพระฤษี ตาไฟ พระฤษีนารอด หรือเรียกว่าพระฤษีนารัทธะ แล้วแต่วาระจิตจะเลือกฤษีองค์ไหนมาใช้ในการบำบัดและพัฒนาจิต การตั้งเศียรพระฤษีก็มีผลต่อพลังถ้าก้มเศียร จะทำให้มีผลต่อพลังภายในเรา กระแสพลังงานจะเข้าอย่างมาก ถ้าก้ม จะมีผลต่อกลุ่มเส้นเลือดดำ อาจตึงขมับ ปวดศีรษะ ร้าวต้นคอ ร้าวกระดูกแผ่นหลัง ร้าวไปในกระดูกทั้งตัว สำหรับผู้ที่มีพรสวรรค์จะอยู่ไม่ได้ สิ่งที่สำคัญของพระฤษีคือประจำยามกับเสริดบ่งบอกถึงอัตราการพุ่งและเทริดจะบังคับกระแสให้ออกตรงกลาง คนที่มีพลังงานมาก จะมีพลังขึ้นสมองอย่างมาก อาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ ใช้วิธีการรวมพลังงานให้อยู่ในปล่องเทริดนี้ พระไพราวะ หรือพระพิราบ เป็นบรมครูใหญ่นาฏศิลป์ พวกนาฏศิลป์ จะบูชาพระพิราบ เล่นไม่ได้อาจถึงกับเสียชีวิตได้ ที่เนปาล ภูฐาน ธิเบต จะไว้ตั้งที่ศาลศักดิ์สิทธิ ชาวเนปาล ภูฐาน ธิเบตจะไม่กล้าพูดโกหก เพราะท่านพระพิราบจะลงโทษถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนท้าวเวสสุวรรณ เป็นขุมคลังแห่งสมบัติของสวรรค์ ประจำอยู่ทางทิศเหนือ ของไทย ท้าวเวสสุวรรณจะเกี่ยวข้องกับเงินทอง ในประเทศไทยพระฤษีที่มีตาที่สาม นิยมตาที่สามเปิดเล็กน้อยเพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดอันตราย แต่สำหรับคนที่ฝึกพลังแล้วควรเปิดตาที่สามให้กว้างมีผลต่อพลังคุณฑาลินี เพื่อพัฒนาต่อยอด ได้ สำหรับคนทั่วไป ไม่ควรเปิดกว้างมาก จะเกิดการดูดซับประจุไฟฟ้าเข้ามาอย่างมากทำให้เกิดอันตรายได้ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิอีกหลายองค์ ที่มีลักษณะเฉพาะตามรูปลักษณ์สัญญาที่ก่อเกิดพลังอย่างยิ่งยวด พระฤษีที่เป็นบรมครูของตันตระคือพระฤษีอินดาวัส ที่คานหูเป็นพยานาค ข้างที่ติดประจำยามเป็นลายกนกปีกนก และเที่เทริด เป็นพญานาค มี 3 เศียรหมายถึงเป็นผู้พ้นการเวลาโดยผ่านแนวกระดูกสันหลัง เป็นเครื่องบ่งบอกว่า ถ้าเส้นแรงมารวมกันที่แนวกระดูกสันหลัง จะทำให้ระยะทางหายไป กาลเวลาหายไป ตาที่สามจะเป็นตาไฟ จะต้องมีตาเป็นเพลิงสีแดง และเป็นเจ้าแห่งกาลเวลา เรียกว่ามหากะลามุนี ถือว่าเป็นบรมครูของตันตระโดยแท้ เพราะตันตระแปลว่าสายป่านแห่งจักระวาล ใช้พัฒนาจิตระดับสูง และเมื่อฝึกพลัง ต้องมีจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์คอยดูแล มิสามารถใช้ทางการแพทย์ รักษาได้เพราะอยู่ในรูปของพลังงาน การบูชาฤษีแต่ลงองค์ แล้วแต่วัตถุประสงค์ ว่าเพื่ออะไรดูตามรูปลักษณ์สัญญาของพระฤษี สิ่งทั้งหลายจะสามารถคล้อยตามพลังที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ต้องมีจิตวิญญาณในการรับรู้ถึงเรื่องพลังงาน ซึ่งคนปัจจุบันสามารถพัฒนาได้จากจำนวนประจุไฟฟ้าที่มหาศาล แต่ถ้าไม่สามารถสัมผัสได้เราจะไม่รู้มูลเหตุของโรคที่ไม่ทราบสาเหตุที่เกิดขึ้นเลย การใช้รูปลักษณ์สัญญาของสิ่งศักดิ์สิทธ์ ถือว่าเป็นการพัฒนาคลื่นให้มีความเร็ววงรอบ ตามเคลื่นสัญญานั้น..