สิ่งที่เป็นองค์ประกอบในการฝึกพลังและการดำเนินชีวิต
อ ที่ 5 คือเอาออก
การเอาออกนี้เกี่ยวกับของเสียทุกทาง คือทางอารมณ์ ทางเหงื่อ และระบบขับถ่าย
ระบบขับถ่ายมีความสำคัญ คนที่ไม่ถ่ายอุจจาระเลย ทำให้ของเสียเกิดการดูดซึมย้อนกลับไปตามเซลส่งผ่านไประบบผิวหนัง อาจมีกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ การขับถ่ายควรขับถ่ายให้เป็นเวลา ตื่นขึ้นมา ควรดื่มน้ำเพื่อให้ระบบลำไส้ทำงาน และเข้าห้องน้ำ นั่งให้เป็นเวลา ไม่ควรเบ่ง ...รอเวลาจนกระทั่งขับถ่ายได้เอง เพราะการเบ่งจะทำให้ เกิดแรงดันที่เส้นเลือดดำบริเวณรูทวาร เป็นเหตุของโรคริดสิดวง การสวนล้างพิษทางทวาร จะทำให้ระบบประสาทที่รับผิดชอบในการขับถ่ายสูญเสียไปไม่สามารถขับถ่ายได้ตามปกติ และเป็นการทำให้เกิดการระคายเคืองในระบบลำไส้ อาจเกิดโรคร้ายตามมา อีกกรณีหนึ่งคนที่สวนทวาร จะทำให้เกิดการกระตุ้นที่ระบบประสาทคือ G spot ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เกิดประจุไฟฟ้ายิงขึ้นสู่สมองตลอด เกิดการดูดซับประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล อยู่ตลอดเวลา ถ้าคนโดยทั่วไปถ้าไม่มีวงจร ไม่มีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ จะเกิดโรคต่างๆตามมา เพราะท้ายทอยจะตึงและดูดซับประจุได้เรื่อยๆ แต่ไม่มีหนทางออก ต้องมาจัดวงจร ให้มีการขับเคลื่อนของพลังงานแบบอัตโนมัติ มีการดูดและผลักตลอดเวลา อยู่ในรูปของสนามแม่เหล็ก และอาศัยองค์ความรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นและการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง
สิ่งที่ควรปฏิบัติคือการขับถ่ายของเสียทางเหงื่อออกมาจากผิวหนัง จะเป็นการสลัดประจุไฟฟ้าที่ดี โดยใช้การออกกำลังกาย 15 นาทีขึ้นไป จะเกิดการขับเคลื่อนของพลังงาน เหงื่อจะออกมามากตามตำแหน่งที่มีประจุไฟฟ้าอยู่ เป็นการสลัดประจุที่ดี เพราะเมื่อเคลื่อนไหวแล้วไฟฟ้าที่แทรกตามกล้ามเนื้อและข้อกระดูกจะขับเคลื่อนออกมา ทำให้เรารู้สึกอาการเมื่อยตึงดังรั้ง นั้นหายไป กระแสพลังงานจะมีความเร็ว สารเอนโดรฟินหลั่ง ทำให้มีความสุข คนบางคนจึงติดในการออกกำลังกาย เมื่อเหงื่อออกแล้วแสดงว่ามีการเคลื่อนตัวของพลังงาน ความเร็ววงรอบสูง สารแห่งความสุขก็จะเกิดขึ้น เป็นความสุขที่หาได้จากการเคลื่อนไหว
การดีท๊อกซ์ทางด้านอารมณ์ก็จำเป็นสำหรับผู้ที่ฝึกพลัง เราใช้การอินไปกับเสียงเพลงและปลดปล่อยอารมณ์ไปกับสัญญาที่เรามีในเพลงนั้นๆ อาจจะเป็นความหลังที่เราอกหัก เศร้าเสียใจ ผิดหวัง ในด้านพลังงาน จากสมองที่ดูดซับพลังงานไร้ทิศทางดูดซับพลังงานอย่างมหาศาล และเกิดการชะลอตัวของความเร็วของพลังงาน ทำให้มีการกระจุกตัวของพลังงาน อัดแน่นบริเวณไทมัส มีภาวะหดหู่ซึมเศร้า เราใช้การฟังเพลงให้เป็นประโยชน์ในการขยายสัญญานั้นออกไป โดยการยอมรับกับสัญญาอารมณ็ที่เคยเกิดขึ้น และเผชิญกับสิ่งที่เกิด เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าคนทั่วไป อาจจะร้องไห้ ถ้าจะร้องไห้ให้ร้องไป ถึอเป็นการระเบิดอารมณ์ หรือปลดปล่อยอารมณ์นั้นออกไป จะเกิดความเร็ววงรอบสูง ความสุขนั้นก็จะมาเยือน แต่ในแนวของผู้ฝึกพลัง เนื่องจากปริมาณประจุไฟฟ้าในกระแสเลือดมีจำนวนมาก อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นจะรุนแรง เราสามารถดูอารมณ์ในรูปคลื่นได้อย่างชัดเจน เราใช้การรับรู้ เฝ้าดู ติดตาม อยู่เฉย อยู่เป็นประจำจนมีความชำนาญ ดูคลื่นการสั่นสะเทือนที่มากระทบ ดูมันเป็นเห็นมันไป สุดท้ายมันเป็นเช่นนั้นเอง ....เข้าหลักวิปัสสนากรรมฐานโดยแท้ นี่แหละคือการเอาออกหรือดีท๊อกซ์ ทางอารมณ์…การปล่อยวาง การไม่มีอัตตาตัวตน ทำให้การดีท๊อกซ์อารมณ์เป็นผลสำเร็จที่น่าพอใจ ส่งผลการพัฒนาจิตในอัตราเร่งได้เป็นอย่างดี...