เมื่อมีความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้น ประจุไฟฟ้าจะเข้าแทรกทุกเส้นสาย ทำให้เกิดอาการตึงดึงรั้ง ทั้งร่างกาย เกิดลมในช่องท้อง ท้องอืด และเมื่อช่องท้องมีลมมาก จะทำให้เกิดอาการปวดหลังด้วย รวมทั้งเมื่อเส้นสายตึงมาก อาจมีผลต่อหัวใจ ทำให้ระบบประสาทการทำงานของซิมพาราติก และพาราซิมพาเรติกทำงานผิดปกติ การเต้นหัวใจทำงานผิดปกติ ส่งผลอวัยวะต่างๆ ก็ผิดปกติตาม เพราะเส้นสายของด้านหน้าและด้านหลังจะเชื่อมต่อกัน เราจะทำอย่างไร ให้อาการเหล่านี้หมดไป
สิ่งแรกที่ทำคือการตุ๊บตั๊บตนเอง คือการทุบส่วนต่างๆ ตามร่างกาย โดยเฉพาะท้ายทอย เพราะท้ายทอยเป็นศูนย์รวมของเส้นสาย ขณะตีควรก้มให้อยู่ระดับที่ตึงบริเวณคอ ซึ่งก็เหมือนกับการขึงสายกีต้าร์ให้ตึงและใช้การตีให้สายกีต้าร์มีการ สั่นสะเทือน จะขยายชั้นพลังงานออกไป การตีบริเวณเหนือใต้คอ ด้านหลัง รวมทั้งตีด้านหลัง และตามร่องกล้ามเนื้อรูปตัว วีใหญ่ วีเล็ก ขณะตีจะเห็นการสลัดประจุออกที่ปลายมือ ปลายเท้า จะเกิดการปลดปล่อยพลังงานทุกเส้นสายในอัตราเร่ง
ถ้าคนที่เราบำบัดให้ ก็ไม่ควรพูด หรืออ้าปาก หรือเดินพลัง ขณะทีเราบำบัดให้ จะทำให้พลังงานของผู้ถูกบำบัดปลดปล่อยออกไปรวดเร็วและพลังงานจะเข้ามาอย่างมหาศาล จะตึงมากกว่าเดิม การฝึกพลังสมาธิ ทุกครั้งหลังการฝึก สิ่งที่สำคัญคือการตุ๊บตั๊บตัวเอง เพื่อรีดพลังงานออก ไม่ให้เกิดการตึงของเส้นสาย ถ้าไม่ทำ จะทำให้ประจุไฟฟ้าแทรกตามอวัยวะต่างๆ มากขึ้น ดูดซับประจุไฟฟ้ามากกว่าเดิม การตีตามส่วนต่างๆ ยังช่วยดึงพลังงานที่ตามข้อกระดูกและกล้ามเนื้อออกไป เพราะยิ่งฝีก จะมีสารสเตียรอยด์มากขึ้น ทำให้เราปวดตามข้อกระดูก หรือคันตามกระดูก ไม่สามารถนำออกมาได้นอกจากการตีตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ยิ่งตีมากเท่าไหร่ จะถูกดึงพลังงานจากข้อกระดูกและกล้ามเนื้อออกขยายชั้นพลังงานออกมา ร่างกายก็จะแข็งแรงมากขึ้น ทนต่อพลังงานที่เข้ามาอย่างมหาศาล จากการพัฒนาจิตที่สูงขึ้น
เมื่อลมเยอะในท้อง อย่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ แสดงว่าเส้นสายตึงอย่างมาก ควรหายาขับลม หรือยาธาตุ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง จะทำให้ลดความเป็นกรดที่อยู่ในร่างกายได้ และอีกกรณีนึงคือการใช้เท้าในการเหยียบที่ช่องท้อง แต่การเหยียบนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีวาระจิต จิตวิญญาณ สามารถควบคุมเท้า โดยเคลื่อนไหวเท้าให้สัมผัสกับเส้นสายที่มีพลังงานของผู้ป่วยที่สะท้อนมาที่ฝ่าเท้า เมื่อเหยียบบริเวณที่ตึง สักครู่ แล้วยกเท้าขึ้น พร้อมกับคลิ๊กเท้าให้สัมผัสกับเส้นสายหรือเส้นประทาน กระแสพลังงานจะเกิดการไหล ลมในก็จะถูกปลดปล่อยออกมา เราก็จะรู้สึกสบายตัวขึ้น และมีอัตราความเร็ว สามารถเข้าสมาธิได้เลย
จะเห็นได้ว่า การตุ๊บตั๊บเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาจิต ยิ่งจิตสูงมากเท่าไหร่ เท่ากับรับพลังงานมากเท่านั้น การดูแลตนเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะกายและจิตต้องสอดคล้องซึ่งกันและกัน มันเป็นเช่นนั้นเอง