สมาธิก้นหอย เกิดจากอะไร
เกิดจากวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงน้ำในสมองเป็นไอโซโทปที่มีความเร็ววงรอบสูง จิตทำงานเมื่อเห็นลายเส้น จิตมีความเร็วเมื่อเห็นแสง การทำงานหรือการขับเคลื่อนของจิตมาจากลายเส้น... ลายเส้นเป็นที่อยู่ของประจุไฟฟ้า... จะถูกขับเคลื่อนเมื่อมีการไหลของพลังงานจากซีรีเบลลัมที่มีประมาณประจุไฟฟ้ามากและมองมายังลายเส้นที่เกิดขึ้น... ก้นหอยมีลายเส้นลักษณะเป็นวงกลมหลายๆชั้นกลับไปกลับมา ที่ไหนมีลายเส้นที่นั่นย่อมมีประจุไฟฟ้าอยู่แล้ว เมื่อมีประจุไฟฟ้า ก็ย่อมมีน้ำตามมา และน้ำที่ถูกพัฒนาแล้วเป็นน้ำไอโซโทปที่มีนิวตรอนมากกว่าอะตอมมิกนัมเบอร์ของธาตุน้ำนั้น...จึงทำให้เกิดความเร็ววงรอบที่สูงมาก ...การทำสมาธิก้นหอย ควรมองโดยรวมก่อนคือ วงรอบแต่ละวงรอบที่ขับเคลื่อนกลับไปกลับมา ทำให้เกิดการสลัดประจุออกไปสู่วงรอบนอกอยู่ตลอดเวลา แต่ละวงรอบประกอบด้วยประจุไฟฟ้า แต่ถ้ามีก้นหอยที่อยู่บนวงรอบแต่ละวงรอบ เมื่อเราดูไปจะเกิดขับเคลื่อนของพลังงานอย่างสูง มีการดูดซับพลังงานเข้ามาแต่ละก้นหอยอย่างมหาศาล เกิดการรวมเส้นแรง หรือเส้นสายจักรวาลไว้ ณ จุดตำแหน่งของก้นหอยแต่ละจุด จนกระทั่งเข้าสู่วงรอบของพลังงาน เส้นสายทุกเส้นสายจะถูกรวมเข้าจุดศูนย์กลาง ทำให้ระยะทางหายไป กาลเวลาหายไป ทุกสิ่งทุกอย่างรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน นี่แหละคือจิตเป็นจักรวาล ทำให้สามารถเข้าใจ เข้าถึงสัญญาทุกสัญญาที่อยู่ในจักรวาลนี้ได้ การเข้าใจสภาวธรรมก็จะรู้แจ้งแทงตลอดโดยฉับพลัน เพราะจะเกิดการประมวลข้อมูลด้วยความรวดเร็ว สามารถเชื่อมต่อระบบและจักรวาลได้..สมาธิก้นหอย เกิดได้ทุกที่ที่เราเอาจิตไปดูตรงจุดต่าง ดูจนกระทั่งเกิดความเร็ววงรอบ ความหนาแน่นของเส้นสายก็จะเกิดขึ้น การดูสมาธิก้นหอยที่ธรรมจักร ถือว่าเป็นการวมเส้นสายที่ดีเพราะปริมาณประจุที่อยู่บริเวณธรรมจักรมีเป็นจำนวนมาก จึงเหมาะในการเข้าสมาธิได้อย่างล้ำลึก เป็นเทคนิคการทำสมาธิที่ต่อยอดมาจากการทำสมาธิธรรมดาที่ถูกพัฒนาแล้ว และมีวิวัฒนาการเรื่อยๆ..
วิวัฒนาการสมาธิก้นหอย..สู่สมาธิดอกบัว
เป็นสมาธิที่ยิ่งยวดมากกว่าเดิม จากความที่เป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้นจากสมาธิก้นหอย ทำให้คลื่นความถี่หรือการสั่นสะเทือนภายในน้อยลง ความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้น การรับรู้หรือการขับเคลื่อนจะมีความละเอียดเนียนจนกระทั้งการรับรู้เรื่องคลื่นจะน้อยลง เนื่องจาก พลังงานหรือประจุไฟฟ้าที่มีความสั่นสะเทือนออกไปสู่วงรอบนอก ทำอย่างไรหล่ะ เราต้องทำให้อยู่ในสภาวะที่ไม่สมดุล จะทำให้มีการดูดซับขับเคลื่อนได้ตลอดเวลา เราใช้การเดินพลังเส้นสายให้อยู่ชิดกับเส้นเมอริเดียนให้มากทำให้เกิดไดนามิกเกิดขึ้น จึงจะเกิดการขับเคลื่อนของพลังงาน หรือมีการไหลของพลังงานให้เรารับรู้ได้ และสามารถพัฒนาต่อได้ ก้นหอยจะเป็นเส้นวงกลมที่มีหลายชั้นและกลับไปกลับมาแล้วสู่เข้าแกนกลาง ที่ก้นหอยจะเป็นที่อยู่ของประจุไฟฟ้า เมื่อมีประจุไฟฟ้าย่อมมีเส้นสายสนามพลังเกิดขึ้น แต่เส้นสายสนามพลังจะเปลี่ยนไป จะขับเคลื่อนในรูปของไดนามิก คืออยู่ในรูปของความไม่สมดุล ก็คือกลีบของดอกบัวแต่ละกลีบ โดยการดูดเส้นที่อยู่จุดศูนย์กลางของก้นหอยขึ้นมา เพื่อดูดซับพลังงานเข้ามาออกไปสู่วงรอบนอก และจะกลับเข้าแกนกลาง เพื่อผลักประจุให้ออกไปไกล และเข้าสู่วงรอบของก้นหอย ก้นหอยก็จะขยายออกไปมากขึ้น จุดกึ่งกลางของก้นหอยก็จะเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้นและกลีบบัวนี้เมื่อทำกลีบหนึ่งมันจะขับเคลื่อนด้วยตัวของมันเอง ตามวงรอบของก้นหอยที่ขับเคลื่อนอยู่ ก้นหอยจะเป็นแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้ ถ้าเป็นแนวนอน เส้นสายสนามพลังก็จะอยู่ในแนวตั้ง ยิ่งดูกลีบดอกบัวที่ขับเคลื่อน จะเกิดความเร็ววงรอบมากขึ้น เมื่อเข้าแกนกลางของก้นหอย จะเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ เกิดการแยกชั้นของพลังงานออกไปไกล ถ้าก้นหอยเป็นแนวตั้ง เส้นสายสนามพลังจะพุ่งออกตามแนวนอนเป็นกลีบดอกบัวเช่นเดียวกัน รวดเร็ว และดูดซับประจุไฟฟ้าได้มาก การขับเคลื่อนจะเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดไป จนกระทั่งความเป็นสนามแม่เหล็กเข้มข้น สามารถรวมเส้นสายเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล ก้นหอยแนวนอนที่มีกลีบบัวที่เป็นไดนามิก ถ้าตั้งอยู่ที่จักระ 1 จะเกิดการดูดซับพลังงานได้อย่างมหาศาล รวมทั้งทำให้จักระ 6 ทำงานเช่นเดียวกันกับจักระ 1 ทุกจักระจะขับเคลื่อนเป็นฟันเฟืองแบบสืบเนื่อง จนกระทั่ง ก้นห้อยที่อยู่ธรรมจักร สามารถรวมอนุภาคหรือรวมเส้นสายไว้ที่เดียวกันเกิดการล๊อคของพลังงาน ทำให้สู่จุดนิ่งอย่างสมบูรณ์ จึงสามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล เมื่อเข้าสมาธิได้อย่างล้ำลึก และมีเหตุปัจจัยถึงพร้อม การแปรธาตุ การเข้าฌานอย่างล้ำลึก ความสำเร็จทางจิต พร้อมทั้งการเชื่อมต่อทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้จึงทำได้อย่างสมบูรณ์..
ฝึกสมาธิก้นหอยเกิดมหาสติได้อย่างไร
เพราะความไม่เข้าถึง..จึงไม่เข้าใจ จึงไม่ได้มาสู่จุดเริ่มต้น..ต้องการให้ทุกคนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นคือ..มองตนเอง.. เห็นตนเอง..ให้มากๆ จิตวิญญาณมีภาวะรุนแรงหรือไม่ให้ดูที่กระแสไหลเร็วหรือไหลช้า จิตวิญญาณคือการผลักดันอย่างรุนแรงทำใหเเกิดกระแสไหลเวียนอย่างยิ่งยวด..บ่งบอกถึงพลังธรรมชาติทางด้านจิตวิญญาณถึงพร้อม..
มหาสติแบบพุทธศาสตร์ในแนวทางวิทยาศาสตร์บอกในลักษณะของคลื่น ให้ความสำคัญในเรื่องสติหรือมหาสติ พยามยามเน้นเรี่ยงมหาสติรู้ตัวอยู่ทั่วพร้อม..จากรู้สึกไปสู่ภาวะความรู้ตัวอยู่ทั่วพร้อม.. ยังผลไปสู่การยับยั้งโดยอัตโนมัติได้อย่างไร ความสำเร็จทั้งหมดไม่ได้มาจากขบวนความคิด การที่จะเกิดกลไกลอัตโนมัติได้
จะต้องไม่คิด เรามาดูสมองสามส่วน
1. สมองส่วนหน้า..จิตในสำนึก..เป็นเรื่องของความคิดปัจจุบัน
2. สมองส่วนกลาง..เป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึก..สุนทรีภาพ
3. สมองส่วนหลัง..จิตใต้สำนึก..เป็นการบันทึกจดจำ เป็นสมองโบราณอะมิกดาลอยด์ (amygdaloid)
คนเรามีพลังได้อย่างไร แล้วเราจะพัฒนาจิตยังไง ให้มีพลังถึงพร้อม
ทั้งหมดทั้งมวลต้องเกิดจากการเฝ้าสังเกตุดูการทำงานของจิต (observation) การเฝ้าดูว่าจิตทำงานอย่างไร มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย เอาความรู้สึกความคิดเกาะติด..อยู่ในรูปวิถีโค้งที่กลับไปกลับมาของสนามพลังแนวนอนแนวตั้ง วงแหวงรูปก้นหอยมีแนวนอนและแนวตั้งจนจิตเกาะติดความรู้สึกอยู่ได้ตลอดทุกการเคลื่อนไหววิถีโค้งได้สำเร็จ ในวิถีโค้ง..เป็นที่อยู่ของประจุ เส้นแรงไดนามิกที่ขับเคลื่อนทำหน้าที่ดูดและผลักแบบไม่จบสิ้น เกิดเป็นดอกบัวพันกลีบ (ดูภาพ) จิตมีทางเดินเมื่อเห็นลายเส้น..จิตเกิดความเร็วเมื่อเห็นแสง.. ต้องฝึกการเคื่อนไหวกาย เคลื่อนไหวจิต และจิตวิญญาณ เป็นการพัฒนาสมองสร้างการรับรู้ในระดับกายภาพที่มีเซลล์เสมองเป็นตัวรับรู้และรู้สึกจนพ้นกายภาพ เกิดการรับรู้ผ่านในเส้นสายสนามพลัง..มีดูดและผลัก..ดูรูปภาพก้นหอยมหาสติมีการสืบเนื่องและต่อเนื่องแบบไม่จบสิ้น เกิดการรู้ตัวทั่วพร้อม ดูดซับขับเคลื่อนผลักดันประจุไฟฟ้า สแกนพลังงานอยู่ตลอดเวลา..เกิดเป็นสมาธิมหาสติ..เมื่อเกิดก้นหอยหมุนวนทำงานเป็นอัตโนมัติเป็นจิตวิญญาณ ตัวจิตวิญญาณผลักดันไปตามสภาพของมัน อยู่ในรูปของจิตวิญญาณ จึงเป็น Cosmic ด้วย เราดูจิตวิญญาณได้จากเส้นแรง (meridian) หรือนิวเคลียส์ (nucleus) ในสมองโบราณอะมิกดาลอยด์
อะตอมเปรียบเหมือนลูกแอปเปิ้ล โดยดูจากสนามพลังของดวงอาทิตย์ที่มีการแตกระเบิดเป็นนิวเคลียส์เกิดกัมมันตภาพรังสี
นิวเคลียส..ให้ดูที่ขั้ว..ตรงไหนที่มีภาวะขั้วลงมาและตั้งฉากกับใจกลางเส้นสายของก้นหอยมีเส้นแรงรวมกันอยู่สูง มีขั้วเข้า-ออกตลอดเวลา เข้า-ออกพวยพุ่งในจุดเดียวกัน มันออกจากนิวเคลียสและเข้าที่นิวเคลียส จิตวิญญาณจริงๆ คือส่วนของนิวเคลียส แต่มันแสดงผลออกมาในรูปของเส้นแรงและเมอริเดี้ยน จักระทุกจักระเป็นนิวเคลียสและวงแหวน เราฝึกจนเป็นเส้นแรงที่หนาแน่นได้..เกิดจากวิวัฒนาการการเปลี่ยนแปลงน้ำในสมองเป็นไอโซโทป..ที่มีความเร็ววงรอบสูง แล้วซีรีเบลลัมเป็นเส้นแรงก้นหอยและลงมาที่ธรรมจักร..และทุกที่ทั้งในร่างกายและนอกร่างกาย มีเส้นแรงเป็นไดนามิกขับเคลื่อนอยู่ตลอดเวลา ..จะเกิดจากวิวัฒนาการนี้ได้..ต้องฝึก..และต้องมีองค์ความรู้..ของท่านอาจารย์