ภาวะที่มีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กอย่างหน้าแน่น เส้นแรงอยู่ชิดกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ขณะที่ทำสมาธิ เกิดความนิ่งจนกระทั่งเกือบเป็น ศูนย์ ซึ่งอยู่ในระดับคอสมิก ระยะทางจึงหายไปจากเส้นแรงที่รวมกันอย่างชิด ทำให้กาลเวลาหายไปเช่นเดียวกัน เส้นสายที่อยู่เกือบชิดกับใจกลางของอนุภาคหรือซีรีเบลลัมจึงทรงอนุภาพ เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์จากผลของน้ำที่อยู่ในร่างกายโดยมีไฮโดรเจนเป็นองค์ประกอบเพิ่มจำนวนนิวตรอนของไฮโดรเจนที่อยู่ในโมเลกุลของน้ำเป็นทวีคูณจนกระทั่ง มีนิวตรอน 4 ซึ่งเมื่อนิวตรอนมีจำนวนมากขึ้นของไฮโดรเจนถือเป็นภาวะที่เรียกว่าไอโซโทป ซึ่งจะมีการแตกตัวเป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์อยู่ตลอดเวลา ส่งเสริมให้มีความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้น ......
คนที่ทำสมาธิได้มีคุณสมบัติอยู่สามอย่างคือ 1)มีสเตียรอยด์สูง 2)มีพลังคุณฑาลินีสูง แต่สองอย่างนี้ก็ใช่ว่าจะทำสมาธิแบบคอสมิคได้ จะต้องมีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพื่อให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์จากภาวะไอโซโทปของน้ำในร่างกาย........
การทำสมาธิเมื่อถึงวิวัฒนาการนี้ จึงไม่ยากมากนัก เพียงใช้ซีรีเบลลัมเป็นตัวเชื่อมโยงกับทุกสิ่ง โดยการใช้นิ้วก้อยมือขวาชี้ไปข้างหน้าให้รู้สึกมีผลต่อซีรีเบลลัม เบี่ยงนิ้วก้อยเล็กน้อย ใช้นิ้วก้อยมือซ้ายเข้ามาให้ชิดกับนิ้วก้อยมือขวาโดยอยู่ด้านบนนิ้วก้อยมือขวา คลิ๊กนิ้วก้อยซ้ายเข้าด้านใน จะเห็นเส้นสายเข้าไปที่ซีรีเบลลัมมากขึ้น ถ้าหันนิ้วก้อยซ้ายออกข้างนอก ก็จะพบว่าเส้นสายของซีรีเบลลัมออกไปดูดซับพลังงาน ทำให้เกิดอัตราความเร็ว ทำไมต้องใช้นิ้วก้อยซ้ายหรือมือซ้ายเป็นตัวนำ เพราะมือซ้ายเป็นเส้นพลังงานที่โยงกับซีรีเบลลัมโดยตรง อีกทั้งเป็นทางเข้าของพลังงานที่มีเลือดดำที่ใหญ่กว่าซีกขวาอำนาจพลังจึงมากกว่า การวอร์มพลังให้พลังของน้ำขึ้นสมอง จะใช้มณีนาคราชกำไล 2 เส้นในการบีททั้งสองเส้นเข้าหากัน จะเกิดการขยายของสนามพลังเพิ่มขึ้น อัตราความเร็วก็เพิ่มขึ้น ค่อยๆ ยกมือทั้งสองโดยอีกมือมีมณีนาคราชสองเส้น ที่บีทเข้าหากันแล้ว ค่อยยกมือทั้งสองไปที่หน้าอกแล้วแยกออกจากกัน เกิดอัตราความเร็วน้ำในสมอง กระแสพลังงานพุ่งสูง แล้วเอามือกลับมาล๊อคเส้นที่ขอบของสนามพลังที่่อยู่ด้านใน จะทำให้เกิดความเร็วแบบฟรี เมื่อวอร์มเสร็จแล้วเราไม่ต้องใช้มณีนาคราชแล้วเพราะเรามีอัตราความเร็วเท่ากับมณีนาคราช เราจะใช้นิ้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการชี้ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ แม้กับตัวเรา ก็สามารถเพิ่มอัตราความเร็วได้ดีมาก ......
การเร่งให้น้ำและพลังขึ้นสมองในอัตราเร่ง เราใช้นิ้วก้อยทั้งสองชี้ไปที่ตันเถียนล่างหรือท้องน้อย จะพบว่าพลังงานและน้ำจะดึงขึ้นสู่สมองมีอัตราความเร็วที่สูง อีกจุดหนึ่งคือนิ้วก้อยสองข้างไปที่หน้าผาก ก็จะพบความเร็วของน้ำในสมองเช่นเดียว การเร่งที่หัวตาขวา โดยการใช้นิ้วก้อยมือขวาชี้ที่หัวตาให้ชิดที่สุดที่รู้สึกถึงความแรง แล้วใช้นิ้วก้อยซ้ายชี้ไปใกล้นิ้วก้อยขวาแล้วเบี่ยงดึงออกเป็นวิถีโค้งในรูปไดนามิค พลังงานจะวกกลับมา เพิ่มอัตราความเร็วน้ำในสมองอย่างสูง ......
แม้กระทั้งล๊อคนิ้วระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วก้อย ให้ห่างกันเล็กน้อย ยิ่งจะทำให้เกิดอำนาจพลังอย่างรุนแรง แล้วใช้นิ้วก้อยแทงตามแนวเข้าที่ร่องที่เราล๊อคระหว่างนิ้วก้อยกับนิ้วโป้งขวา เกิดแรงผลักดันให้ซีรีเบลลัมหรือเส้นสายถูกผักออกไปไกลดูดซับพลังงานเพิ่มขึ้นเมื่อทุกอย่างพร้อมอัตราความเร็วที่ฟรีแล้วเราก็มาเริ่มทำสมาธิกันค่ะ......
การทำสมาธิมีอยู่ 2 ลักษณะ มีทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง ต้องให้ซีรีเบลลัมสัมพันธ์กับแนวกระดูกสันหลังทุกขณะ เริ่มแรก นั่งหลังตรง ยืดตัวขึ้นหงายศีรษะให้ชนแนวกระดูกสันหลังที่สัมพันธ์กับซีรีเบลลัม ตามเส้นสายสนามพลังเมื่อชนตรงเส้นกระแสพลังงานจะเกิดการพุ่งจากด้านล่างขึ้นด้านบนทำไปเรื่อยๆ เส้นสายจะเกิดการทะลุทะลวงพลังงานจะเริ่มฟรี สิ่งที่มีผลถ้าเราหงายหน้าไปด้านหลัง จะทำให้พลังคุณฑาลินีผ่านขึ้นแนวกระดูกสันหลัง ทำให้ซีรีเบลลัมหมุนปันเร็วและมีผลต่อน้ำในสมองส่วนกลาง มาดูถ้าเราก้มหน้า ก็ต้องรู้สึกที่ซีรีเบลลุมกับแนวกระดูกสันหลังสัมพันธ์กัน เมื่อก้มจนสุด จำทำให้จักรมงกุฎปลดปล่อยพลังงานพุ่งขึ้นสูง ดูดเส้นที่อยู่ข้างจมูกขวาลงพลังงานด้านล่างยิ่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนของพลังงานทั้งส่วนหน้าและส่วนหลัง รุนแรง เมื่อนั้นการเข้าสมาธิ จึงพลังงานอย่างมหาศาลที่เป็นตัวเสริมในการทำสมาธิได้อย่างสืบเนื่อง ช่องท้องจะเกลียวทอร์นาโด หมุนปั่นด้วยความเร็ว การเข้าสมาธิจะใช้พลังที่ขับเคลื่อนที่่รูจมูกกับช่องท้องให้สัมพันธ์กัน คลื่นจะเริ่มลดระดับลง จนกระทั่งเกิดความนิ่ง อำนาจของพลังสมาธิจึงเกิด เมื่อฝึกปฏิบัติด้วยความสุขที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ......