การพัฒนาจิตวิญญาณ โดยการบำบัดคนโดยการตีรอบ ๆ ตัวคน มันพัฒนาจิตวิญญาณได้อย่างไร
ก่อนที่เราจะเดินเราต้องเชื่อมจักระกับผู้ที่ถูกบำบัดเสียก่อน โดยการหันหน้าเข้าหากันและหันข้างให้ แล้วกลับมาหันหน้าเข้าหากัน จักระจะเริ่มเชื่อมต่อกัน เมื่อหันข้างให้ จะเหมือนถูกกระชากเส้นสายออกไป และเมื่อกลับเข้าหันหน้าชนกัน จักระจะเชื่อมต่อกัน จะรู้สึกถึงการหมุนบริเวณจักระของทั้งสองฝ่าย เมื่อเริ่มเดินหมุนรอบ ๆ ตัวของผู้ถูกบำบัด จะทำให้จักระของทั้งคู่หมุนปั่นด้วยความเร็ว ดูดซับพลังงานขึ้นมาจากแนวแกนสันหลังของทั้งสองฝ่าย และยิ่งเดินหมุนรอบตัวและตีที่ศีรษะของผู้ถูกบำบัดจะทำให้พลังงานจากด้านล่างของลำตัวถูกดึงขึ้นมาที่สมองเป็นจำนวนมาก และถูกปลดปล่อยออกทางศีรษะ คนที่เป็นผู้บำบัด จะได้ประจุไฟฟ้าจากคนที่ถูกบำบัด ส่วนคนที่ถูกบำบัดจะได้เส้นแรงเข้าไปทะลุทะลวงร่างกาย ตามเส้นสายที่เกิดขึ้น ยิ่งตีมากเท่าไหร่ คนที่บำบัดก็จะดูดซับพลังงานเข้าสู่วงรอบสนามพลัง ทำให้สนามแม่เหล็กแข็งแกร่ง ความเร็ววงรอบสูง และจะรับรู้-รู้สึกพลังงานได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า อาจจะมีการใช้การถักทอหลังจากตีให้พลังงานหรือประจุไฟฟ้าขึ้นมาที่สมองมากแล้ว ทำการจัดเส้นสายให้กับสมองทั้งสมองส่วนหน้าและส่วนหลัง เป็นการพัฒนาเส้นสายในอัตราเร่งสำหรับผู้บำบัดและผู้ที่ถูกบำบัดเพื่อการพัฒนาจิต แต่ถ้าบำบัดธรรมดา ก็ไม่ต้องจัดเส้นสาย เพียงแต่นำประจุออกมาจากผู้ที่ถูกบำบัด เพื่อให้มีการเคลื่อนตัวของพลังงานที่กระจุกตัวอยู่
ขณะเดินตีรอบตัวคน ควรขึงเส้นสายไว้ ด้วยมือซ้าย และขับเคลื่อนหมุนมือ ให้สู่วงรอบของสนามพลังของผู้ที่ถูกตี เพื่อเวลาตี ประจุไฟฟ้าจะขับเคลื่อนและสามารถเข้าสู่วงรอบของพลังงาน จักระจะหมุนเร็วมาก สามารถเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างต่อเนื่อง การตีถ้าตีแรง ไฟฟ้าก็จะลอยขึ้นมาเร็ว ถ้าเราตีเบา ๆ ไฟฟ้าก็จะไม่ลอยและไม่กระจาย เท่าที่ควร ควรตีที่ศีรษะให้แรงพอ จะทำให้ไม่ต้องตีส่วนอื่น แต่ถ้าตีเบา จะต้องทำทั้งตัว จะเป็นการเสียเวลา ถ้าศีรษะเคลียร์แล้ว แสดงว่าประจุไฟฟ้าสามารถปลดปล่อยได้ดี
การพัฒนาจิตวิญญาณด้วยตัวเอง ก็คือใช้ตะเกียบตีที่ศีรษะตรงบีเทน หรือสมองส่วนหน้า โดยการสวดมนต์ ยิ่งตีจะเกิดการสั่นสะเทือนดูดซับพลังงานมาที่สมองส่วนหน้าได้ และยิ่งสวดมนต์ก็ทำให้เกิดการสั่นสะเทือน มีการลอยตัวของพลังงานขึ้นมาเช่นเดียวกัน เมื่อมีจำนวนประจุไฟฟ้าอย่างมหาศาล เกิดการอัดแน่น และยุบตัว ประจุไฟฟ้าขยายออกไปสู่วงรอบนอก และสร้างวงจร โดยดึงเส้นสายจากสมองส่วนหลังให้มาที่สมองส่วนหน้า จัดเส้นสายให้อยู่ในรูปสนามพลัง ดึงพลังไอชีวิตซึ่งอยู่ในรูปของประจุไฟฟ้าที่เป็นพลังเข้ารูจมูก ขึ้นไปสมองส่วนหน้า สร้างจานซีดี ให้ประจุไฟฟ้าเข้าสู่วงรอบของจานซีดี จะทำให้เกิดสนามพลังที่สมองส่วนหน้าตามมา กลายเป็นสนามแม่เหล็กที่เข้มข้นในที่สุด ขับเคลื่อนเป็นอัตโนมัติ เห็นความรู้สึกของตนเองตลอด ตั้งแต่หัวจรดเท้า ผู้บำบัดสามารถทำให้ผู้ที่ถูกบำบัดได้เช่นเดียวกัน ในขณะเดินตีรอบ ๆ ตัว
การที่เราจะดูแลผู้อื่นได้ต้องถึงพร้อมทางด้านจิตวิญญาณ ต้องมีคุรุภายในเป็นผู้กระทำ หรือมีจิตวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ การทำการเคลื่อนไหวโดยไม่ใช้ความคิด ใช้ความรู้สึกกระทำแต่ใช้ความคิดเกาะติดความรู้สึก การบำบัดหรือการพัฒนาจิตจึงจะสมบูรณ์แบบ และถูกต้องตามธรรมชาติที่เป็นจริง การบำบัดทุกอย่างที่ใช้วาระจิตในการบำบัด ถือว่าเป็นการพัฒนาจิตวิญญาณให้กล้าแกร่งเลยที่เดียว เพื่อสร้างเหตุปัจจัยถึงพร้อมในการพัฒนาจิตระดับสูง จนถึงความสำเร็จทางจิตได้ในที่สุด...