ตะเกียบเซียนช่วยพัฒนากายและจิตในอัตราเร่งได้อย่างไร..
สำหร้บผู้ที่ฝึกพลัง หรือคนที่มีพลัง เมื่อฝึกถึงระดับหนึ่งแล้ว จะต้องรับปริมาณไฟฟ้าอย่างสูง การที่จะมีชีวิตรอดอยู่ได้ต้องมีการป้องกันโดยการใช้ตะเกียบเซียนตีตามจุดต่างๆ
จุดที่สำคัญ คือบริวเวณ ศีรษะ ท้ายทอย ควรเคลียร์พลังงานโดยการตีและดึงออกเข้าสู่เส้นสายสนามพลัง จุดนี้ทำให้อาการตึงที่สมองคลายตัวลง เส้นเลือดที่สมองที่หดจากการดูดซับประจุไฟฟ้า อาจเกิดเส้นเลือดแตกในสมองได้จากภาวะความดันเลือดสูง การตีจะทำให้เส้นเลือดในสมองขยาย และดูดซับพลังงานเข้ามาจนมีความเร็ววงรอบสูง อัดแน่นและยุบตัว นิวตรอนจะมารวมอยู่ที่เดียวกัน จนมีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็ก
จุดต่อไปคือจุดที่หัวใจ เพราะหัวใจเป็นที่มีประจุไฟฟ้าผ่านมากที่สุด การตีให้พลังงานกระจาย และกล้ามเนื้อ เส้นเลือดบริเวณหัวใจ รวมทั้งขั้วหัวใจ จะแข็งแรงแข็งแกร่งมากขึ้น
คนที่ฝึกพลัง ถ้าประจุเข้ามามาก ทำให้สมองซีริเบลลัมตึงมาก ระบบประสาทซิมพาราติก กับพาราซิมพาราติก จะทำงานผิดปกติ การหดขยายของกล้ามเนื้อเรียบจะไม่สัมพันธ์กัน จึงทำให้มีภาวะการเต้นหัวใจผิดจังหวะ หรืออาจหัวใจวายตายได้ มีหลักฐานเรื่องนี้จากพระลามะที่ฝึกด้านพลังไม่เคยที่จะตีตามร่างกาย เมื่อฝึกไปถึงระยะนึง ร่างกายจะไม่สามารถทนกับปริมาณไฟฟ้าที่มากขึ้น จึงเสียชีวิตเมื่ออายุประมาณ 40 ปีแทบทุกคน การเจ็บเสียวที่หัวใจ เกิดจากพลังงานเข้าที่ตันเถียรล่างเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นกลุ่มเส้นเลือดดำและเป็นที่กักเก็บพลังงานของคนจีน เมื่อมีมากจะลอยตัวและเข้าสู่เส้นเลือดดำเข้าสู่หัวใจบนขวา จึงมีอาการเจ็บเสียว ควรตีที่หัวใจเป็นประจำ จะทำให้เราสามารถทนสภาพกับการรับพลังงานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไม่เกิดอันตรายใดๆ
จุดบริเวณ กล้ามเนื้อหลังรูปตัววี ควรตี เพราะเป็นการกระจายพลังงาน และสามารถนำพลังงานที่กระจาย ออกมาจัดเส้นสายให้เข้าไปเรียงเป็นทิศทางเป็นระเบียบอยู่ในเส้นสายสนามแม่เหล็ก ของซีรีเบลลัม เกิดความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวด
จุดบริเวณช่องท้อง คนที่ฝึกพลัง จะดูดซับพลังงานมาอยู่ที่ช่องท้องเป็นจำนวนมาก อาจทำให้ท้องอืด แน่นท้อง วิธีการดูแลควรตีที่ช่องท้อง ให้ทั่วแล้วดึงออกจัดเรียงเส้นสายให้เข้าทิศทางของเส้นสายสนามแม่เหล็ก และเมื่อตีที่ช่องท้องจะเกิดการสั่นสะเทือนบริเวณนี้ ทำให้เกิดการกระจายตัวของพลังงานออกไป พร้อมดูดซับเข้ามาอย่างมหาศาล ทำให้จุดนี้มีความเร็ววงรอบสูงอย่างมาก เกิดการล๊อคพลังงานที่ใจกลางหรือจุดธรรมจักร สามารถเข้าสมาธิระดับฌานได้เลย....
จุดบริเวณตันเถียรล่าง ควรตีเป็นประจำ ถ้าตีบริเวณนี้จะไม่ทำให้เกิดอาการเจ็บเสียวที่หัวใจ และเมื่อตีบริเวณนี้จะเกิดการสั่นสะเทือนของพลังงาน สะท้อนไปที่ซีรีเบลลัม ทุกจุดที่ตี จะดูดซับประจุไฟฟ้าจากธรรมชาติ คน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสิ่งที่มีพลังงานอยู่ในจักรวาล จะเข้ามาอย่างมหาศาล เกิดการสั่นสะเทือนสูง จนมีความเร็ววงรอบสูง เมื่อนั้นจะเกิดการอัดแน่นของพลังงานและยุบตัวของอนุภาค มีการรวมประจุและแยกอนุภาค เกิดการแตกระเบิดของพลังงานเป็นกัมมันตรภาพรังสี แปรสภาพธาตุเป็นไอโซโทป ที่มีความเร็ววงรอบสูง ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กที่ซีริเบลลัมจะหนาแน่น จนเส้นสายมารวมชิดกันทำให้ระยะทางและกาลเวลาหายไป เมื่อนั้นเราจะสามารถเชื่อมต่อทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถเข้าใจสภาวธรรมได้อย่างรู้แจ้งแทงตลอดในสัญญานั้นๆ...
ยังมีจุดตามร่างกายที่มีความสำคัญในการพัฒนากายและจิต แต่ขอกล่าวในสิ่งที่เป็นวิวัฒนาการจิตที่เพิ่มเติมมาจากการตีตะเกียนเซียนที่พบเห็นในปัจจุบัน..
การตีตามร่างกายทุกๆ จุด จะส่งเสริมความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้นความเร็ววงรอบก็สูง เมื่อตีเสร็จทุกจุดและถักทอเส้นสายเข้าสู่สภาวะสมดุล จะสามารถดำดิ่งเข้าสมาธิได้เลย การตีด้วยตะเกียบเซียนจึงถือว่าเป็นตัวสร้างเหตุปัจจัยถึงพร้อมในความสำเร็จทางจิตและพัฒนากายให้แข็งแกร่ง ทนกับพลังมหาศาลที่เข้ามาเพื่อพัฒนาจิตได้ในอัตราเร่ง แต่ต้องตีตามวาระจิต โดยใช้สมองส่วนหลังหรือจิตวิญญาณ ในการตี ไม่ใช้ความคิด ใช้ความรู้สึกและใช้ความคิดคล้อยตาม ไปตามการขับเคลื่อนของพลังงานที่เป็นอยู่จริง ถ้าใช้ความคิด อาจเกิดอันตรายได้จากภาวะทิศทางพลังไม่สอดคล้องกับธรรมชาติเกิดการบิดเบี้ยว ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตตามมา ไม่ถือว่าเป็นการพัฒนาจิตเท่าที่ควร..
อัศจรรย์ตะเกียบ พัฒนากาย จิตและจิตวิญญาณ พัฒนาธาตุ ได้อย่างไร เพราะอะไร
เพราะตะเกียบที่เป็นไม้จะมีท่อน้ำเลี้ยง เป็นตัวดูดซับประจุได้อย่างมหาศาล ดังนั้นตะเกียบจึงสามารถบำบัดโรคได้จากการตีทำให้เกิดการสั่นสะเทือนทำให้ประจุที่อยู่ด้านในตามอวัยวะต่างๆ สามารถดึงออกมาอยู่ที่พื้นผิวของร่างกาย และสามารถดึงออกจากร่างกายได้ ทำให้ผู้ป่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากการกระจุกตัวของไฟฟ้าอีกทั้งเวลาตีจะทำให้ประจุไฟฟ้ามีการกระจายตัว สามารถออกจากร่างกายได้ดี จนกระทั่งรักษาหายได้
เราสามารถพัฒนาจิตจากตะเกียบอย่างไร ตะเกียบเมื่อตีที่สมองส่วนหน้าจะทำให้เกิดการลอยตัวพลังงานจากช่วงล่วงขึ้นมาจำนวนมาก อีกทั้งประกอบด้วยการทำสมาธิตื่นรู้ Awaken thinking meditation ร่วมด้วยจะทำให้พลังงานความเร็ววงรอบขยายออก แกนกลางของสมองส่วนหน้าจะกลายเป็นสนามแม่เหล็ก การเข้าฌาน สมาธิอย่างล้ำลึก การเชื่อมต่อกับระบบและจักรวาลก็สามารถเกิดขึ้นได้
การใช้ตะเกียบพัฒนาธาตุโดยใช้ตะเกียบร่วมกับการสวดมนต์ ตะเกียบจะช่วยในการดึงเส้นสายของสนามพลังจักรวาลเข้ามาในกายเป็นตัวเร่งปฏิกิรยาของน้ำในร่างกายให้เกิดสั่นสะเทือน มีความเร็ววงรอบสูง น้ำในร่างกายจะเป็นน้ำไอโซโทป ที่มีจำนวนนิวตรอนมากกว่าค่าอตอมมิกนัมเบอร์ปกติ เป็น 4 เท่า เกิดปฏิกิริยานิเคลียร์ เกิดการแปรธาตุจากน้ำในร่างกาย
นอกจากนี้ ตะเกียบสามารถรักษาคนในระยะไกลได้ โดยการที่ผู้บำบัดจับตะเกียบและเชื่อมเส้นสายจักรวาลพร้อมนึกถึงผู้ที่จะบำบัด ตะเกียบนั้นก็จะกลายเป็นร่างกายของผู้ป่วยที่เราจะบำบัด และมีจุดสะท้อนที่ตะเกียบไปยังอวัยวะที่มีประจุไฟฟ้ากระจุกตัว ก็สามาระรักษาได้ มันไม่ใช่ไสยศาสตร์ แต่มันสามารถพิสูจน์ ได้เมื่อคุณรับรู้รู้สึกถึงคลื่นพลังงานรอบๆ ตัวและภายในตัวของคุณ
จิตของมนุษย์วิเศษยิ่งนัก สามารถทำได้ทุกอย่าง เพียงแต่ต้องเปลี่ยนคลื่นสมอง ให้มีความเร็ววงรอบสูง และการสัมผัสพลังที่อยู่เหนือกายภาพได้ ต้องทำให้ประจุแยกออกจากอนุภาค การขับเคลื่อนของพลังงานในรูปของวงจร และมีขับเคลื่อนเป็นอัตโนมัติ ถึงจะสัมผัสเส้นสายสนามพลังจักรวาลและเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาลได้