ในภาวะความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างเข้มข้น แม้ทำในร่างกายจุดไหน จุดต่างๆ ภายในร่างกายก็จะขับเคลื่อนตามไปด้วย
การที่จะพัฒนาเส้นสาย โดยการใช้เส้นเลือดที่คอหรือ carotid vein ซึ่งเป็นเส้นเลือดดำที่เชื่อมโยงโดยตรงกับสมอง โดยการเกร็งแขนและมือ ดันเข้าไปที่เส้นเลือดบริเวณคอ ที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ ที่เชื่อมโยงกับสมองโดยตรง เมื่อคลิ๊กมือในแต่ละองศา จะทำให้ระบบอวัยวะต่างๆ ตามแต่ละองศานั้นถูกขับเคลื่อน การไหลของกระแสพลังงานขึ้นสู่สมองจะรวดเร็วและรุนแรง เป็นการเปิดเส้นเลือดในสมอง ให้มีการขับเคลื่อนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดผลสะท้อนกับอวัยวะภายในให้ขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็วและรุนแรงเช่นเดียวกัน
การที่เราเกร็งแขนและมือ จะทำให้พลังงานมีการถูกกระชาก อนุภาคและประจุจะแยกออกจากกัน จึงเกิดการขับเคลื่อนด้วยความรุนแรง และเราใช้อีกมือหนึ่งเข้าไปสำทับ พร้อมการควบคุมขึ้นลง โดยใช้มือที่สำทับ หักข้อมือขึ้นเล็กน้อย และหักข้อมือลงเล็กน้อย จะทำให้เส้นสายทุกเส้นสายเกิดการทะลุทะลวงได้ดี การไหลของกระแสก็จะไหลได้สะดวกและรวดเร็ว พลังคุณฑาลินี จะลอยขึ้นสู่สมองในอัตราเร่ง ส่งผลทำให้น้ำในสมองส่วนกลางมีอัตราความเร็วที่สูง เกิดการแยกประจุและอนุภาค มีรวมกันที่ซีรีเบลลัมมากขึ้น เส้นแรงหรืออนุภาคจึงมากขึ้น
เมื่อมีอัตราความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง การทำสมาธิจึงทำได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงเปิดเส้นเลือดที่คอ และเคลื่อนไหวโดยให้ผ่านจุดเอฟเฟคที่อยู่รอบนอก ทำให้สามารถดูดซับประจุไฟฟ้าเข้าวงรอบของเกลียวของเมอริเดียนที่กว้างเป็นจำนวนที่มากขึ้น ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เมื่อทำทั้งสองด้าน เกลียวที่อยู่แนวกระดูกสันหลัง จะขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็ว และมารวมกันบริเวณบีเทน เป็นก้นหอย และเชื่อมต่อกับซีรีเบลลัมโดยตรง เมื่อเคลื่อนไหวตามเส้นสายสนามพลังไปเรื่อยๆ จะลงจุดสมดุลจนถูกดูดเข้า solar plexus ที่อยู่บริเวณช่องท้องเหนือสะดือ 2 นิ้ว ล๊อคพลังงานไว้ที่จุดนี้ ส่วนอัตราความเร็วของร่างกาย จะขับเคลื่อนด้วยความเร็วที่สูง การทำสมาธิจะรับรู้..รู้สึกถึงพลังที่ขับเคลื่อนวงรอบนอก และรู้สึกถึงการล๊อคของพลังงานที่จุด solar plexus อย่างสืบเนื่อง เกิดการสลัดประจุไฟฟ้าตลอดเวลา สารเอนโดฟินหลั่ง การเข้าสมาธิจะล้ำลึก ดื่มด่ำอยู่ได้ตลอดเวลา การรับรู้จะเปลี่ยนไป จิตวิญญาณจะถูกพัฒนาในอัตราเร่ง...