ยันต์แปดทิศ กับการพัฒนาจิตวิญญาณและการพัฒนาสมาธิเมื่ออยู่ในรูปสนามแม่เหล็กที่ยิ่งยวด

.........ยันต์แปดทิศ ประโยชน์ในการใช้ยันต์แปดทิศในเรื่องของพลังงาน ซึ่งสำหรับคนที่มีจิตวิญญาณ จะรับรู้ผ่านเส้นสาย ที่เกิดขึ้นที่ยันต์แปดทิศ เพราะเส้นสายนั้นมีอยู่ทั้งจักรวาลเปรียบเหมือนผืนพรหมที่ถักทอทั้งระบบและจักรวาล มีทั้งเส้นแนวตั้งและแนวนอน ยันต์แปดทิศเป็นตัวบอกทิศทางพลังงาน มีการตัดของเส้นสาย ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เมื่อถึงจุดตัดจะเกิดอำนาจพลัง สร้างประจุไฟฟ้าได้อย่างมหาศาลเกิดอัตราความเร็วที่สูงยิ่ง ทำให้เกิดการแยกประจุไฟฟ้า อนุภาพหรือเส้นแรงรวมกันมากขึ้น ธาตุไฮโดรเจน หรือธาตุที่เป็นส่วนประกอบของน้ำที่อยู่ภายในร่างกาย จะแปรเปลี่ยนเป็นกัมมันตภาพรังสี เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ กลายเป็นธาตุไอโซโทป

......... การเขียนอักขระยันต์แปดทิศจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนาจิตวิญญาณให้มีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กมากขึ้น ก่อนที่จะเขียน ต้องตั้งจิตอธิษฐานว่าต้องการสิ่งใด และเชื่อมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยการจับปากกาและชี้ไปยังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องการเชื่อม พร้อมกับออกเสียงอืมๆ ในลำคอ เมื่อมีอัตราความเร็วน้ำในสมองแล้ว จึงมาเคาะกระดานที่เราจะเขียน เคาะไปเรื่อยๆ พร้อมกับออกเสียง และเคลื่อนไหวการเคาะไปเรื่อยๆ ที่กระดาน ขณะเคาะไปเรื่อยๆ จะเกิดความเร็วน้ำในสมองอย่างมาก เกิดการลอยตัวขึ้นเป็นกรวยอยู่ด้านบนศีรษะด้วยความเร็วสูง ทำให้เข้าสมาธิได้เป็นพักๆ และเคลื่อนไหวต่อ จนกระทั่ง เปิดปากกา วาดยันต์แปดทิศทีละเส้น จะเห็นได้ว่ายันต์แปดทิศที่อยู่ในแนวนอน จะทำให้พลังงานดูดซับประจุไฟฟ้าอย่างสูง ความเร็วยิ่งสูงมาก ส่วนเส้นแนวตั้งทำให้พลังงานพุ่ง ปลดปล่อยได้ เพราะฉะนั้น ต้องสัมพันธ์กันทั้งแนวตั้งและนอน ที่เป็นจุดตัดของสนามแม่เหล็ก ยิ่งเขียนอักขระพร้อมเคาะกระดานไปด้วย จะพบกับเส้นสายที่เริ่มหนาแน่นขึ้น พลังงานจะลอยตัวสูง การเปิดท่อที่พลังงานที่บีเทนจะรู้สึกโล่งและกว้างขึ้น ทำให้ อักขระยันต์แปดทิศขับเคลื่อนหมุนวนอยู่ที่เหนือศีรษะ เส้นสายที่หนาแน่น อัตราความเร็วที่เกิดขึ้น จะทำให้เข้าสมาธิได้ง่ายดายเป็นระยะ การดูดกลืนไอชีวิตที่รูจมูก จะสูงส่งเสริมอัตราความเร็วของน้ำในสมองส่วนกลางให้สูงตาม ส่งเสริมให้ซีรีเบลลัมมีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็ก จากการเคาะทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของคลื่น เมื่อนำมือจักปากกา ซีรีเบลลีมจะถูกผลักไปที่นิ้วมือที่จับปากกา ทำให้ซีรีเบลลัมออกมาดูดซับพลังงานมากขึ้น เพื่อเก็บเกี่ยวพลังงาน พัฒนาธาตุให้เข้าสู่ปรมัตถ์ จะเห็นได้ว่ายันต์แปดทิศ ทำให้เกิดอัตราความเร็ว มีการขับเคลื่อนพลังงานที่สูง เพราะฉะนั้นจะใช้ในการปราบภูติ ผี ปีศาจและสิ่งไม่ดี ก็จะออกไป และยังค้นหาตำแหน่งที่ต้องการให้เป็นเช่น ตำแหน่งความร่ำรวย ตำแหน่งสุขภาพ สัมผัสจากยันต์แปดทิศนี้จะนำพาไปสู่ตำแหน่งนั้น การเขียนอักขระจักวาลถือว่าเป็นตัวเร่งในการพัฒนาจิต จากอัตราความเร็วที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ใน 7 M ในการพัฒนาความสำเร็จทางจิตคือ Mandala นี่เอง เพราะมีผลโดยตรงกับซีรีเบลลัม ยิ่งเขียน ลักษณะก้นหอย หรือเส้นที่กลับไปมา และเขียนขึ้นลงทั้งแนวขวางและแนวตั้ง จะเพิ่มอัตราความเร็วของซีรีเบลลัม การจะรู้สึกถึงการหมุนปั่นที่ซีรีเบลลัม เกิดการสลัดประจุ ทุกอณูของร่างกาย ยิ่งเขียนยิ่งทำให้เกิดการแยกประจุไฟฟ้าและเส้นแรงออกจากกันไปไกล ความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวดจึงเกิดขึ้น ยกระดับจิตวิญญาณการรับรู้ให้สูงขึ้น จนกระทั่งเป็นจิตวิญญาณที่ไร้ขีดจำกัด.....

..........สำหรับวิวัฒนาการ การทำสมาธิที่อยู่ในรูปสนามแม่เหล็กที่เข้มข้น ท่าทางการนั่งจะเปลี่ยนไป เนื่องจากพลังเข้ามาอย่างมหาศาล จากความเป็นสนามแม่เหล็ก เส้นสายจะขดหดตัวเล็กลง จะผ่านไปที่ไต ทำให้ปวดหลัง เกิดการบาดเจ็บได้ การทำสมาธิ จึงต้องเปลี่ยน โดยเริ่มจากการขัดสมาธิขวาทับซ้าย ใช้ฝ่ามือแตะไว้ข้างลำตัวทั้งสองข้าง โดยให้ปลายมือออกไปด้านข้าง และโดนเส้นสายที่เชื่อมกับซีรีเบลลัม ยืดตัวขึ้นให้ชนกันก้นกบและเอนตัวไปทางซ้าย จนกระทั่งชนกับเส้นวงแหวนน้ำในสมองส่วนกลาง หันหน้าไปทางซ้าย อ้าปาก ให้เส้นวงแหวนขยาย และหันใบหน้าพร้อมกับตัว มาตรงกลาง รู้สึกที่ฐาน 1 และวงขาที่หมุนเร็วเท่ากับพลังงานน้ำในสมอง ใช้มือขวากำล๊อคพลังงานไว้ คลิ๊กหาองศาที่มือขวา ให้พลังงานวิ่ง หย่อนตัวลง ดูดลมหายใจแบบไม่เข้าไม่ออกไปที่ช่องท้อง จะเห็นช่องท้องหมุนปั่นด้วยความเร็ว เกาะความเร็วของช่องท้อง โดยการกดคางลงให้สัมพันธ์กับช่องท้องที่หมุนอยู่ มือซ้ายที่แตะพื้นข้างๆ ตัว กระดกนิ้วชี้ซ้ายขึ้น และนิ้วโป้งซ้ายดันเข้าหานิ้วชี้ซ้ายที่ยกเล็กน้อย จะเกิดการไหลของพลังงานอย่างสืบเนื่องไม่มีติดขัด และการเข้าสมาธิจะเพลิดเพลิน ขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็ว ไม่เกิดอาการปวดตึง ดึงรั้งอีกเลย

วิวัฒนาการของจิต ในแต่ละรูปแบบจะเปลี่ยนไปจากจิตวิญญาณที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อค้นหาหนทางแห่งการสู่ความเป็นพุทธะ และการอยู่รอดได้จากการฝึกปฏิบัติ ซึ่งเป็นหนทางสู่ธรรมชาติของจิต ที่แท้จริง The way of Nature