การที่นิ้วมือจะมีผลต่อเส้นสายและมีจิตวิญญาณ ซึ่งก็คือการรับรู้ในเรื่องพลังงาน การที่จะรับรู้ได้ ต้องมีการอัดแน่นและยุบตัวและแยกประจุไฟฟ้าออกไปจากน้ำในสมอง ทำให้สมองมีความเร็วและกลายเป็นสนามแม่เหล็ก อนุภาคที่ถูกฝังไว้ที่ซีรีเบลลัม ส่วนประจุไฟฟ้าจะถูกผลักไปที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และพื้นฐานหรือจักระ 1
การใช้นิ้วมือเป็นส่วนที่สำคัญ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเส้นสายจากซีรีเบลลัมลงมาที่นิ้วแต่ละนิ้วเพื่อควบคุมอวัยวะต่างภายในร่างกาย ให้อยู่ในภาวะสมดุล นิ้วมือขวาและนิ้วมือซ้ายในช่วงแรกจะต่างกัน ช่วงแรกนิ้วมือซ้ายต้องทำให้เกิดการสั่นสะเทือนโดยการกระดิกนิ้วไปเรื่อยๆ ให้ชนกับโคนของหัวแม่มือซ้าย ในข้างซ้ายคือกระแสขาเข้า อยู่ในรูปของประจุไฟฟ้า กระตุ้นสมองส่วนหน้าให้เกิดการสั่นสะเทือน ทำให้เกิดการขับเคลื่อนและเพิ่มความเร็ว ส่วนนิ้วมือขวา ขณะเคลื่อนไหวจะต้องเกร็งนิ้วและเกี่ยวแบบช้าๆ เพราะนิ้วมือขวาจะเชื่อมต่อกับเส้นสายของซีรีเบลลัมโดยตรง การใช้นิ้วมือซ้ายและชวาจึงต้องสัมพันธ์กัน
การใช้นิ้วมือหรือเรียกว่า มุทรา เป็นตัวควบคุมเส้นสายสนามพลังที่เชื่อมต่อทั้งภายในและภายนอก เมื่อมีความเป็นสนามแม่เหล็กมากขึ้น การใช้นิ้วก็เปลี่ยนไป นิ้วจะเป็นตัวล๊อคเพดานคลื่นพลังงานให้เหมาะสมกับความเร็วของน้ำในสมอง เมื่อเส้นสนามพลังหนาแน่น การเคลื่อนไหวนิ้วมือจะช้าลง ใช้องศาและทิศทางของนิ้วมือเป็นตัวควบคุมความเร็วและการรวมเส้นสาย สามารถใช้นิ้วมือเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้คน ธรรมชาติ หรือสิ่งต่างๆ โดยการใช้นิ้วมือเชื่อมต่อกับสิ่งนั้น ทำให้เส้นสายที่ซีรีเบลลัมออกมาดูดซับพลังงานที่เราเชื่อมต่อ อยู่ในรูปของ macro cosmic orbit ภาวะความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กจึงเพิ่มขึ้น เพียงแต่ใช้นิ้วโป้งให้ชนชั้นพลังงานกับนิ้วชี้ จะทำให้ล๊อคคลื่นได้เหมาะสม เมื่อล๊อคได้จะเกิดการขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็ว โดยเชื่อมต่อกับคน เพราะคนมีพลังชีวิตที่สูง มีความคิด ซึ่งเป็นตัวผลิตกระแสไฟฟ้าที่ดี เมื่อล๊อคแล้วงอนิ้วเล็กน้อยให้ตรงกับคลื่นที่เราเชื่อมต่อเบื้องหน้า และคลิกองศา ให้ชนเส้นที่เร็วและแรงที่สุด อีกนิ้วมือข้างหนึ่ง ใช้นิ้วโป้งให้ชนชั้นพลังงานของนิ้วชี้ ค่อยคลิกหาองศาที่เร็วที่สุด ซึ่งจะมีผลกระทบกับนิ้วมืออีกข้างหนึ่ง ยิ่งนิ้วมือห่างกัน ความเร็วยิ่งมากขึ้น ค่อยๆ เอานิ้วมือข้างใดข้างหนึ่งเลื่อนเข้าหานิ้วมืออีกข้างหนึ่ง ขณะเลื่อนไปที่ละนิด ให้ชนเส้นสายทุกจุด จนกระทั่ง นิ้วมือที่เลื่อนจะมาสำทับกับอีกนิ้วมืออีกข้างหนึ่ง จะเกิดการรวมเส้นสายภายในตัวมากขึ้น โดยการควบคุมนิ้วมือทั้งสองข้างทำงานในทิศทางที่ต่างกัน จึงจะเกิดความเร็ววงรอบที่สูง เกิดการกระชากพลังงานเข้ามาด้วยความรุนแรง เพื่อดูดซับพลังงานมากขึ้น ยิ่งใช้นิ้วมือหรือมุทรามากเท่าใด อนุภาคหรือเส้นสายจะถูกรวมมากขึ้น จนกระทั่งสู่ความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวด เส้นสายชิดกันมากจนกระทั่งประจุไฟฟ้าอยู่วงรอบนอก ไม่สามารถแทรกเข้าได้ เมื่อนั้นกายนี้จะแข็งแกร่ง ไม่มีอะไรทำได้ กลายเป็นกายวัชระไปในที่สุด
เมื่อมีความเข้มข้นของสนามแม่เหล็กแล้ว แค่ขยับนิ้วมือก็สามารถทำให้เส้นสายสั่นสะเทือนและสัมพันธ์ทั้งระบบภายในร่างกาย รวมถึงไอชีวิตก็ยังสัมพันธ์กับนิ้วมือหรือมุทราได้อย่างสืบเนื่อง เมื่อมีผลต่อเส้นสายระบบภายในร่างกาย ก็มีผลต่อระบบภายนอก เข้าสู่เส้นสายสนามแม่เหล็กของจักรวาล...
นิ้วมือหรือมุทรา ยังใช้ในการทำสมาธิโดยการเกี่ยวเส้นที่อยู่ด้านข้างช่องท้อง หรือวงรอบนอกของจุดพักจิตหรือธรรมจักร เมื่อเกี่ยวแล้วดึงออกไปอีกด้านหนึ่ง จะรู้สึกถึงการหมุนของช่องท้อง และนำนิ้วมืออีกข้างมาสำทับ จะเกิดความเร็วที่ช่องท้องเพิ่มขึ้น สุดท้ายจะถูกดูดรวมเข้าสู่สภาวะนิ่งอย่างสมบูรณ์ ขณะทำสมาธิ ควรใช้นิ้วล๊อคระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วกลาง คลิกหาองศาที่เร็วที่สุด นั่งย่อลำตัวให้เหมาะสม เมื่อนั้นคุณจะเข้าสมาธิอย่างล้ำลึกได้เลยทีเดียว