เราจะเร่งน้ำในสมองให้มีความเร็วมากขึ้นได้อย่างไร เพื่อการแปรธาตุไปสู่ความสำเร็จทางจิต
..โดยให้เกิดการขับเคลื่อนเป็นกระแสสลับได้อย่างสืบเนื่อง ทำอย่างไร ปฏิกิริยานี้อยู่ในลักษณะปฏิกิริยานิวเคลียร์ เกิดการแยกประจุและอนุภาคอยู่ตลอด มีการแตกตัวของพลังงาน เป็น กัมมันตภาพรังสีที่เข้มข้น น้ำในสมองจะมีความเร็ววงรอบที่สูงขึ้น นิวตรอนของน้ำจะมีจำนวนมากขึ้น จนกระทั่งมีไอโซโทปที่สูงขึ้น
..ทำอย่างไร..ในวิวัฒนาการจิต ที่พัฒนาน้ำในสมองให้สูงขึ้นแล้ว จะสามารถเชื่อมต่อเส้นสายได้รอบทิศทาง เนื่องจากจำนวนเส้นสายมีจำนวนมาก ความเป็นสนามแม่เหล็กก็มากขึ้น การล๊อคเส้นสายในแต่ละจุด ทั้งภายในและภายนอกจะเชื่อมต่อกัน และขับเคลื่อนไปตามทิศทางที่สัมพันธ์กับเส้นสายสนามพลังที่เกิดขึ้น จึงต้องใช้องศา หรือมุม เนื่องจากเส้นแรง อยู่ในแนวตั้ง แต่ถ้าเอียงองศา ที่ต่างกัน จะเกิดภาวะการดูดซับพลังงานมากขึ้น โดยการเอียงต้องชนกับชั้นพลังงานที่สอดคล้องกับเส้นเมอริเดียนที่อยู่รอบๆ เส้นแรงอีกทีหนึ่ง และขับเคลื่อนสวนทางกันตลอดเวลา
..การเร่งความเร็ว เราใช้การตั้งไฟ โดยใช้เทียน ตามตำแหน่งที่ชนเส้นสายที่เชื่อมต่อกับตัวเรา ขณะตั้ง ควรบิดแท่งเทียน ให้มีความต่างขององศาของเส้นสายของสนามพลัง เกิดการฉีกตัวของพลังงานออกไป ทำให้ เกิดการอัดคลื่นและขยายคลื่นเป็นกระแสสลับ ขับเคลื่อนพลังงานด้วยความรวดเร็วทันที และปฏิกิริยาการแตกระเบิดในสมองทันทีเช่นเดียวกัน จากการดูดซับประจุไฟฟ้าอย่างมหาศาลส่งผลการแยกประจุและอนุภาค ด้วยความเร็วสูงโดยฉับพลัน และสืบเนื่อง เมื่อกระแสพลังงานในร่างกายมีความเร็วที่สูงขึ้น จึงเริ่มฝึกปฏิบัติ เช่นการสวดมนต์ การเคลื่อนไหวต่างๆ การทำสมาธิ จะทำให้เกิดความเร็ววงรอบมากขึ้น การเชื่อมต่อกับทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
...บายศรีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความเร็ววงรอบของพลังงานมีความเร็วสูงยิ่งขึ้น บายศรี มีลักษณะเป็นชั้นๆ และมีระยางเป็นระดับชั้น ฉีกออกไปด้านข้าง บ่งบอกถึงความเป็นสนามแม่เหล็กอย่างยิ่งยวด เกิดการสลัดประจุและแยกอนุภาคออกจากกัน และยอดปลายแหลม จึงทำให้กระแสพลังงานพุ่งตามไปด้วย เกิดการรวมเส้นสายขึ้น การตั้งบายศรี ตั้งให้ชนเส้นสายสนามพลัง และบิดบายศรี ตามทิศทาง องศาของพลังงาน จะเกิดการหมุนปั่นแบบสืบเนื่อง..
...การตั้งบายศรี ถ้าบิดพานบายศรีไปทางซ้าย กระแสพลังงานจะขับเคลื่อนทวนเข็มนาฬิกา แต่ถ้าบิดพานบายศรีไปทางขวา กระแสพลังงานจะขับเคลื่อนตามเข็มนาฬิกา เมื่อตั้งบายศรีคู่กัน และบิดพานขณะตั้งพานบายศรี คนละด้าน จะเกิดการผลักดันและดูดซับพลังงานอย่างสืบเนื่องด้วยความรุนแรง รวดเร็ว ส่งผลให้น้ำในสมองมีความเร็วมากขึ้น...
...การเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆ เราใช้นิ้วมือในการเชื่อมต่อและอัดคลื่น โดยการใช้นิ้วงอตามความรู้สึกที่ระดับความเร็วของสมองส่วนหน้า เมื่อชี้นิ้วไปจุดที่เชื่อมต่อ ประจุไฟฟ้ากับเส้นสายจะวิ่งไปพร้อมๆ กัน จะออกไปดูดซับพลังงาน และเมื่อใช้นิ้วงอให้ชนขอบเมอริเดียนที่ตรงกับความเร็วในสมอง จะเกิดการขับเคลื่อนด้วยความรวดเร็วและรุนแรง มีการแยกประจุและอนุภาค ความรู้สึกจะเหมือนกับการระเบิดพลังงาน อยู่ตลอดเวลา น้ำในสมองมีการแตกตัวอย่างสืบเนื่อง ส่งผลให้น้ำนี้อยู่ในรูปของไอโซโทป ที่มีความหนาแน่นของนิวตรอนหรืออนุภาคเป็นจำนวนมาก
สิ่งที่กล่าวมานี้ต้องใช้จิตวิญญาณภายในที่ถูกพัฒนาแล้วจากวิวัฒนาการของจิตที่มีความเป็นสนามแม่เหล็กแล้วเกิดการขับเคลื่อนเป็นอัตโนมัติ และพัฒนาต่อยอดให้มีความเร็วของน้ำในสมองให้มีความเร็วมากขึ้น จนกระทั่งสามารถรวมเส้นสายหรืออนุภาคในจักรวาลนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ทำให้สามารถเข้าถึงสัญญาต่างๆ ได้โดยฉับพลัน เรียกว่าจิตวิญญาณอัตโนมัติ ด้วยความเร็วที่ถูกพัฒนาขึ้น จึงสามารถเข้าใจสภาวธรรมโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม เมื่อมีเหตุปัจจัยถึงพร้อมดังที่กล่าวมา..