Staphylococcus food poisoning
STAPHYLOCOCCAL : FOOD INTOXICATION
Qx Dx:
1.คลื่นไส้มาก อาเจียน ปวดท้องเกร็ง ตะคริว ท้องเสีย ไม่ไข้
ตัวเย็น อ่อนเพลียมาก
อาจมีความดันโลหิตต่ำ มักเป็น 2-4 ชั่วโมงหลังกินอาหาร
2.เกิดจากพิษของเชื้อ
QxRx: รักษาตามอาการ
สาเหตุ
เกืดจาก enterotoxin ของเชื้อ Staphyllococcus aureus
โดยการกิน S.aureus หลายชนิดที่สร้างสารพิษ (enterotoxin) เข้าไป
คุณสมบัติ
Enterotoxin จากเชื้อนี้ มีอยู่ 8 ชนิดA B C1 C2 C3 D E H
จะคงทนต่ออุณหภูมิที่จุดเดือด 30 นาทีก็ยังไม่ถูกทำลาย
Toxin ไม่ทำให้อาหารมีสี กลิ่น รสผิดปกติไป ทำให้เราไม่รู้ว่าเชื้อปนเปื้อน
เชื้อ มักจะแบ่งตัวเพิ่มจำนวนในอาหารและสร้าง toxin ขึ้น
แหล่งพบเชื้อ
ในอาหารที่ปรุงแล้ว ผ่านสัมผัสด้วยมือของผู้ทำอาหาร
ทิ้งไว้ในห้องหลายชั่วโมง ไม่ได้อุ่น หรือ ไม่ได้แช่เย็น
ทำให้เชื้อเจริญเติบโต
เช่น ขนมจีน แอแคร์ เนื้อ เป็นต้น
การติดต่อ
กินอาหารที่ปนเปื้อนเข้าไป
เชื้อในอาหาร :
มาจาก มือนิ้วมือที่เป็นแผล จากตา ฝีหนอง หรือสิวอักเสบ จากผิวหนัง ของผู้ทำอาหาร
หรือ การปนเปื้อนจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น น้ำนมวัว เป็นต้น
ลักษณะโรค
เกิดจากพิษ (ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ)
อาการเฉียบพลัน
มีการคลื่นไส้อย่างมาก อาเจียน ท้องเดิน ปวดเกร็งลำไส้ และอ่อนเพลียมาก
ทำให้อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ และอาจมีความดันโลหิตต่ำลงด้วย
ระยะเวลาที่เกิดหลังกินอาหาร
หลังกินอาหาร ประมาณ 30 นาที ถึง 8 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ 2-4 ชั่วโมง
อาการและอาการแสดง
คลื่นไส้ ปวดเกร็งลำไส้ อาเจียน ท้องเดิน อ่อนเพลีย โดยทั่วไปอาการมักเกิด 1-2 วัน
ความรุนแรง
ไม่ค่อยพบการเสียชีวิต
อาการมักเป็นนาน 1-2 วัน
แต่ อาจรุนแรงมาก-จนต้อง admit และ อาจได้รับการผ่าตัด เนื่องจากมีอาการของเยื่อบุช่องท้องอักเสบได้
การวินิจฉัยโรค
1.อาการพร้อมกันหลายคน กินอาหารร่วมกัน
2.การเพาะแยกเชื้อ จาก เศษอาเจียน อุจจาระ หรือ อาหารที่สงสัย
ได้เชื้อ Staphylococci ที่สร้าง enterotoxin > 10 ตัว/กรัม
3.ในอาหารที่สุก เชื้อตายอาจไม่พบเชื้อได้ แต่ toxin จะทนร้อน
ต้องตรวจ enterotoxin หรือ thermonuclease ในอาหารแทน
หรือ การทำ Phage typing (หาอนุภาคของเชื้อ)
ทางระบาดวิทยา
การสืบสวน ทำในกรณี
ที่มีผู้ป่วยจำนวนหลายคน มีอาการเฉียบพลันเหมือนกัน กินอาหารร่วมกัน
การวินิจฉัยแยกโรค
-อาหารเป็นพิษที่เกิดจากแบคทีเรียตัวอื่น
-พิษจากสารเคมี
การป้องกัน
1.ไม่ควรให้ผู้ที่ติดเชื้อ ทำอาหาร
2.อาหารหากยังไม่กินควรเก็บในตู้เย็น
ระบาดวิทยาของโรค
พบได้บ่อย และ พบได้ทั่วไป
การรักษา รักษาตามอาการ
Ref.
http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_nih/a_nih_1_001c.asp?info_id=210