MMR vaccine

วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม

1) ให้วัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 9 -12 เดือนขึ้นไป และ ครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 4-6 ปี

โดยควรพิจารณา

-ให้ฉีดเร็ว (อายุ 9 เดือน) ในที่ที่ยังมีรายงานผู้ป่วยโรคหัดจำนวนมากในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี

-ควรฉีดช้า (อายุ 12 เดือน) ในที่ที่มีรายงานโรคหัดจำนวนน้อยในเด็กต่ำกว่า 1 ปี

2) การฉีดเข็มที่ 2 อาจให้ได้ตั้งแต่อายุ 2 ½ ปี

ตามแผนปฏิบัติงานของกระทรวงสาธารณสุข

(จากการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ครั้งที่ 1-2556 วันที่ 28 มกราคม 2556)

3) ในกรณีที่มีการระบาดหรือสัมผัสโรค

อาจฉีดเข็มสองเร็วขึ้นก่อนอายุ 4 ปีได้ โดยต้องห่างจากเข็มแรกอย่างน้อย 3 เดือน

4) ในกรณีที่ต้องการฉีดวัคซีน หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม และอีสุกอีใสในเวลาเดียวกัน

สามารถใช้วัคซีนรวม หัด-หัดเยอรมัน-คางทูม-อีสุกอีใส (MMRV) แทนการฉีดแบบแยกเข็มได้ในทุกครั้ง ในเด็กอายุตั้งแต่ 1 – 12 ปี

การใช้วัคซีนรวม MMRV ที่อายุ 4-6 ปีแทนการฉีดวัคซีนแบบแยกเข็มพบมีอาการข้างเคียงไม่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ดีการใช้วัคซีนรวม MMRV ในเด็กอายุ 12-23 เดือน

ทำให้มีโอกาสเกิดการชักจากไข้ได้มากกว่าการฉีดแยกเข็ม

สำหรับกรณีที่เคยได้วัคซีน MMR หรือ VZV มาก่อน

แนะนำให้วัคซีนรวม MMRV ห่างจากวัคซีน MMR ครั้งก่อน อย่างน้อย 1 เดือน

และห่างจากวัคซีน VZV ครั้งก่อน อย่างน้อย 3 เดือน

ข้อควรระวัง

1.ห้ามให้สำหรับผู้ที่แพัยาหรือวัคซีน ที่มีส่วนประกอบ ยา โปรตีนไข่ น้ำตาล

neomycin, chick embryo, sorbital sweetener, gelatin

2.วันซีน เป็น live attenuated vaccine ห้ามให้ใน ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

3.หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงที่ได้ควรคุมกำเนิดอย่างน้อย 3 เดือน

4.หากป่วยควรเลื่อนการให้วัคซีน

5.สังเกตอาการแพ้หลังฉีด 15-30 นาทีที่โรงพยาบาล

เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีภาวะ anaphylaxis หลังฉีด

6.หลีกเลี่ยงการใช้ยา aspirin ก่อนหลัง 6 สัปดาห์

อาการไม่พึงประสงค์

1.ผลข้างเคียงเฉพาะที่

เจ็บ ปวด บวม บริเวณที่ฉีด อาจมีผื่นรอบบริเวณนั้นได้

2.ผลข้างเคียงทั่วไป

ไข้ รู้สึกไม่สบาย 1-2 วัน หากไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

อาจมีอาการไอ เจ็บ คอ ไข้

หรือ อาการแพ้วัคซีนได้ ผื่นคัน แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก แบบ anaphylaxis