Congenital rubella
Congenital Rubella Syndrome
Qx Rx:
หญิงตั้งครรภ์สัมผัสโรค ตรวจ Rubella IgM,IgG ซ้ำที่ 2,6 wk
เด็กทารกมีอาการ/แม่ติดเชื้อ ดูตาม criteria ด้านล่าง
สาเหตุ
เกิดจาก generalized virus-induced progressive necrotizing vasculitis ทำให้เกิด parenchymal hypoplasia ของอวัยวะต่างๆในร่างกาย
อัตราเสี่ยง ขึ้นกับระยะเวลาการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะ 3 เดือนแรก ความผิดปกติแต่กำเนิด 65-85%
เดือนแรก โอกาสเป็น 50%
เดือนที่สอง โอกาสเป็น 25%
เดือนที่สาม โอกาสเป็น 10%
3 เดือนแรก หัวใจพิการ หูหนวก 30-35%
หากมากกว่า 4 เดือนพบน้อยมากไม่เกิน 10 %
ความพิการที่พบส่วนใหญ่ หูหนวก ต้อกระจกหรือต้อหิน หัวใจพิการ พัฒนาการล่าช้า
มีความเสี่ยงเบาหวานในเด็ก 50 เท่า
อาการ ที่พบได้ ตามระยะเวลาที่ตรวจพบ
ทารกแรกเกิด
ศีรษะเล็ก 27% ,น้ำหนักน้อยกว่า 2500gm 23%, ตับม้ามโต19%, จ้ำเลือด17%, เยื่อหุ้มและสมองอักเสบ10%, ความผิดปกติของกระดูก7%
ช่วงต้นของทารก
การได้ยินผิดปกติ60% โรคหัวใจแต่กำเนิด45% จอประสาทตาผิดปกติ5%
ระยะหลัง
หูหนวก พัฒนาการล่าช้า เบาหวาน ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ สมองอักเสบทั่วไปอย่างต่อเนื่อง
Criteria การวินิจฉัย Congenital rubella syndrome
ก.อาการในทารก ดังนี้
Category A: ต้อกระจกหรือต้อหิน หัวใจพิการแต่กำเนิด(มักเป็นPDA หรือ PPAS) การได้ยินผิดปกติ และ pigmentary retinopathy
Category B: จ้ำเลือดตามร่างกาย ตับม้ามโต ตัวเหลือง ศีรษะเล็ก พัฒนาการช้า เยื่อหุ้มสมองและสมองอักเสบ กระดูกพบradiolucent bone
ร่วมกับ
ข.การตรวจทางห้องปฎิบัติการพบอย่างไดอย่างหนึ่ง
1.viral culture positive
2.rubella IgM บวก
3.rubella IgG บวกและเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
4.PCR บวก
เกณฑ์การวินิจฉัย
1.suspected น่าสงสัย อาการเข้าได้ แต่ไม่ครบเกณฑ์ข้อ 2 หรือ 3
2.Probable น่าจะใช่ อาการเข้าได้ ไม่มีผลตรวจแลป และไม่มีสาเหตุอื่นมาอธิบาย
มีอาการอย่างน้อย 2 ข้อใน Cath A, หรือ 1 ข้อใน Cath A และ B
3.Comfirmed อาการเข้าได้ และผลแลปยืนยัน
4.Infection only ไม่มีอาการแต่ผลแลปบวก
หมายเหตุหากอาการทารกเข้าได้แต่ผลแลปเป็นลบ ให้ตรวจซ้ำที่อายุ 1 เดือน เนื่องจาก 20% ให้ผลลบต่อ IgM ที่ก่อน 1 เดือน
DDX.
แยกจาก TORCH, parvovirus, scarlet fever etc.
การรักษา และ การจัดการ
1.หญิงตั้งครรภ์สัมผัสกับผู้ป่วยหัดเยอรมัน
ตรวจเลือดหา hemagglutination inhibition titer (HI) ถ้าพบ
- rubella IgG positive หมายถึงมีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่เสี่ยงต่อการเกิด congenital rubella
- rubella IgG negativeหมายถึงไม่มีภูมิ ตรวจเลือดซ้ำ 2 และ 6 สัปดาห์ถัดมา หาก IgG เพิ่ม ≥4 เท่า แสดงว่ามารดาติดเชื้อ ควรประเมินความเสี่ยงและการตัดสินใจครอบครัว ในการพิจารณาสิ้นสุดการตั้งครรภ์
2.ทารกที่เป็น congenital rubella syndrome จะตรวจพบเชื้อใน nasopharyngeal secretion และ ในปัสสาวะได้นานถึง 1 ปี จึงสามารถแพร่เชื้อได้
วัคซีน
เพื่อลดการเกิดโรคหัดเยอรมันแต่กำเนิด
เป็นวัคซีนเชื้อเป็น สายพันธุ์ RA 27/3 จะดีกว่า HPV 77 DE5 และ Cendehill
โดยเป็นวัคซีนรวมใน MMR เท่านั้นไม่มีแยก ฉีด 2 ครั้ง 9-12 เดือน และ 4-6 ปี
หญิงควรฉีดก่อนตั้งครรภ์ 1 dose หากไม่เคยได้รับหรือเคยได้ครั้งเดียวและพบว่าหากฉีดใน 3 เดือนแรก จะไม่ทำให้เกิด congenital rubella syndrome คุมกำเนิด 28 วันหลังการฉีดก็พอ
Ref.
1.http://www.doctor.or.th/article/detail/5359
3. http://thaigcd.ddc.moph.go.th/knowledges/view/29
4. http://emedicine.medscape.com/article/968523-overview#showall