Quinolone

Quinolone การใช้ในเด็ก

การใช้ยาในเด็กต้องระวังเนื่องจากการทดลองในสัตว์ ยาอาจกด epiphyseal plate และ มีผลต่อการเจริญเติบโตได้

อาการอื่น ความผิดปกติระบบประสาทส่วนกลาง ภาวะไวต่อแสง การสร้างกลูโคสผิดปกติ ตับผิดปกติ ผื่นแพ้ prolong QT interval

ควรใช้ยากลุ่มนี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น ดังนี้

1. 1A: ให้ยาปัองกันหลังสัมผัสโรค Bacillus anthracis โดยการสูดดม และ meningococcal infection

Bacillus anthracis CDC แนะนำ : Ciprofloxacin 10-15 mg/kg/dose oral bid * 60 วัน

Meningococcal disease CDC แนะนำกรณี close contact : rifampicin, ceftriaxone, azithromycin หรือ ciprofloxacin 20 mg/kg once ไม่เกิน 500 mg

2. 2A: UTI จาก P.aeruginosa หรือ multidrug-resistant gm – bacteria ใช้ ciprofloxacin

3. 4C: chronic suppurative otitis media/ malignant otitis externa จาก P.aeruginosaใช้ ciprofloxacin

ส่วนใหญ่ COM มักเกิดจาก S.aureau และ P.aeruginosa

4. 5C: acute/chronic osteomyelitis/osteochrondritis เฉพาะ ciprofloxacin

5. 2B: Exacerbation จากปอดเรื้อรัง ที่มี P.aeruginosa เป็น colonization ใช้ ciprofloxacin

6. 5C: Mycobacteria ที่ดื้อต่อยาหลัก และไวต่อยากลุ่มนี้ ได้แก่ levofloxacin, moxifloxacin(ดีสุด), ofloxacin

7. 2B: ภูมิคุ้มกันบกพร่องต่อ gm.negative bacteria ที่ดื้อต่อยาอื่น

8. 3B: GI infection จาก multidrug resistant: Shigella spp, Salmonella spp. Vibrio cholera, Campylobactor jejuni

9. 5C: bacterial septicemia หรือ meningitis จากเชื้อที่ดื้อยาอื่น หรือ ให้เสริมฤทธิ์ควบยาอื่นเมื่อจำเป็น

Salmonella spp.ให้ยาร่วม cefotaxime/ceftriaxone+ciprofloxacin 4-6 wk

10.5C: severe infection ที่ไวต่อยานี้และแพ้ยาอื่น เนื่องจากยากลุ่มนี้มีการแพ้แบบ cross reaction กับกลุ่มอื่นน้อย และหากแพ้มักไม่เป็น anaphylaxis

11.1B: febrile neutropeniaที่แพ้ยา beta-lactam อาจให้ ciproflox+clindamycin เป็นยาเบื้องต้นในการรักษา

12.5C: โรคติดเชื้อที่ไม่สามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอื่นๆได้

Ref.

http://www.pidst.net/knowledge_detail.php?id=395