Small pox
Small pox ฝีดาษ หรือ ไข้ทรพิษ
เป็นโรคติดต่อร้ายแรง
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อ Variola virus เป็นเชื้อในกลุ่มจีนัส Orthopoxvirus แฟมมิลี่ Poxviridae
เชื้อในกลุ่มนี้ทำให้เกิดตุ่มที่ร่างกาย
เชื้อนี้ถูกกำจัดหมดจากโลกตั้งแต่ปี 2522 มีแต่ในห้องปฎิบัติการที่ยังเก็บไว้
{Orthopoxvirus มีหลาย species
ทำให้ติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม : mousepox, monkeypox, cowpox, vaccinia.smallpox, camel pox}
ระบาดวิทยา
พบผู้ป่วยไข้ทรพิษรายสุดท้ายที่โซมาเลีย 2520
2522 WHO ประกาศว่าไข้ทรพิษถูกกวาดล้างหมดจากโลกแล้ว
2523 ประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก ประกาศมีผู้ติดเชื้อตาย 1 ราย ในห้องปฎิบัติการม.เบอร์มิงแฮม ปี2521
สถานการณ์ในไทย
กรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2460-2504 มีไข้ทรพิษเกิดขึ้นทุกปี
พ.ศ. 2488-2489 ช่วงสงครามโลก ระบาดครั้งใหญ่สุด จากเชลยพม่าที่มาทำสะพานข้ามแม่น้ำแคว แพร่ยังกรรมกรไทย ผู้ติดเชื้อ 62,837 ราย ตาย 15,621 ราย
ระบาดครั้งสุดท้าย พ.ศ.2504-2505 ที่แม่สาย เชียงราย ติด 34 ราย ตาย 5 ราย
พ.ศ. 2504 กระทรวงเริ่มโครงการกวาดล้างไข้ทรพิษในไทย
พ.ศ. 2523 WHO ประกาศไข้ทรพิษถูกกวาดล้างหมดแล้ว จึงหยุดการปลูกฝีนั้นแต่นั้นมา
2545 WHO ได้ให้ USA และ Rassia เก็บเชื้อไว้ทดลองต่อ
ระยะฟักตัว
7-19 วัน เฉลี่ย 10-14 วัน
การติดต่อ
มักผ่านทางละอองฝอย droplet spread
หรือ ทางผิวหนัง skin inoculation
หรือ เยื่อบุตา conjunctiva
อาการ
เริ่มต้น
มีไขสูงเฉียบพลัน 40 C ปวดเมื่อยกลามเนื้อ ปวดศีรษะ ออนเพลียมาก ปวดหลัง อยางรุนแรง
ในบางรายเกิดอาการปวดในชองทอง และ อาเจียน ซึ่งเปนลักษณะอาการใกลเคียงกับไขหวัดใหญ
ตอมา 2 - 4 วัน
ไขลดลง และมีตุมลักษณะ ฝงลึก deep-seated rash เกิดขึ้น โดยแตละตุมที่เกิด ขึ้นจะมีเชื้อไวรัสซึ่งจะพัฒนาไปเปนจุดดางบนผิวหนัง (macules) ผื่นนูนแข็ง (papules) ตุมนํ้า (vesicles) และ ตุมหนอง (pustules) แลวจึงตกสะเก็ด (crusted scabs) และลอกออกไปภายใน 3 - 4 สัปดาห
ตุ่มเริ่มที่หน้า และกระจายไปส่วนปลายสุดแขนขา ฝ่ามือเท้า และต่อมาที่ลำตัว เรียกว่า centrifugal rash
ผื่นจะต่างกับสุกใส
ความแตกต่าง
ไข้ทรพิษ:
ผื่นเกิดขึ้นในระยะต่าง ตามร่างกายพร้อมกัน
กระจายออก centrifugal
ผื่นจะมีขึ้นพร้อมกับไข้
ผื่นลึก deep seated lesion
มีหลายระยะในบริเวณเดียวกัน
รอยแผลมักเป็นรอยบุ๋ม
ไม่พบที่รักแร้
อีสุกอีไส:
ผื่นมักเกิดในทีปกปิด
มักกระจายเข้าศูนย์กลาง centripetal
ผื่นจะตามมาทีหลังไข้
ผื่นตื้นกว่า
ระยะผื่นใหล่เคียงกัน
รอยแผลตื้นกว่า มักคัน
การวินิจฉัย
ตรวจแยกเชื้อ บน chorioallantoic membrane โดยการขูดตุ่มน้ำไปตรวจ ดูด้วยกล้องจุลทรรศ์อิเลกตรอน
การรักษา
รักษาตามอาการ ทำควาสะอาด ดูแลสารน้ำ
การป้องกัน ควบคุม
หาโรค แยกกักกัน
การปลูกฝี
ปลูกที่หัวใหล่ ใช้ของแหลมขูดให้วัคซีนซึมเข้าไป ต่างกับฉีดวัคซีน
เอาเชื้อ vaccinia ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในวัว ทำให้อ่อนแรงแล้ว เป็น วัคซีนเป็น
มาใช้ปลูกฝี หลังฉีดภูมิอยู่ได้นาน 3-5 ปี
ผู้คิดค้น คือ เอ็ดเวิร์ด เจนเนอร์ แพทย์ชาวอังกฤษ เห็นฝีดาษวัว(Cowpox)ติดในหญิงรีดวัว
หญืงอาชีพนี้ไม่มีใครป่วยเป็นโรคฝีดาษเลย
จึงเอาหนองที่ฝีดาษวัวไปป้ายแผลที่เป็นรอยกรีดเล็กๆให้ติดเชื้อจะได้มีภูมิ ปรากฎว่าได้ผล
การควบคุม
เนื่องจากระยะฟักตัวยาว การให้วัคซีนแก่ผู้สัมผัสใน 4 วัน สามารถป้องกันหรือลดอาการลงได้
Ref.