Post date: 18-Oct-2010 07:28:29
รายงานส่วนของ อ.ปกรณ์ เป็นการสรุปรวบยอดเนื้อหาความรู้ที่ อ.สอนในห้องทั้งหมด จำเป็นที่เราจะต้องรู้เนื้อหา เข้าใจ และมองเห็นความเชื่อมโยงของเนื้อหาทั้งหมดก่อน จึงจะทำให้ทำรายงานได้ดี แน่นอนครับ รวมไปถึงการทำข้อสอบของวิชานี้ด้วย
ผมขอเรียบเรียงเนื้อหาที่ได้จากการฟังบรรยายในส่วนของ อ.ปกรณ์ และจากเอกสารประกอบการบรรยาย ประกอบกับหนังสือ "การบริหารโครงการ: แนวคิดและแนวทางในการสร้างความสำเร็จ โดย ปกรณ์ ปรียากร (2553)" โดยเรียงลำดับตามคำถามสำคัญในรายงานครับ
เป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาและสาเหตุของปัญหา เพื่อให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไรบ้าง และสาเหตุเหล่านั้น เกิดจากสาเหตุย่อยๆ อะไรบ้าง การจัดทำ Problem Tree Diagram จึงเป็นขั้นตอนแรกของการจัดทำ Log Frame
เป็นแผนภูมิที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง เป้าหมาย วัตถุประสงค์ และวิธีการที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น โดยการจัดทำ Objective Tree Diagram จะต้องสอดคล้องกับ Problem Tree Diagram กล่าวคือ เป้าหมายของโครงการจะต้องมุ่งแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ วัตถุประสงค์จะต้องตอบสาเหตุของปัญหาที่ทำการวิเคราะห์ไว้ ส่วนวิธีการจะต้องตอบสาเหตุย่อยของสาเหตุที่วิเคราะห์ไว้ด้วยเช่นกัน
โดยทั่วไปในระบบราชการ เมื่อเราต้องการทำเอกสารโครงการ เรามักเลือกจัดทำเอกสารโครงการในเชิงพรรณนา ซึ่งจะอธิบายรายละเอียดต่างๆ ของโครงการด้วยการอธิบายความ เป็นลำดับไป ซึ่งมักทำให้เอกสารโครงการมีเนื้อหาที่ยาวและยากที่จะมองให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของหัวข้อต่างๆ ได้ รูปแบบการจัดทำเอกสารโครงการอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากจะช่วยให้สามารถสรุปเนื้อหาได้อย่างกระชับและมองเห็นความสัมพันธ์ของหัวข้อต่างๆ ได้อย่างชัดเจน คือ การจัดทำเอกสารโครงการ ในรูปแบบ Logical Framework
เมื่อจัดทำ Problem Tree Diagram และ Objective Tree Diagram เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะต้องนำเอาข้อมูลในแผนภูมิมาใส่ในเอกสารโครงการในรูปแบบ Logical Framework ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ ดังนี้
หลังจากที่จัดทำเอกสารโครงการในรูปแบบ Log frame แล้ว เราสามารถนำข้อมูลใน Log Frame มาจัดทำเป็นเอกสารโครงการในเชิงพรรณนาได้ ซึ่งจะทำให้เอกสารโครงการมีความครบถ้วน ชัดเจน และมีความเชื่อมโยงถึงกันในทุกส่วนของเนื้อหา เอกสารโครงการในเชิงพรรณานาประกอบด้วยหัวข้อต่างๆ ดังนี้
เมื่อโครงการได้รับการอนุมัติจากผู้บริหารให้ดำเนินการแล้ว ผู้จัดการโครงการจะต้องจัดระบบการจัดการโครงการ ซึ่งมีประเด็นที่ต้องพิจารณาดังนี้
ตัวแบบสิบสองปัจจัยแห่งความสำเร็จ เป็นผลจากการประมวลตัวแบบปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของโครงการ ของนักวิชาการระดับโลก ได้แก่ ตัวแบบบัญญัติสิบประการของ Paul C.Dinsmore ตัวแบบสิบปัจจัยแห่งความสำเร็จของ Jeffery K.Pinto and Dennis P.Slevin ตัวแบบการจัดการเชิงบูรณาการของ Linn Stuckenbruck และตัวแบบการจัดการโครงการขนาดใหญ่ของ Peter W.G.Morris โดย อ.ปกรณ์ได้ประมวลปัจจัยร่วมของแต่ละตัวแบบ กับปัจจัยที่แตกต่างของแต่ละตัวแบบแต่มีความสำคัญ โดยใช้กรอบบรรทัดฐานสี่ด้านของการวัดความสำเร็จของโครงการควบคู่ไปด้วย อันได้แก่ เวลา ค่าใช้จ่าย คุณภาพ และความพึงพอใจของผู้รับบริการ ตัวแบบสิบสองปัจจัยแห่งความสำเร็จ ประกอบด้วย
เมื่อเราทราบถึงขอบข่ายงาน และได้ชุดของกิจกรรมโครงการแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การจัดองค์กรโครงการ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ตามความเห็นของ Goodman and Love ที่ว่า "Organizations are the ENGINE of management"
การจัดองค์กรโครงการจะต้องคำนึงถึงความคล่องตัว ความยืดหยุ่น การสื่อสารและปฏิสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการของบุคลากรโครงการ เพื่อให้ง่ายต่อการประสานงานและการสร้างโยงในสัมพันธ์ (Integration) ด้านต่างๆ ด้วย
การจัดรูปแบบองค์กรโครงการ สามารถแบ่งได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้