๑. คุณลักษณะของปืนกลยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มิลลิเมตร MK19 MOD3
๑.๑ ปืนกลยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มิลลิเมตร MK19 MOD3 เป็นอาวุธกลระบายความร้อนด้วยอากาศ ทำงานด้วยระบบแรงดันก๊าซผลักลูกเลื่อนไปข้างหลัง
๑.๒ ใช้ยิงกับลูกระเบิดยิง ขนาด ๔๐ มิลลิเมตร มีอัตราเร็วในการยิง ๓๒๕ - ๓๗๕ นัด / นาที
๑.๓ ลูกระเบิดยิงแบบ M 430 (HEDP) สามารถเจาะเกราะหนาได้ถึง ๒ นิ้ว (เมื่อลูกระเบิดยิงกระทบเป้าในแนวศูนย์องศา) รัศมีการระเบิดสังหารบุคคล ๕ เมตร และรัศมีทำให้บาดเจ็บ ๑๕ เมตร
๑.๔ ระยะยิงหวังผลสูงสุด ๑,๕๐๐ เมตร
๑.๕ ปืนนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อไม่ให้เกิดการ “ ปะทุในรังเพลิง ” (ระเบิดในรังเพลิง )
๑.๖ น้ำหนักของปืน ๗๕.๖ ปอนด์ และพลประจำปืนสามารถแบกหามไปได้ด้วยตนเอง
- ความยาว ๔๓.๑ นิ้ว
- ความกว้าง ๑๓.๔ นิ้ว
- ความสูง ๘.๘ นิ้ว
๒. คุณลักษณะของเปลปืน MK64
๒.๑ เปลปืน MK64 ใช้สำหรับการติดตั้งกับ ขาหยั่ง M 3 หรือแท่นบนรถ M 4
๒.๒ เปลปืน MK64 ใช้ยึดตัวปืนและทำให้ปืนหมุนรอบแท่นติดตั้ง
๒.๓ ออกแบบให้มีแผ่นโลหะด้านซ้ายเปลปืนสำหรับติดตั้งที่ใส่กล่องบรรจุลูกระเบิดยิง (Ammocan bracket ) และกล่องบรรจุลูกระเบิดยิง (Ammo Can) ได้
๒.๔ ออกแบบให้มีสลักกลอนยึดสำหรับยึดปืนให้ติดกับเปลปืนไว้ ในขณะทำการเคลื่อนย้ายด้วยยานยนต์
๒.๕ น้ำหนักของเปลปืน ๒๑ ปอนด์
- ความยาว ๑๗.๕ นิ้ว
- ความสูง ๙.๕ นิ้ว
การทำงานของปืนกลยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มิลลิเมตร MK19 MOD3
๑. การบรรจุลูกระเบิดยิง และ การดึงคันรั้งลูกเลื่อน ( LOADING / CHARGING )
๑.๑ ข้อต่อสายลูกระเบิดยิง ขนาด ๔๐ มิลลิเมตร ( Linked ammo ) ถูกนำไปวางบนถาดป้อน ลูกระเบิดยิง ( Feeder ) ( 1 )
๑.๒ คันรั้งลูกเลื่อนถูกกดให้ต่ำลงและดึงมาข้างหลัง ซึ่งเป็นการดึงลูกเลื่อนให้ถอยหลัง ( 2 ) พร้อมกับเลื่อนลูกระเบิดยิงนัดแรกเข้าไปวางอยู่ในถาดป้อนลูกระเบิดยิง ( 1 )
๑.๓ คันรั้งลูกเลื่อนจะต้องดันกลับไปข้างหน้าสุด และจัดให้ตั้งไว้เพื่อให้ระบบการทำงานของปืน พร้อมทำการยิง การกดไกปืนเป็นการปลดลูกเลื่อนให้กระแทกไปข้างหน้า และลูกเลื่อนจะไปจับท้ายลูกระเบิดยิงนัดแรกให้อยู่ในตัวขอรั้งรองลูกระเบิดยิง ( Extractors ) ( 3 )
๑.๔ การดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข้างหลังครั้งที่สอง จะเป็นการแยกลูกระเบิดยิงให้ออกจากข้อต่อสาย ลูกระเบิดยิง ซึ่งลาดโค้งบนตัวคันลาดบังคับลูกระเบิดยิงให้เลื่อนลงทางแนวดิ่ง ( Vertical cam assembly ) ( 4 ) จะกด ลูกระเบิดยิงให้ต่ำลงไปรออยู่บนหน้าลูกเลื่อน และหลุดจากหน้าขอรั้งลูกเลื่อน
๑.๕ เมื่อลูกเลื่อนถอยมาข้างหลังสุด ( ดังที่แสดงในภาพ ) ขอจับท้ายลูกระเบิดยิง ( Bolt finger ) ที่หน้าลูกเลื่อน จะจับยึดลูกระเบิดยิงเอาไว้
๒. การยิง ( FIRING)
๒.๑ การกดไกเป็นเหตุให้โครงกระเดื่องไก ( Receiver sear ) ( 6 ) ปลดลูกเลื่อน และแหนบรับแรงถอย ( 7 ) จะดันให้ลูกเลื่อนไปข้างหน้า
๒.๒ ขณะที่ลูกเลื่อนกำลังเลื่อนไปทางข้างหน้า คันขึ้นนก ( Cocking lever ) ( 8 ) จะถูกปลด
๒.๓ สลักขัดกระเดื่องไกของลูกเลื่อน ( Bolt sear ) ( 9 ) จะกระแทกแผ่นโครงกระเดื่องไก และ สลักขัดกระเดื่องไกจะถูกผลักไปข้างหลัง จังหวะนี้เองจะเป็นการปลดเข็มแทงชนวนให้ไปกระทบกับจอกกระทบแตกท้ายลูกระเบิดยิง ( Primer ) ทำให้ลูกระเบิดยิงถูกยิงออกไป
หมายเหตุ : ก่อนทำการยิงต้องให้ที่จับคันรั้งลูกเลื่อนทั้งสองข้าง อยู่ด้านหน้าและตั้งขึ้น หากข้างหนึ่งข้างใดไม่ตั้งขึ้น ปืนจะไม่สามารถทำการยิงได้
๓. การถอย และ การสลัดรองลูกระเบิดยิง (RECOIL / EJECTING) กำลังดันที่เกิดจากการไหม้ของดินขับจะดันให้ลูกเลื่อน ถอยไปทางท้ายปืน ( การถอย ) ขณะที่ลูกเลื่อนถอยไปทางข้างหลัง จะเกิดอาการดังนี้.-
๓.๑ ทำการคัดรองลูกระเบิดยิง (10 ) ด้วยขอจับที่หน้าลูกเลื่อน ( Bolt fingers ) จับท้ายลูกระเบิดยิง
๓.๒ ลูกระเบิดยิงนัดต่อไปถูกดึงลงไปข้างล่างตรงหน้าลูกเลื่อน และลูกระเบิดยิงนี้จะดันรองลูกระเบิด ที่ยิงแล้วลงไปทางด้านล่างของตัวปืน
๓.๓ ลูกระเบิดยิงนัดต่อไปจะถูกเลื่อนให้ไปชิดกับ แท่นกั้นลูกระเบิดยิง ( Round positioning block ) ภายในถาดป้อนลูกระเบิดยิง ( Feeder ) เพื่อรอการปลดออกจากข้อต่อสายลูกระเบิดยิง การยิงจะกระทำต่อไปโดยอัตโนมัติตราบใดที่ยังกดไกอยู่
ภาพส่วนประกอบภายในของปืนกลยิงลูกระเบิด ขนาด ๔๐ มิลลิเมตร MK19 MOD3
ส่วนประกอบหลัก ๕ ส่วนใหญ่ คือ
๑. ชุดโครงปืนกลยิงลูกระเบิด (Receiver assembly) เป็นชิ้นส่วนที่ใหญ่ที่สุดที่จะให้ชุดชิ้นส่วนอีก ๔ ชิ้น ตามที่จะกล่าวในข้อต่อไปนำมาประกอบเข้าด้วยกัน โดยลูกระเบิดยิงจะถูกป้อนเข้าไปในถาดป้อนลูกระเบิดยิง(ทางด้านซ้ายของโครงปืน)
๒. ชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงและถาดรองรับ (Feed slide assembly and tray) สำหรับยึดลูกระเบิดยิงไว้ใน ถาดป้อนลูกระเบิดยิง (Feeder) จะเป็นตัวนำลูกระเบิดยิงให้เข้าไปในตำแหน่งที่จะทำการยิง
๓. ชุดฝาครอบห้องลูกเลื่อน (Top cover assembly) เป็นตัวติดตั้งชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงและถาดรองรับ ( Feed slide assembly and tray ) ฝาครอบห้องลูกเลื่อนจะถูกเปิดได้ด้วยการกดสลักกลอน (อยู่ทางด้านซ้าย) เมื่อต้องการบรรจุ ลูกระเบิดยิง หรือการทำความสะอาดและการตรวจบริเวณด้านหน้าถาดป้อนลูกระเบิดยิง
๔. ชุดกระเดื่องไก (Sear assembly) สำหรับรองรับโครงกระเดื่องไก (Receiver sear) การกดไกจะปลดไกและทำให้ลูกเลื่อน เลื่อนไปข้างหน้า คันห้ามไกติดอยู่กับชุดกระเดื่องไก
๕. ลูกเลื่อนและชุดแผ่นปิดท้ายปืน (Bolt and back plate assembly) ลูกเลื่อน จะเป็นตัวยิงลูกระเบิดยิง เมื่อกระเดื่องไกถูกกดด้วยการทำงานของไก แหนบรับแรงถอยจะขับลูกเลื่อนไปทางข้างหน้า ตามร่องของโครงปืนก้านแหนบรับแรงถอย จะเป็นตัวทำให้แหนบรับแรงถอยเคลื่อนที่อยู่ในแนวนอน ไกและด้ามจับจะติดตั้งอยู่บน ชุดแผ่นปิดท้ายปืน
บทที่ ๒
ขั้นตอนการทำงาน
การตั้งปืนกลยิงลูกระเบิด ขนาด๔๐ มิลลิเมตร MK19 MOD3
๑. การตั้งบนขาหยั่ง
การตั้งขาหยั่งสำหรับใช้งานบนพื้นดิน กางขาหยั่งออกในพื้นที่
จนได้ระดับ ให้พลั่วขาหยั่งจมดินเพื่อให้เกิดความมั่นคงแข็งแรง
คำเตือน
ถ้ากางขาหยั่งในบริเวณพื้นที่ ที่ไม่ได้ระดับ จะทำให้ฝาครอบห้องลูกเลื่อน เลื่อนปิดลงเองอย่างแรงจะก่อให้เกิดอันตรายต่อพลยิงหรือปืนได้
๒. การติดตั้งบนยานยนต์
รายละเอียดการติดตั้งบนยานยนต์จะอธิบาย เมื่อกล่าวถึงเรื่องเปลปืน MK64
อแดปเตอร์ติดตั้งปืนบนยานยนต์ ( Vehicle Mount Adapter )
๓. การติดตั้งเปลปืน ( GUN CRADLE )
๓.๑ ใส่เปลปืนเข้ากับฐานติดตั้งปืนโดยให้เดือยเปลปืน ลงตรงรูกึ่งกลาง
๓.๒ กดกลอนยึดเดือยเปลปืนลง (Pintle Lock) เพื่อขัดกลอนไว้กับฐานขาหยั่ง
๔. การติดตั้งตัวปืน
๔.๑ ใส่ตัวปืนลงเปลปืน แล้วเลื่อนตัวปืนเข้าไปข้างหน้าเล็กน้อย โดยให้หมุดนำบนเปลปืนตรงกันกับช่องบาก ร่องบนตัวปืน (1) และให้ช่องใส่สลักท้ายปืนตรงกับช่องใส่สลักเปลปืน (2)
๔.๒ ใส่สลักท้ายปืนกับเปลปืน
๔.๓ ถ้าปืนไม่ได้ติดตั้งควงมุมสูงและควงมุมส่าย
(T&E Mechanism) ให้ใส่สลักเฉพาะตัวหน้าเท่านั้น
๕. การตรวจสอบการทำงานของปืน
๕.๑ หันลำกล้องปืนไปยังสนามยิงปืน
๕.๒ ให้แน่ใจว่าภายในปืนปราศจากลูกระเบิดยิง
- อักษร F แสดงว่าปืนพร้อมยิง
- อักษร S แสดงว่าปืนอยู่ในลักษณะห้ามไก
คำเตือน
จงแน่ใจว่าไม่มีลูกระเบิดยิงอยู่บนหน้าลูกเลื่อนหรือในถาดป้อนลูกระเบิดยิง
๕.๓ ตรวจสอบการทำงานของคันบังคับการยิง เมื่ออยู่ในตำแหน่งห้ามไก S ( SAFE ) และตำแหน่งยิง F ( FIRE ) ขณะที่ฝาครอบห้องลูกเลื่อนอยู่ในตำแหน่งปิด
เลื่อนคันบังคับการยิงไปที่ตำแหน่งห้ามไก S (ดันไปทางซ้าย)
ดึงคันรั้งให้ลูกเลื่อนมาทางท้ายปืน
ดูคำเตือนข้างบน จงแน่ใจว่าไม่มีลูกระเบิดยิงอยู่บนหน้าลูกเลื่อนหรือในถาดป้อนลูกระเบิดยิง
กดไก ลูกเลื่อนจะต้องไม่เลื่อนไปข้างหน้า
เลื่อนคันบังคับการยิงไปในตำแหน่งยิง F (เลื่อนไปทางขวา)
กดไก ลูกเลื่อนจะเลื่อนตัวไปข้างหน้า
เลื่อนบังคับการยิงไปในตำแหน่งห้ามไก S
ปล่อยลูกเลื่อนไว้ในตำแหน่งข้างหน้าและปฏิบัติต่อไป
๕.๔ เปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อน
- ตรวจดูภายในห้องลูกเลื่อนว่าชิ้นส่วนประกอบสูญหาย
หรือว่าเสียหายหรือไม่
- บริเวณที่ต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ใช้นิ้วสัมผัสเข็มแทงชนวน (1)
หมายเหตุ หากว่าปลายเข็มแทงชนวนไม่โผล่ยื่นไป ข้างหน้า ให้ดึงคันรั้งลูกเลื่อนใหม่แล้วปล่อย ให้ลูกเลื่อนเลื่อนไปข้างหน้าอีกครั้งหนึ่ง ด้วยแรงดันของแหนบ
- ตรวจดูว่าเข็มแทงชนวนโผล่ยื่นออกมาข้างหน้าหรือไม่ และจะต้องไม่บิ่นหรือหัก
- สัมผัสหน้าลูกเลื่อน (2) ดูว่าเรียบลื่นหรือไม่ และจะต้องไม่แห้งหรือสาก
๖. การตรวจชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงและถาดป้อนลูกระเบิดยิง (Feed slide assembly and feeder)
๖.๑ เลื่อนคานส่ายชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงตัวที่สอง (1)
เลื่อนกลับไปกลับมา เพื่อดูว่าชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงสามารถเคลื่อนตัวได้คล่องตัวหรือไม่ (เลื่อนชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงไปทางด้านซ้ายก่อนที่จะปิด
ฝาครอบห้องลูกเลื่อน)
๖.๒ กดขอเลื่อนลูกระเบิดยิง (Pawls) (2) เพื่อตรวจสอบ
การทำงานของแหนบ
๖.๓ ตรวจดูความเรียบ (ไม่ขรุขระ) และความสกปรกของ
ร่องนำข้อต่อสายลูกระเบิดยิง (Link guide) (3)
คำเตือน
ก่อนที่จะปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อนจะต้องดูให้แน่ใจเสมอว่า คานส่ายชุดเลื่อนลูกระเบิดยิง ตัวที่สอง ได้เกี่ยวกับแกนในชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงแล้ว และ ชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงจะต้องอยู่ทางซ้ายมือ ลูกเลื่อนจะต้องอยู่ข้างหน้า
๗. การตรวจคราบเขม่าจับหน้ารังเพลิง
๗.๑ ปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อน ปฏิบัติตามคำเตือนที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
๗.๒ ดึงคันรั้งให้ลูกเลื่อนมาข้างหลัง และเลื่อนคันบังคับการยิงไปที่ห้ามไก S
๗.๓ เปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อน
๗.๔ ตรวจดูรังเพลิงเพื่อหาคราบเขม่าดินปืนดูให้ดีว่ามีคราบเขม่าหรือไม่ ให้ทำความสะอาดลำกล้องและ หน้ารังเพลิงด้วยแส้ทำความสะอาดลำกล้องและน้ำยาล้างคราบเขม่า RBC ( RIFLE BORE CLEANER )
๗.๕ ปล่อยลูกเลื่อนให้เลื่อนไปข้างหน้าช้า ๆ โดยกระทำดังนี้.-
เลื่อนคันบังคับการยิงไปในตำแหน่งที่ยิง F
จับคันรั้งลูกเลื่อนไว้ข้างหนึ่งขณะทำการกดไก
บังคับให้ลูกเลื่อนกลับเข้าที่ช้า ๆ
เลื่อนคันบังคับการยิงไปในตำแหน่งห้ามไก S
หมายเหตุ ก่อนทำการยิงให้เช็ดน้ำมันที่หล่อลื่นไว้มากเกินความจำเป็นออกจากลำกล้องปืนโดย ใช้ผ้าสะอาดใส่ไปในแส้แล้วทำความสะอาดลำกล้องปืน
๘. การป้อนลูกระเบิดยิง (FEEDING)
๘.๑ การตั้งคอรางเลื่อนสายลูกระเบิดยิง (Feed Theoat) เข้ากับ
ถาดป้อนลูกระเบิดยิง (Feeder)
- กดแหนบกลอนยึด (Spring-Loaded Pin) บนตัวคอราง
เลื่อนสายลูกระเบิดยิง (Feed Throat) (1)
- จัดให้กลอนยึด (2) ตรงกันกับช่องยึดด้านนอกของแท่น
ป้อนลูกระเบิดยิง
คำเตือน
ก่อนที่จะป้อนลูกระเบิดยิงจะต้องไม่มีลูกระเบิดยิงอยู่ในปืนและปืนจะต้องอยู่ในตำแหน่งห้ามไกก่อน ให้ใช้ลูกระเบิดยิงที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เท่านั้น และแน่ใจว่าลูกระเบิดยิงจะต้องแห้ง ไม่มีรอยสับของเข็มแทงชนวนและต้องยึดติดอยู่กับข้อต่อสายลูกระเบิดยิงอย่างแน่นหนา
๘.๒ กล่องบรรจุ ลย. (Ammo can) และที่ใส่กล่องบรรจุ ลย. (Brackets)
- ถ้าตั้งปืนบนขาหยั่งที่พื้นดิน การป้อนลูกระเบิดยิงจากกล่องบรรจุ ลย. สามารถทำได้โดยตรง
- ถ้าตั้งปืนบนยานยนต์ ให้ติดตั้งที่ใส่กล่องบรรจุลูกระเบิดยิง (Brackets) และกล่องบรรจุลูกระเบิดยิง (Ammo can) ตามคู่มือการตั้งยิงบนยานยนต์ MK64 ๘.๓ ข้อควรระวังขณะกำลังป้อนลูกระเบิดยิง
- สอดลูกระเบิดยิงนัดแรกเข้าไปในคอรางเลื่อนสายลูกระเบิดยิง (Feed throat) (2) ขณะที่ฝาครอบห้องลูกเลื่อนเปิด
- ใส่ลูกระเบิดยิงนัดแรกเข้าในแท่นป้อนลูกระเบิดยิง โดยสอดข้อต่อสายลูกระเบิดตัวเมีย (3) ก่อน
ดันเลื่อนลูกระเบิดยิงให้เลยพ้นขอเลื่อนลูกระเบิดตัวที่หนึ่ง ห้ามป้อนลูกระเบิดยิงสวนกลับทาง
- ดูให้แน่ใจว่าลูกระเบิดยิงอยู่ในแนวตรงและจัดให้อยู่ในระหว่างขอเลื่อนลูกระเบิดยิงตัวที่หนึ่งและตัวที่สองพอดี
- เลื่อนชุดเลื่อนลูกระเบิดยิงไปทางซ้าย จากนั้นให้ปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อนลง
หมายเหตุ ขณะป้อนลูกระเบิดยิง ลูกเลื่อนจะต้องอยู่ข้างหน้า ปลดห้ามไก S และปล่อยคันรั้งไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ อย่าปล่อยให้ฝาครอบห้องลูกเลื่อนกระแทกปิดด้วยตัวมันเองอย่างแรง ในขณะที่ทำการเปิดไว้
๙. การดึงคันรั้งและการบรรจุ (CHARGING/LOADING) หันปากลำกล้องปืนไปในทิศทางสนามยิงปืน ปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อนก่อนที่จะทำการดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข้างหลัง
๙.๑ ดึงลูกเลื่อนมาทางข้างหลัง
- จับด้ามคันรั้งลูกเลื่อน (1) โดยคว่ำฝ่ามือลงดังแสดงตามรูป กดกลอนยึดบนด้ามคันรั้งทั้งสองตัว(Handle locks) (2) หมุนด้ามคันรั้งลูกเลื่อนลง ดึงคันรั้งลูกเลื่อนให้มาข้างหลังอย่างแรง ดันด้ามคันรั้งกลับเข้าที่ไป ข้างหน้าให้สุดอีกครั้งหนึ่งแล้วหมุนด้ามคันรั้งทั้งสองให้ตั้งขึ้น เพื่อให้อยู่ในตำแหน่งขัดกลอน
๙.๒ บรรจุลูกระเบิดยิงนัดแรก
เลื่อนคันบังคับการยิงไปที่ตำแหน่งยิง F
กดไก ลูกเลื่อนผลักตัวไปข้างหน้า และลูกระเบิดยิงนัดแรกจะอยู่ที่หน้าลูกเลื่อน
- ดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข้างหลังอย่างแรง จะเป็นการดึงลูกเลื่อนพร้อมกับการบรรจุลูกระเบิดยิง
ให้อยู่ในตำแหน่งพร้อมยิง
ดันด้ามคันรั้งลูกเลื่อนไปทางข้างหน้า และจัดด้ามคันรั้งลูกเลื่อนอยู่ในตำแหน่งตั้งขึ้น
หมายเหตุ เพื่อให้ปืนพร้อมทำการยิงได้ จะต้องให้ด้ามคันรั้งลูกเลื่อนอยู่ข้างหน้าสุด และตั้งขึ้น
เลื่อนคันบังคับการยิงไว้ที่ตำแหน่งห้ามไก S จนกว่าจะสั่งให้ทำการยิง
๑๐. การปรับศูนย์หลัง
๑๐.๑ กดแหนบยึดโครงศูนย์หลัง (Plunger) (1) เพื่อให้แผ่นโครงศูนย์หลังตั้งขึ้น (Sight frame)(2) จนขัดกลอนเสียงดัง “คลิ๊ก”
๑๐.๒ คลายน็อตยึด (3) แล้วดันน็อตยึดเพื่อเลื่อนกรอบช่องเล็งหลัง (Aperture carrier)(4) ให้ขึ้นหรือลงเป็นการตั้งมุมสูงตามระยะยิง
๑๐.๓ หมุนปุ่มมุมสูง (5) เพื่อตั้งมุมสูงเป็นองศา
๑๐.๔ หมุนปรับทางทิศ (Windage screw)(6) เพื่อปรับ แก้ทางทิศโดยหมุน ๒ คลิ๊กเท่ากับ ๑ มิลเลียม หมุนตามเข็มนาฬิกา ศูนย์หลังจะเลื่อนไปทางซ้าย
๑๐.๕ ศูนย์รบ (Battle sight)(7) ใช้เล็งควบกับศูนย์หน้า เมื่อใช้ศูนย์รบ ให้พับศูนย์หลังลง
๑๑. กล้องเล็งเวลากลางคืน (NIGHT VISION AN/TVS – 5) รายละเอียดการใช้กล้องเล็งเวลากลางคืนดูตาม คู่มือสำหรับผู้ใช้ TM ll – 5855 – 214 – 10
๑๒. การยิงโดยใช้ชุดเรือนควงมุมส่ายและควงมุมสูง (T & E Mechanism)
คำเตือน
ให้ปืนชี้ไปในสนามยิงปืนเสมอ และแน่ใจว่าแนวยิงไม่มีสิ่งใดกีดขวางอยู่
ข้อควรจำ ก่อนปรับศูนย์ปืนจะต้องติดตั้งชุดเรือนควงมุมส่ายและควงมุมสูงเข้ากับขาหยั่งก่อน ดังแสดงใน คู่มือ TM 08521 – A – 23 P/TM 9 – 1010–231–10 & P
พลยิงจะต้องทำการปรับศูนย์ปืนใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนชนิดของลูกระเบิดยิง เช่น จาก ลย. M 430 เป็น M 385 เป็นต้น
๑๒.๑ กะระยะยิงโดยประมาณ อาศัยเทคนิคการกะระยะที่ได้ฝึกมา
๑๒.๒ ปลดห้ามไก
๑๒.๓ ดันคันรั้งลูกเลื่อนไปข้างหน้า และจัดให้ด้ามคันรั้งตั้งขึ้น
๑๒.๔ มือทั้งสองจับด้ามท้ายปืนใช้หัวแม่มือกดที่ไก
๑๒.๕ กดไกทำการยิงลูกระเบิดไป ๓ ถึง ๕ ลูก
๑๒.๖ ทำการกะระยะด้วยสายตา โดยอาศัยเทคนิคกะระยะที่ได้เคยฝึกมาแล้ว
๑๒.๗ปรับจุดตำบลกระสุนตกโดยการปรับปุ่มทางทิศ และปุ่มทางระยะ จนกระทั่งลูกระเบิดยิง ถูกเป้าหมายภายในรัศมี ๕ เมตร
๑๓. การยิงกราดคลายปืน (FREE GUN)
ก่อนทำการยิงกราดคลายปืน (FREE GUN) จะต้องติดตั้งอุปกรณ์บนเปลปืนสำหรับรองรับการกดของปืนไว้ รายละเอียดตามคู่มือ TM 0868 A – 13 & P/l
การยิง ลย.ในลูกแรกควบคุมได้ยาก เพราะปืนจะถอยมาข้างหลัง พลยิงจะต้องรับแรงถอยนี้มาก จึงยากในการที่จะรักษาจุดเล็งให้ได้ระยะและทิศทางเดิม
ห้ามยิงลูกระเบิดยิงชนิดหัวระเบิดแรงสูง (HE) ไปยังเป้าหมายในระยะต่ำกว่า ๒๐๐ เมตร ในขณะทำการฝึกยิง หรือทำการยิงในระยะ ๗๕ เมตร ในขณะทำการรบ เพราะสะเก็ดระเบิดสามารถกระจายมาถึงพลยิงในระยะต่ำกว่า ๒๐๐ เมตร ได้ เลือกเป้าหมายที่อยู่ในระยะประมาณ ๔๐๐ เมตร ( ในการฝึกยิงไม่ควรยิงในระยะต่ำกว่า ๒๐๐ เมตร)
การจัดทำท่ายิงสำหรับการยิงกราดคลายปืน ( ไม่ใช้ชุดเรือนควงมุมสูงและควงมุมส่าย ) มีดังนี้.-
- เก็บข้อศอกให้ชิดลำตัว
- ดูคำเตือนข้างบน และแน่ใจว่าได้ติดตั้งอุปกรณ์เปลปืนสำหรับรองรับการกดปืนไว้ไม่ให้เกิดการยิงต่ำกว่าระยะ ๒๐๐ เมตร
๑๔. การปฎิบัติภายหลังการยิง (After firing)
๑๔.๑ ปลดลูกระเบิดยิงหรือปลอกลูกระเบิดยิงออกจากลูกเลื่อน
- เลื่อนคันบังคับการยิงไปในตำแหน่งห้ามไก S
ให้หันปากกระบอกปืนไปยังสนามยิงปืน
- ดึงคันรั้งลูกเลื่อนมาข้างหลัง ปล่อยคันรั้งไว้ทาง
คำเตือน
- สอดปลายแส้ทำความสะอาดลำกล้องผ่านร่องรางบนโครงปืนทางด้านขวา สอดเข้าไปให้ถึง หน้าลูกเลื่อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- กดลงบนตัวลูกระเบิดยิงหรือ ปลอกลูกระเบิดยิง ดันให้หลุดจากหน้าลูกเลื่อนออกไปทางด้านล่างของปืนและรับลูกระเบิดยิงไว้อย่าให้ตกลงพื้น
- นำลูกระเบิดที่ยังไม่ได้ยิง ส่งคืนตามระเบียบที่ได้กำหนดไว้
๑๔.๒ ถอดลูกระเบิดยิงที่ยังติดกันอยู่ในข้อต่อสายลูกระเบิดยิง ออกจากถาดป้อนลูกระเบิดยิง
- เปิดฝาครอบห้องลูกเลื่อนดูว่าข้อต่อสายลูกระเบิดยิง
- ใช้มือข้างหนึ่งสอดเข้าใต้ถาดป้อนลูกระเบิดยิง แล้วกดขอยึดลูกระเบิดยิงที่อยู่ระหว่าง ตัวที่หนึ่ง และตัวที่สอง
(Primary and secondary positioning pawls)
- พร้อมกันนั้นให้เลื่อนลูกระเบิดยิงที่ติดอยู่กับข้อต่อสายลูกระเบิดยิงออกจากถาดป้อนลูกระเบิดยิงแล้วเอาสายลูกระเบิดยิงออกจากคอรางเลื่อนสายลูกระเบิดยิง ( Feed throat )
- นำลูกระเบิดยิงทั้งสายกลับเข้าไปไว้ในกล่องบรรจุลูกระเบิดยิง
๑๕. การทำความสะอาดลำกล้องปืน และรังเพลิง
จงจำไว้ว่ารังเพลิงจะเป็นส่วนที่สกปรกที่สุด ดังนั้นเวลาทำความสะอาด จะต้องใช้แส้แยงลงไปให้ถึงหน้ารังเพลิงให้มากที่สุด
๑๕.๑ นำผ้าดอกแส้มาติดเข้ากับแส้แล้วจุ่มดอกแส้ทำความสะอาดลำกล้อง ลงในน้ำมันชำระลำกล้อง
(RBC) ให้ชุ่ม
๑๕.๒ สอดดอกแส้ทำความสะอาดเข้าทางปากลำกล้อง
๑๕.๓ ดันก้านแส้ทำความสะอาดลำกล้องให้สุดไปจนถึงรังเพลิง
๑๕.๔ จุ่มดอกแส้ทำความสะอาดลำกล้องให้ชุ่มอีกครั้งหนึ่งแล้วปฏิบัติซ้ำจนสะอาด
๑๕.๕ เช็ดลำกล้องและรังเพลิงให้แห้ง
๑๕.๖ ไล้น้ำมันชะโลมลำกล้องบาง ๆ (LSAT) จนทั่ว
๑๖. ตรวจเข็มแทงชนวน
เอาลูกระเบิดยิงออกหมดหรือยังปากลำกล้องปืนหันไปทิศทางที่ปลอดภัยหรือไม่
๑๖.๑ เลื่อนคันบังคับการยิงไว้ที่ตำแหน่งยิง F
๑๖.๒ จับฝาครอบห้องลูกเลื่อนให้อยู่ในตำแหน่งเปิดด้วยมือข้างหนึ่ง
๑๖.๓ กดไกเพื่อปลดลูกเลื่อนให้เลื่อนไปข้างหน้า
๑๖.๔ ตรวจเข็มแทงชนวน เข็มจะต้องโผล่ยื่นออกมาด้านหน้าและไม่บิ่นหรือหัก
๑๖.๓ กดไกเพื่อปลดลูกเลื่อนให้เลื่อนไปข้างหน้า
๑๖.๔ ตรวจเข็มแทงชนวน เข็มจะต้องโผล่ยื่นออกมาด้านหน้าและไม่บิ่นหรือหัก
ข้อควรจำ หากเข็มแทงชนวนไม่โผล่ยื่นออกมา ให้เลื่อนคันบังคับการยิงไว้ในตำแหน่งห้ามไก S ( SAFE )และให้ดึงคันรั้งลูกเลื่อนใหม่ จากนั้นจึงปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นอีกครั้งหนึ่ง
๑๗. ถอดคุมในสนาม การตรวจ ทำความสะอาดและหล่อลื่น
๑๗.๑ ให้ทำทันทีหลังจากเลิกยิง พร้อมทำความสะอาดและหล่อลื่นเปลปืนและฐานที่ตั้งปืนด้วย
๑๗.๒ รายงานการสึกหรอ ชิ้นส่วนที่ชำรุดให้ช่างซ่อมสรรพาวุธทราบ
ข้อควรจำ ก่อนนำปืนเข้าเก็บคลังทุกครั้งจะต้องตรวจให้แน่ใจว่า เข็มแทงชนวนจะต้องโผล่ยื่นไปข้างหน้าเสมอ เพื่อไม่ให้แหนบเข็มแทงชนวนอัดตัวไว้ตลอดเวลา
การถอดคุมในสนาม การทำความสะอาดและการหล่อลื่นจะต้องกระทำบ่อยๆ เมื่อสภาพอากาศที่ไม่ปกติ หากจำเป็นต้องทำการถอดคุมพิเศษ จะต้องกระทำโดยได้รับการกำกับดูแลจากช่างซ่อมสรรพาวุธ
๑. อากาศร้อนชื้น ไอน้ำเค็ม และละอองน้ำทะเล ๑.๑ ให้ทำการตรวจปืนบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดสนิม ๑.๒ เก็บรักษาปืนให้ปราศจากความชื้นเท่าที่จะทำได้ ๑.๓ การถอดคุมในสนาม การทำความสะอาด และการหล่อลื่นจะต้องทำการบ่อยขึ้น เพื่อรักษาเนื้อโลหะ
๑.๔ ใช้สารหล่อลื่นเคลือบอีกครั้งหนึ่ง เพื่อป้องกันเป็นพิเศษ
๒. อากาศร้อนแห้ง ทราย และ ฝุ่น
๒.๑ ความร้อนที่สูงมากจะทำให้สารหล่อลื่นแห้งเร็วกว่าปกติ ให้ทำความสะอาดและหล่อลื่นบ่อยครั้งขึ้น
๒.๒ให้ทำการหล่อลื่นด้วยสารหล่อลื่นเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติตามจุดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้.- (ดูจากภาพประกอบ)
จุดหล่อลื่นเมื่อสภาพอากาศร้อนแห้งมีทรายและมีฝุ่น
- ระหว่างแท่นกั้นลูกระเบิดยิง (Round positioning block) (1) กับผนังโครงปืนทางด้านขวา
- ระหว่างชุดแผ่นนำลูกระเบิดยิง (Alignment guide assembly)(2) กับผนังโครงปืนทางด้านหน้า
- ใต้ขอเลื่อนลูกระเบิดยิงตัวแรก (Primary pawl) (3)
- ใต้ร่องกลอนยึดคันรั้งลูกเลื่อน ( Charger Handle locks ) ( 4 ) และระหว่างเรือนคันรั้งลูกเลื่อนกับ
โครงปืน
- ด้านในของถาดป้อนลูกระเบิดยิง ( Feed Tray ) ( 5 ) หลังลูกระเบิดยิงถูกป้อนบรรจุ แล้วให้ หล่อลื่น ถาดป้อนลูกระเบิดยิง ให้มากกว่าปกติ ก่อนที่จะทำการยิง
- ภายในชุดกระเดื่องไก (Sear assembly) (6) ใต้กระเดื่องไก (Sear) และภายในตัวเรือนเครื่องลั่นไก
๓. อากาศหนาวเย็นเป็นน้ำแข็ง และ มีหิมะ
๓.๑ ให้คลุมปืนไว้เมื่ออยู่ภายนอกอาคารสถานที่
๓.๒ หากเก็บปืนไว้ในอาคาร อย่าให้ถูกกับความร้อนโดยตรง
๓.๓ หากโลหะเกิดมีละอองน้ำเกาะเช็ดให้แห้งแล้วทำการหล่อลื่นก่อนจะนำปืนออกนอกอาคาร และ ทำการหล่อลื่นครั้งที่สองบางๆ หากอุณหภูมิต่ำกว่า ศูนย์องศาเซลเซียส ควรใช้สารหล่อลื่น LAW
หมายเหตุ ก่อนทำการหล่อลื่นด้วยน้ำมันหล่อลื่น สำหรับใช้ในสภาพอากาศหนาวเย็น จงแน่ใจว่าได้เช็ด สาร LSAT ออกแล้ว เพราะสารทั้งสองชนิดนี้จะผสมเข้ากันไม่ได้
LAW = Lubricant Automatic Weapons Artic ( สารหล่อลื่นอาวุธกลในเขตหนาว )
LSAT = Lubricant Oil ( สารหล่อลื่น )
RBC = Rifle Bore Cleaner ( น้ำมันชำระลำกล้อง )
(PREVENTIVE MAINTENANCE – PM)
๑. การปรนนิบัติบำรุง
๑.๑ จงแน่ใจว่าปืนกลยิงลูกระเบิด ๔๐ มม. MK19 MOD3 อยู่ในสภาพพร้อมที่จะทำการยิงเสมอ
๑.๒ ตรวจดูว่าส่วนประกอบใด ๆ ในระบบที่ผิดปกติ เมื่อตรวจพบให้รีบทำการแก้ไขทันที ก่อนที่ จะเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหาย และปืนไม่สามารถทำการยิงได้
๑.๓ ตารางการปรนนิบัติบำรุงข้างล่างนี้ จะแสดงให้เห็นว่าจะต้องตรวจสอบอะไรและห้วงระยะเวลาใด
๑.๔ บันทึกความผิดปกติที่ตรวจพบระหว่างใช้งานไว้ด้วยเสมอ ให้หยุดยิงทันทีหากเกิดอาการผิดปกติ
๑.๕ รายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ช่างซ่อมสรรพาวุธ