เมื่อแรกตั้งสวนโมกขพลารามที่พุมเรียง พุทธทาสภิกขุมีอายุได้ ๒๖ ปี เป็นพระหนุ่มไฟแรง ทำในสิ่งที่แปลกแตกต่างจากความนิยมในสมัยนั้น ถึงขั้นที่ชุมชนรอบสวนโมกข์ซึ่งเป็นเพื่อนต่างศาสนิกต่างโจษจันกันไปว่าท่านเป็นพระบ้าด้วยซ้ำ พุทธทาสภิกขุร่วมกับน้องชายธรรมทาส พานิช ออกหนังสือพิมพ์พุทธสาสนาเพื่อเป็นกระบอกเสียงถึงกิจการของสวนโมกข์และคณะธรรมทาน จากหนังสือพิมพ์พุทธสาสนานี้เองที่ทำให้กิจการของสวนโมกข์และคณะธรรมทานเป็นที่รู้จักของสังคม รวมถึงในแวดวงชนชั้นนำสมัยนั้นก็ให้ความสนใจถึงกับเดินทางมาเยี่ยมเยือน อาทิ พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ สหายธรรมทานหมายเลขหนึ่ง, พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ซึ่งเป็นผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นอีกผู้หนึ่งที่ไปเยี่ยมสวนโมกข์ พุทธทาสภิกขุกล่าวถึงคุณพระในหนังสือ เล่าไว้เมื่อวัยสนธยาว่า
“นึกไม่ออกว่าเริ่มรู้จักกันอย่างไร คงผ่านทางหนังสือพิมพ์พุทธสาสนามากกว่า รู้เรื่องสวนโมกข์จากทางนั้น แล้วก็อยากให้มีสวนโมกข์ที่อื่นบ้าง ก็มาขอให้เราช่วยกันคิดช่วยกันนึก พระดุลย์อยากทำที่นครศรีธรรมราช ตอนนั้นรับราชการอยู่ที่นั่น มีเพื่อนหลายคนที่เห็นด้วย พูดกันรู้เรื่อง ก็เป็นหัวหน้ามาติดต่อกับผม จนได้มหาจุลไป แล้วก็ต้องเหลวในที่สุดดังที่เคยเล่าแล้ว แต่พระดุลย์เองยังติดต่อกับสวนโมกข์เรื่อยมา ท่านศึกษาธรรมะจากสมเด็จวัดเทพฯ เป็นส่วนใหญ่ และเคารพ นับถือกันอย่างนอกไปกว่าทางศาสนาเป็นเรื่องส่วนบุคคล ว่ากล่าวตักเตือนได้อย่างลูกหลาน บวชกับท่านด้วย เป็นคนเอาจริงในเรื่องการปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง เอาจริงด้วยศรัทธาก็มากปฏิบัติกรรมฐานด้วย ช่วยเหลือสวนโมกข์ด้วยความหวังดี ด้วยกำลังใจชี้แจงให้คนอื่นรู้จัก การเงินการทองก็ช่วยบ้างตามแบบคนที่ไม่ร่ำรวยอะไร”.
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) วัดเทพศิรินทราวาส พระมหาเถระผู้ใหญ่ปฏิบัติหน้าที่บัญชาการคณะสงฆ์แทนสมเด็จพระสังฆราช ได้แวะเยี่ยมสวนโมกข์เมื่อคราวไปตรวจราชการคณะสงฆ์เมื่อปี ๒๔๘๐ ซึ่งให้กำลังใจแก่งานของสวนโมกข์และคณะธรรมทานเป็นอย่างมาก ทั้งสามท่านได้มีจดหมายติดต่อ ปรึกษา สนทนากันอย่างต่อเนื่อง เนื้อหาจดหมายติดต่อของทั้งสามท่านมีทั้งไต่ถามทุกข์สุข การขบคิดข้อธรรม หรืออธิบายธรรม แสดงถึงสายสัมพันธ์ที่เป็นกัลยาณมิตรต่อกันอย่างยาวนาน นอกจากนี้พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ยังได้ชักนำให้บุตรี คือคุณทิพววรณ ปัทมสถาน และท่านจ้อย (พระครูใบฎีกามณเฑียร มัณฑิโร) ที่เป็นเสมือนหลานแม้มิได้สืบสายเลือดโดยตรง ได้เข้าไปรับใช้ใกล้ชิดกับพุทธทาสภิกขุ จนอุปสมบทที่สวนโมกขพลารามมีพุทธทาสภิกขุเป็นอุปัชฌาย์.
ในวาระครบ ๑๓๑ ปีชาตกาลของพระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ และ ๑๑๙ ปี ชาตกาลพุทธทาสภิกขุ มูลนิธิพระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ฉลวย–ทิพวรรณ ปัทมสถาน และหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ได้ร่วมกันนำเอกสารจดหมายเหตุที่เกี่ยวข้องกับทั้งสองท่าน จัดแสดงเพื่อรำลึกถึง อุบาสกหมายเลข ๒ ในวงกิจการณ์ของสวนโมกข์ พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ ซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นนำผู้มีความสนใจในธรรม เป็นอุบาสก ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทางโลกและสามารถที่ผสานเอาหลักธรรมมาใช้กับชีวิตได้อย่างแยบคาย.
🖼️ : นิทรรศการ "พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์"
📍 : ๒๑ พฤษภาคม – ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘
🏢 : ณ สโมสรธรรมทาน หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์กรุงเทพ)
🕰️ : เปิด พุธ - อาทิตย์ เวลา ๙.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. (ปิด จันทร์ – อังคาร)
#ล้ออายุ #พุทธทาสภิกขุ #พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ #นิทรรศการ #จดหมายเหตุ
ภาพถ่ายพุทธทาสภิกขุ และ พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์
ราว พ.ศ. ๒๕๑๘ ถ่ายที่สวนโมกขพลาราราม
จาก
https://www.facebook.com/share/p/1LMkjRN4V4/
.
#เล่าไว้เมื่อวัยสนธยา
อัตชีวประวัติของพุทธทาสภิกขุ
สัมภาษณ์โดย พระประชา ปสนฺนธมฺโม
บรรณาธิการ อรศรี งามวิทยาพงศ์
จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง
ฟัง
https://u.pcloud.link/publink/show?code=kZT5ib5ZItULfLdRJzzLIjLeHr4jN4Bd31i7
อ่าน
https://u.pcloud.link/publink/show?code=XZJLib5ZKAjxXQdUMe0GCop7ljlzcYGNdbxk