ธรรมโฆษณ์โดยท่านพุทธทาส เรื่อง
แสดงธรรมเทศนาในช่วงเข้าพรรษา 2517
"บทต่อไปก็มีว่า โลกุตฺตโม ตํ ปนมามิ พุทฺธํ, โลกุตฺตโม - เป็นบุคคลสูงสุดในโลก พระองค์ได้เป็นอย่างนั้น ข้าพเจ้าขอน้อมนมัสการซึ่งพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ความหมายข้อนี้ก็มีอยู่ว่า พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลผู้สูงสุดในโลก ไม่ว่าจะมองกันในลักษณะไหน, ก็เป็นอันว่าหมดปัญหาไปก็คือไม่มีใครดีกว่าพระพุทธเจ้า หรือสูงไปกว่าพระพุทธเจ้า ประเสริฐไปกว่าพระพุทธเจ้า, ฉะนั้นจึงควรที่จะนอบน้อมและถือเอาเป็นสรณะ,
การไหว้เฉย ๆ ไหว้แล้วไหว้อีกอย่างละเมอ ๆนั้น ไม่ได้นับรวมอยู่ในข้อนี้, ปนมามิ นี้มันเป็นการนอบน้อมด้วยความรู้สึก, เมื่อนอบน้อมด้วยความรู้สึก, มันก็มีการปฏิบัติตาม มีความเคารพ มีความเอื้อเฟื้ออย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าทำอย่างนกแก้วนกขุนทอง เหมือนสวดร้องอย่างนกแก้วนกขุนทอง หรือว่าดูจะก้ม ๆ กราบ ๆ มันก็ทำไปพอสักว่าเป็นพิธี ทำอย่างนี้ ทำจนตายก็ไม่เป็นการนอบน้อมต่อพระพุทธเจ้าเลย.
ขอให้พิจารณาดูให้ดี ว่าความหมายสำคัญนั้นมันอยู่ที่ตรงไหน? การนอบน้อมมีความหมายสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ทำตาม คือเชื่อฟัง. เดี๋ยวนี้ บางคนแม้ที่เป็นพระเป็นเณร วันหนึ่งก็ไม่เคยนึกถึงพระพุทธเจ้า, มีการกระทำอะไรหลาย ๆ อย่าง อย่างลวก ๆ อย่างสะเพร่า อยู่เสมอ, แล้วก็ดีแต่คุยกัน ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า “นอนเสียดีกว่า ทั้งที่การนอนก็เป็นการเลวที่สุดอยู่แล้ว” ถ้าคุยกันด้วยเรื่องที่ไม่ประกอบไปด้วยธรรมแล้ว ยังไปนอนเสียดีกว่า เพราะว่าคนที่ คุยกันด้วยเรื่องที่ไม่ประกอบไปด้วยธรรมนั้น เป็นคนที่ไม่เคารพพระพุทธเจ้า, แม้จะบวชเข้ามาในพระศาสนานี้แล้ว มันก็เป็นแต่เล่นละคร.
ฉะนั้นจึงข้อร้องว่า ภิกษุหนุ่มและสามเณรผู้เพิ่งเข้ามาสู่ศาสนานี้จงได้ระมัดระวังให้มาก, อย่าเอาแต่ความสะดวก เคยชิน ในการเล่นหัวแล้วก็ไม่ยอมละ, บวชแล้วก็ยังเล่นหัว เหมือนกับเมื่อไม่ได้บวช อย่างนี้ไม่ใช่คนที่นับถือพระพุทธเจ้า. จะต้องระวังให้ดีจนถึงกับว่าถ้าพระพุทธเจ้าเผอิญท่านได้เสด็จมาเห็นเข้าจริง ๆ แล้ว ก็อย่าได้มีการตำหนิเลย. อย่าให้พระพุทธเจ้าท่านมีช่องมีโอกาสที่จะกล่าวตำหนิ อะไรออกมาเลย. ขอให้ทุกคนที่เป็นพุทธบริษัทนั้น จะทำอะไรสักหน่อย ก็ต้องนึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน; เหมือนว่าเราจะทำอะไร ก็ตั้งนโมก่อน แล้วจึงทำสิ่งที่จะต้องทำต่อไป
ตั้ง นโม ก่อนนี้แหละ คือการนึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน แล้วจึงจะทำอะไรลงไป. ถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมา ก็นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน, จะตีแมว จะด่าสุนัข อย่างนี้ ถ้านึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน มันก็ตีไม่ได้ หรือด่าไม่ได้
อย่าว่าแต่จะตีคนด้วยกันเลย หรือด่าคนด้วยกันเลย, ถึงภิกษุสามเณรก็เหมือนกัน ที่จะพูดจาเล่นหัวออกกิริยาท่าทางอย่างคนไม่สำรวมนั้นมันทำไม่ได้, ถ้าทำอะไรนึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนอยู่เสมอ."
จากหนังสือ พัสสิกไตรเทศนา หน้า 9-10
อ่าน https://drive.google.com/drive/folders/1lSxfWRO0IU0ASUNYflMwPFAOEe9ZJIMT?usp=sharing
ขอท่านเซฟเก็บไว้ใช้และเชิญรับฟังได้แล้วครับ