เมื่อประมาณปีพ.ศ 2508 ท่านพุทธทาสได้บัญญัติคำศัพท์ภาษาธรรมขึ้นมาใหม่คำหนึ่ง คือคำว่า "จิตว่าง" ด้วยเหตุแห่งคำว่า "จิตว่าง" นี่เองกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมยุคนั้น และเป็นที่มาของวิวาทะ ทางปัญญาเรื่องจิตว่าง ระหว่าง "ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช" กับ "ท่านพุทธทาส" เพราะคำว่า "จิตว่าง" นี้ ในความหมายของท่านพุทธทาสถือว่ามีความหมายลึกซึ้งกว่าที่คนทั่วไปจะเข้าใจกัน คนทั่วไปจึงมักจะไม่เข้าใจความหมายของคำว่า "จิตว่าง" ใน ภาษาธรรมของท่านพุทธทาส
.
และคำว่า "จิตว่าง" นี้เองเป็นสิ่งยืนยันว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ทรงติดตามศึกษาธรรมะของท่านพุทธทาสมาตลอด ผู้ที่เปิดเผยเรื่องนี้ก็คือ ท่านประธานองคมนตรี นายสัญญา ธรรมศักดิ์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดกับท่านพุทธทาส ทั้งยังเป็นข้าราชบริพารที่ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทมากที่สุดคนหนึ่ง
.
ท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้เคยเล่าไว้ในปาฐกถาธรรมเรื่อง "ชีวิตกับการงาน" ว่า ในหลวง(รัชกาลที่ 9) ทรงมีพระราชกระแส รับสั่งเรื่อง "จิตว่าง" กับท่านหลายครั้งหลายหน เมื่อครั้งมีพระราชกรณียกิจที่ยุ่งยากพระทัย พระองค์ท่านจะตรัสว่า "กลุ้มใจเหลือเกิน คิดอะไรไม่ออก" แต่เมื่อถึงเวลาที่พร้อมจะทรงงาน พระองค์จะตรัสว่า "ตอนนี้จิตว่างเสียที"
.
ท่านสัญญา ธรรมศักดิ์ เล่าต่อไปว่า คำว่า "จิตว่าง" ที่ในหลวง (รัชกาลที่ 9) ตรัสนี้ เป็นศัพท์ใหม่ที่ท่านพุทธทาสบัญญัติขึ้นตามที่ได้กล่าวมาแล้ว และมีนัยตรงกับความหมายของคำว่า "จิตว่าง" ในภาษาธรรมของท่านพุทธทาสทุกประการ
.
จากหนังสือ มหาบพิตร ในหลวงทรงถาม พระอรหันต์ตอบ( ฉบับปรับปรุง )
โดย วีระวัฒน์ ชลสวัสดิ์
จาก https://www.tnews.co.th/variety/317313
.
จงทำงานทุกชนิดด้วยจิตว่าง
ยกผลงานให้ความว่างทุกอย่างสิ้น
กินอาหารของความว่างอย่างพระกิน
ตายเสร็จสิ้นอยู่ในตัวแต่หัวที
พุทธทาสภิกขุ
.