ธรรมบรรยายโดยท่านพุทธทาส เรื่อง
"คำกล่าวอนุโมทนาตอนหนึ่ง ในหนังสือ ธรรมโฆษณ์อรรถานุกรรม เล่ม ๑
ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสได้เขียนไว้ด้วยลายมือของท่านอาจารย์เองว่า
น หิ สพฺเพสุ ฐาเนสุ ปุริโส โหติ ปณฺฑิโต
อิตฺถีปิ ปณฺฑิตา โหติ ตตฺถ ตตถฺ วิจฺกขณา
ซึ่งแปลว่า "ใช่ว่า บุรุษ จะเป็นบัณฑิต ไปเสียในที่ทุกแห่ง ก็หาไม่,
แม้สตรี เมื่อใช้วิจักขณญาณ อยู่ในที่นั้นๆ ก็เป็นบัณฑิตได้" ดังนี้."
ความดำริให้มีธรรมาศรมธรรมมาตานี้ มีอยู่ในช่วงปลายชีวิตของท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ ด้วยความเมตตากรุณาอันสูงสุดต่อเพศหญิงว่า เป็นเพศมารดาของโลก เป็นผู้สามารถสร้างโลกให้อยู่เย็นและเป็นสุข ท่านได้เขียนแนวทางในการจัดดำเนินการให้มี ธรรมาศรมธรรมมาตาขึ้น เพื่อเป็นอาศรมแห่งผู้เป็นธรรมมาตา คือมีธรรมเป็นแม่ หมายถึงมีธรรมะเป็นที่พึ่งสูงสุดแห่งตน และมีแม่เป็นธรรม มีความหมายว่าอาศรมแห่งนี้ ได้เพาะบ่มให้มีการศึกษาและการปฏิบัติธรรมอย่างสูงสุด และหากผู้ใดยินดีเสียสละอุทิศชีวิตเพื่อเผยแผ่ธรรมะ แบ่งปันธรรมะแก่เพื่อนมนุษย์ก็จะให้การศึกษาอบรมเพื่อเป็นธรรมทูตหญิงต่อไป
เป้าหมายสำคัญของการดำเนินงานธรรมาศรมธรรมมาตานั้นคือ ต้องดำเนินงานตามเจตนารมณ์ของเจ้าประคุณท่านอาจารย์พุทธทาสที่เขียนไว้ในบันทึกว่า "เพื่อให้เพศแม่ได้มีโอกาสศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรมได้เต็มที่ แล้วเผยแผ่และสืบอายุพระพุทธศาสนาได้สูงสุด ในลักษณะของธรรมฑูตหญิง เป็นการเสริมแทนภิกษุณีบริษัทที่ยังขาดอยู่"
คุณเมตตา พานิช ประธานธรรมทานมูลนิธิ กล่าวตอนหนึ่งว่า ในช่วงสุดท้าย ก่อนที่ท่านอาจารย์พุทธทาสจะล่วงลับไม่นานนัก ท่านได้ปรารภถึงการจัดตั้งธรรมาศรมธรรมมาตา เพื่อให้โอกาสผู้หญิงได้เข้ามาศึกษาและปฏิบัติธรรมจนถึงที่สุด จนสามารถทำหน้าที่ธรรมทูตหญิงเพื่อเผยแผ่และสือทอดพระพุทธศาสนา อันเป็นการเสริมแทนภิษุณีบริษัทที่ยังขาดอยู่ หลังจากท่านอาจารย์พุทธทาส มรณภาพในปี ๒๕๓๖ ไม่นานนัก โครงการฝึกอบรมตนเพื่อความมีชีวิตพรหมจรรย์ฯ ได้เปิดเป็นรุ่นแรก ในปี ๒๕๔๒...
อ่าน https://drive.google.com/drive/folders/1lSxfWRO0IU0ASUNYflMwPFAOEe9ZJIMT?usp=sharing
ขอท่านเซฟเก็บไว้ใช้และเชิญรับฟังได้แล้วครับ