วัดคุ้งตะเภา รับโล่รางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๕๙ (อันดับที่ ๑ ระดับประเทศ) จากสมเด็จพระสังฆราช

วันที่โพสต์: Jun 10, 2017 7:24:38 AM

โดยในปี ๒๕๕๙ วัดคุ้งตะเภาได้รับการคัดเลือกผ่านให้ได้รับรางวัล "วัดพัฒนาตัวอย่าง" ตามเกณฑ์การประเมิน ในลำดับที่ ๑ จากผลคะแนนการพัฒนาวัดในทุกด้าน ตามเกณฑ์การประเมินคุณลักษณะวัดพัฒนาตัวอย่างของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๕๙ มีวัดจากทั้ง ๗๖ จังหวัด ที่ผ่านการพิจารณาให้ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่างเพียง ๑๖ วัด เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดของคณะสงฆ์และคณะศรัทธาบ้านวัดคุ้งตะเภายิ่ง

ที่ประชุมได้พิจารณา คัดเลือกวัดจาก ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศ ที่บริเวณวัดมีความสะอาด ร่มรื่น สวยงาม อาคารเสนาสนะมั่นคงเป็นระเบียบ จัดการปกครองพระภิกษุสามเณรและศิษย์วัดอย่างมีระเบียบ มีการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และเอื้ออำนวยประโยชน์แก่ชุมชน เพื่อเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด

โดยผลการคัดเลือกดังกล่าว เป็นมติจาก คณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์และจัดสรรเงินอุดหนุน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ โดย กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมพิจารณาหลักเกณฑ์และจัดสรรเงินอุดหนุน ประกอบด้วย การบูรณะและปฏิสังขรณ์พระอารามหลวง การบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัด และการคัดเลือกวัดที่จัดอุทยานการศึกษาในวัดพัฒนาตัวอย่างและวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น โดยมีกรรมการมหาเถรสมาคมเป็นประธานการประชุม

วันที่ ๓๑ พฤษภาคม - ๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ หลวงพ่อพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา, รองเจ้าคณะตำบลคุ้งตะเภา และเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดอุตรดิตถ์ แห่งที่ ๓ เข้าเฝ้า รับโล่ประกาศเกียรติคุณ "รางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๕๙" อันดับที่ ๑ ระดับประเทศ เนื่องในงานรับรางวัลพัดและโล่เกียรติยศ วัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๙ จากเจ้าประคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) ณ วัดไร่ขิงพระอารามหลวง จ.นครปฐม

ซึ่งจากการประเมินของคณะกรรมการฯ ได้ประกาศให้ วัดคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๕๙ ในลำดับที่ ๑ จากทั้ง ๑๓ วัด จาก ๗๖ จังหวัด ทั่วประเทศ ที่มีผลการพัฒนาวัดผ่านตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการฯ ส่วนกลางกำหนด (ระดับประเทศ) และเข้ารับประทานโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง เป็นลำดับแรก

- จดหมายข่าววัดคุ้งตะเภา วันที่ ๑ มิ.ย. ๖๐

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ให้ไว้เพื่อแสดงว่า

วัดคุ้งตะเภา ตำบลคุ้งตะเภา

อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

"เป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙"

ขอคณะสงฆ์ พร้อมด้วยพุทธบริษัทผู้มีส่วนร่วมทำนุบำรุงวัด

ได้ดำเนินการพัฒนาวัดนี้ให้เป็นศรีแก่บวรพระพุทธศาสนา

มีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาของประชาชนสืบไป

ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

คลิกเพื่อชมภาพเพิ่มเติม-

คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ- 1-6-60 วัดคุ้งตะเภารับโล่วัดพัฒนาตัวอย่าง

“สมเด็จพระสังฆราช” ประทานพัดพัฒนา โล่ ย่าม และเกียรติบัตร แก่เจ้าอาวาสวัดที่ได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๙

วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2560 ข่าวประชาสัมพันธ์ 276 Views

วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๓.๓๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) เสด็จถึงยังวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทรงเป็นประธานในพิธีประทานพัดพัฒนา โล่ ย่าม และเกียรติบัตร แก่เจ้าอาวาสวัดที่ได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๙ โดยมี พระธรรมโพธิมงคล เจ้าคณะภาค ๑๔ พร้อมด้วย พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พระเทพศาสนาภาบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพระอารามหลวง นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายประสงค์ จักรคำ ผู้ตรวจราชการปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าถวายสักการะ และนายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน กราบอาราธนาเบิกตัวเจ้าอาวาสวัดที่ได้รับคัดเลือกเข้ารับพัดพัฒนา โล่ ย่าม และเกียรติบัตร จำนวนทั้งสิ้น ๖๘ รูป ดังนี้

วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๓.๓๐ น. สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อมฺพรมหาเถร) เสด็จถึงยังวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ทรงเป็นประธานในพิธีประทานพัดพัฒนา โล่ ย่าม และเกียรติบัตร แก่เจ้าอาวาสวัดที่ได้รับคัดเลือกเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น วัดพัฒนาตัวอย่าง และอุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๙ โดยมี พระธรรมโพธิมงคล เจ้าคณะภาค ๑๔ พร้อมด้วย พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม พระเทพศาสนาภาบาล เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงพระอารามหลวง นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายประสงค์ จักรคำ ผู้ตรวจราชการปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้าถวายสักการะ และนายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนสถาน กราบอาราธนาเบิกตัวเจ้าอาวาสวัดที่ได้รับคัดเลือกเข้ารับพัดพัฒนา โล่ ย่าม และเกียรติบัตร จำนวนทั้งสิ้น ๖๘ รูป ดังนี้

เจ้าอาวาสวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๙ จำนวน ๑๘ รูป ดังนี้ ๑.พระครูนิวิฐธรรมขันธ์ ( เจริญ มุนิจารี ) วัดจันเสน จ.นครสวรรค์ ๒.พระครูสุพัฒนกาญจนกิจ ( สุพินสุภทฺโท ) วัดดอนขมิ้น จ.กาญจนบุรี ๓.พระครูสุวิมลสังฆกิจ ( พิรุณ ฐานทตฺโต) วัดดอนกะถิน จ.สุราษฎร์ธานี ๔.พระครูปริยัติภัทรกิจ ( ณัฐพงษ์ ปภาสิริ ) วัดเกาะ จ.อ่างทอง ๕.พระครูวิจิตรธรรมพิทักษ์ ( ชล จนฺทสาโร ) วัดเขาจระเข้ จ.ลพบุรี ๖.พระครูอรรถธรรมาภรณ์ ( ผล อตฺถสารี ) วัดคลองเมือง จ.พิษณุโลก ๗.พระครูศุภกิจจาภิรัต ( สมโชค ตาณรโต ) วัดคลองตาล จ.พิษณุโลก ๘.พระครูถาวรวชิรศาสน์ ( อุบล ถาวโร ) วัดฤกษ์หร่ายสามัคคี จ.กำแพงเพชร ๙.พระครูสัทธาวราภิยุต ( พาสิทธิ์ ฐิติปุญฺโญ ) วัดมงคลวราราม จ.ภูเก็ต ๑๐.พระครูโพธิชยาภินันท์ ( พิชิต อภิชาโต ) วัดโพธิ์ชัยบ้านหวาย จ.กาฬสินธุ์ ๑๑.พระปลัดธนวัฒน์ ( ธนวัฒน์ ปญฺญาวุโธ ) วัดปัญญาวุธาราม จ.เชียงใหม่ ๑๒.พระมหาธีรภัทร์ ( ธีรภัทร์ ปภสฺสโร ) วัดปฐมเกศาราม จ.กาฬสินธุ์ ๑๓.พระครูนิปุณพัฒนวงศ์( สมพงษ์ ทนฺตจิตฺโต ) วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ ๑๔.พระครูอดุลธรรมกิจ ( ธรรมนูญ อารยธมฺโม ) วัดป่าแดง จ.พิษณุโลก ๑๕.พระครูสถิตกิจจาทร ( สมยศ ฐิตปุญฺโญ ) วัดระเบาะ จ.ศรีสะเกษ ๑๖.พระโสภณพุทธิธาดา ( ชาญชัย กิตติโก ) วัดศรีนคราราม จ.อุดรธานี ๑๗.พระครูสุทธิธรรมวงศ์ ( ประโยชน์ สุทฺธิวํโส ) วัดนาลับแลง จ.อุตรดิตถ์ ๑๘.พระครูกันตศีลานุยุต ( บุญช่วย กนฺตาจาโร ) วัดกองลม จ.เชียงใหม่

วัดพัฒนาตัวอย่าง ประจำปี ๒๕๕๙ จำนวน ๑๓ วัด ดังนี้ ๑.วัดคุ้งตะเภา จังหวัดอุตรดิตถ์ ๒.วัดโกมุทพุทธรังสี กรุงเทพมหานคร ๓.วัดสันป่าเลียง จังหวัดเชียงใหม่ ๔.วัดตาลเอน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๕.วัดบางอำพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ๖.วัดโพธิการาม จังหวัดร้อยเอ็ด ๗.วัดพระนางสร้าง จังหวัดภูเก็ต ๘.วัดสุกรีบุญญาราม จังหวัดชลบุรี ๙.วัดวังโป่ง จังหวัดนครราชสีมา ๑๐.วัดพิกุลวราราม จังหวัดพิษณุโลก ๑๑.วัดเทพบุตร จังหวัดชลบุรี ๑๒ วัดอินทาราม จังหวัดสมุทรสงคราม ๑๓.วัดถนนสุวรรณประดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

อุทยานการศึกษาในวัด ประจำปี ๒๕๕๙ จำนวน ๓๗ วัด ดังนี้ ๑.วัดร้องเม็ง จังหวัดเชียงใหม่ ๒.วัดขวางชัยภูมิ จังหวัดอุตรดิตถ์ ๓.วัดหนองมะคัง จังหวัดพิษณุโลก ๔.วัดอินทาราม จังหวัดกาญจนบุรี ๕.วัดช้างค้ำ จังหวัดเชียงใหม่ ๖.วัดบุญภาค จังหวัดแพร่ ๗.วัดบ่อกรุ จังหวัดสุพรรณบุรี ๘.วัดป่านันทบุรีญาณสังวราราม(ธ) จังหวัดน่าน ๙.วัดโกรกพระใต้ จังหวัดนครสวรรค์ ๑๐.วัดป่าสว่างบุญ (ธ) จังหวัดสระบุรี ๑๑.วัดมะขามเรียง จังหวัดสระบุรี ๑๒.วัดสามัคคีดงบ่อ จังหวัดกาฬสินธุ์ ๑๓.วัดพรสวรรค์ จังหวัดสุพรรณบุรี ๑๔.วัดเหล่างิ้ว จังหวัดร้อยเอ็ด ๑๕.วัดบ้านค้อ (ธ) จังหวัดอุดรธานี ๑๖.วัดพร้าว จังหวัดพิจิตร ๑๗.วัดไก่เตี้ย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๑๘.วัดศรีบุญเรือง จังหวัดเลย ๑๙.วัดไผ่รอบ จังหวัดพิจิตร ๒๐.วัดบางน้อย จังหวัดสมุทรสงคราม ๒๑.วัดนาหลวง จังหวัดอุดรธานี ๒๒.วัดคอวัง จังหวัดน่าน ๒๓.วัดเขาสมโภชน์ จังหวัดลพบุรี ๒๔.วัดโพธิ์สำราญ จังหวัดสิงห์บุรี ๒๕.วัดสมศรีบ้านเสี้ยวน้อย จังหวัดชัยภูมิ ๒๖.วัดพันธ์ศรี จังหวัดปราจีนบุรี ๒๗.วัดสุ่งเจริญ จังหวัดฉะเชิงเทรา ๒๘.วัดปากบารา จังหวัดสตูล ๒๙.วัดบ้านโพธิ์ จังหวัดสุรินทร์ ๓๐.วัดไทรย้อย จังหวัดแพร่ ๓๑.วัดไพรีพินาศ จังหวัดชัยภูมิ ๓๒.วัดทองเนียม (ธ) กรุงเทพมหานคร ๓๓.วัดสนวนนอก จังหวัดบุรีรัมย์ ๓๔.วัดปางแก จังหวัดนครราชสีมา ๓๕.วัดหนองบัว จังหวัดสุรินทร์ ๓๖.วัดถ้ำเขาจีนธีรประดิษฐ์ จังหวัดสตูล ๓๗.วัดใหม่ห้วยลึก จังหวัดนครปฐม

จากนั้น สมเด็จพระสังฆราช ทรงประทานพระโอวาทความว่า “การพัฒนาวัด ให้วัฒนาสถาพรทุกด้านนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย การพัฒนาวัดให้เพิ่มพูนข้อดีเด่น และขจัดปัดเป่าข้ออ่อนด้อย ให้น้อยลงที่สุด หรือให้หมดสิ้นไปนั้น ต้องใช้ความพากเพียร เมื่อท่านทั้งหลาย ผู้ได้ชื่อว่าเป็นสมภาร มีหน้าที่รับภารธุระของวัดให้พัฒนาขึ้นย่อมเป็นที่น่าอนุโมทนาสาธุการ ศาสนวัตถุแม้สร้างไม่ง่าย แต่ก็ไม่ควรจะเป็นเป้าหมายเดียวของงานพัฒนา สิ่งที่ควรมุ่งหมายไปยิ่งกว่านั้น คือ ผลลัพธ์เชิงศาสนธรรม ซึ่งเป็นเครื่องชี้นำชุมชนและประเทศชาติ ไปสู่ความรุ่งเรืองไพบูลย์อย่างยั่งยืน เจ้าอาวาสต้องคำนึงอยู่เสมอว่า หน้าที่ของพระภิกษุสามเณร คือ การรักษาและเผยแผ่พระพุทธธรรม ให้ดำรงตั้งมั่นในโลกนี้ตราบนานเท่านาน หากการพัฒนาศาสนวัตถุ ศาสนสถาน มุ่งทิศทางที่ไม่เป็นไปเพื่อการดำรงอยู่อย่างยั่งยืนของพระพุทธศาสนา และไม่จรรโลงวัฒนธรรมของชาติแล้ว ก็เท่ากับเป็นความสำเร็จปลอมๆ ไม่ใช่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ขอฝากข้อคิดดังกล่าวไว้ และขอถวายกำลังใจให้ท่านเจ้าอาวาส ที่สามารถพัฒนาวัดของท่านให้ดีงามยิ่งๆขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องสร้างอะไรขึ้นใหม่ ให้ใหญ่โตหรูหราก็ได้ แต่ขอให้วัดของท่านเรียบร้อยเป็นระเบียบ เหมาะสมเพียงพอต่อความเป็นอาราม ไม่ชำรุดทรุดโทรม ขอให้อนุรักษ์ศาสนวัตถุที่ทรงคุณค่าคู่วัดไว้ให้ดี อย่าทำให้สูญหายทำลาย และขอให้เผยแผ่ศาสนธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ซึมซาบสู่หัวใจของพระเณรในปกครอง ตลอดจนผู้คนในชุมชนโดยแท้จริง นั้นแลคือการพัฒนาวัดอย่างยั่งยืน”

ภาพ/ข่าว : วัชรพงษ์ บุญพระ

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ