พิธีบวงสรวงเบิกฤกษ์ปั้นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหัก วัดคุ้งตะเภา

วันที่โพสต์: Oct 18, 2015 5:47:26 PM

เวลา ๐๙.๐๙ น. นายภีมเดช อมรสุคนธ์ นายกสโมสรจังหวัดระยอง และอดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.) ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พราหมณ์เริ่มพิธีอ่านโองการประกาศสังเวยเทพยดา เชิญพระรัตนตรัย พระอรหันต์แปดทิศ เทพเทวาสมมุติเทพ และเชิญพระวิษณุกรรมครูช่าง พร้อมทั้งบทขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย จากนั้นพราหมณ์กล่าวคำโองการบูชาฤกษ์ถวายครูประสิทธิพร ก่อนที่จะกล่าวคำทูลลาเครื่องบวงสรวง สังเวย จากนั้นประธานโปรยข้าวตอกดอกไม้ พราหมณ์พรมน้ำมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ (ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๑) วัดคุ้งตะเภาประกอบ พิธีบวงสรวงเบิกฤกษ์ปั้นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหัก ณ โรงปั้นนายช่างจากวิทยาลัยช่างศิลป์ กรมศิลปากร จังหวัดปทุมธานี โดย พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เป็นประธานฝ่ายบรรพชิต และ นายภีมเดช อมรสุคนธ์ นายกสโมสรจังหวัดระยอง และอดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ตามโครงการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ วัดคุ้งตะเภา

เวลา ๐๙.๐๙ น. วัดคุ้งตะเภา นำโดย พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา, พันเอกสิงหนาท โพธิ์กล่ำ ไวยาวัจกรวัดคุ้งตะเภา, นายสมชาย สำเภาทอง ผู้ใหญ่บ้านคุ้งตะเภา หมู่ ๔ ร่วมพิธีบวงสรวงเบิกฤกษ์เริ่มต้นโครงการจัดสร้างสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก ณ โรงปั้นคลองเจ็ด ปทุมธานี โดยนายช่างยุทธกิจ ประสมผล จากวิทยาลัยช่างศิลป์ กรมศิลปากร

จากนั้น พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา ประธานสงฆ์ ขึ้นแท่นประทับดินปั้นพระรูปเป็นปฐมฤกษ์ พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญชัยมงคลคาถา ปี่กลองมังคละเภรีศรีสวางคบุรี ประโคมรำมังคละสมโภช โดยใช้กลองยืนและกลองมังคละ ๗๐๐ ปี ดั้งเดิมใบสุดท้ายของสวางคบุรีในการประโคมสมโภช จากนั้น นายช่างยุทธกิจ ประสมผล และคณะศรัทธาร่วมประทับดินปั้นพระรูป ณ แท่นปั้นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และแท่นปั้นรูปพระยาพิชัยดาบหัก เป็นเสร็จพิธี โดยขณะกำลังประกอบพิธีอ่านโองการบวงสรวงอัญเชิญดวงพระวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกลดในมณฑลพิธีด้วย

โดยหลังจากนี้จะเป็นการระดมทุนเพื่อดำเนินการจัดพิธีหล่อโลหะสัมฤทธิ์ ณ หัวทุ่งสมรภูมิสวางคบุรี-วัดคุ้งตะเภา เพื่อประดิษฐาน ณ บริเวณหน้าสี่แยกวัดคุ้งตะเภา ซึ่งจะเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ที่จักประดิษฐานในพื้นที่ ๆ มีความถูกต้อง ตรงตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากที่สุดของจังหวัดอุตรดิตถ์ในปัจจุบัน

- จดหมายข่าววัดคุ้งตะเภา วันที่ ๑๗ ต.ค. ๕๘

ดังนั้น การก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขึ้น ณ บริเวณมณฑลวัดคุ้งตะเภา จึงอยู่ในพื้นที่ที่มีความสำคัญยิ่งทางประวัติศาสตร์ตามหลักฐานในพระราชพงศาวดารอย่างชัดเจน เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของวีรกษัตริย์ รวมถึงใช้เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อการพัฒนาให้แหล่งเรียนรู้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ต่อไป

เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ทรงมีความเกี่ยวข้องกับเมืองสวางคบุรี และ วัดคุ้งตะเภา สถานที่ซึ่งพระองค์เคยทรงประทับยั้งทับอยู่ถึง ๒ เดือน ในปี พ.ศ. ๒๓๑๓ นับถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า ๒๔๕ ปี ที่ไม่มีการสร้างพระบรมรูปหล่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใด ๆ ให้ผู้ศรัทธาในพระเกียรติคุณของพระองค์ได้รำลึกถึงความเสียสละของบรรพบุรุษและมหาวีรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ในดินแดนประวัติศาสตร์แห่งนี้แต่อย่างใด

โดยวันนี้ เป็นการบวงสรวงเพื่อเริ่มต้นการปั้นพระรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระยาพิชัยดาบหัก (ใหญ่ขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง-ใหญ่กว่าพระยาพิชัยดาบหักหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อสร้างเสร็จ จะเป็นพระรูปพระเจ้าตากสิน และพระยาพิชัย ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุตรดิตถ์ในปัจจุบัน) ในโครงการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ณ วัดคุ้งตะเภา ภายใต้ประธานประสานงานอุปถัมภ์ของ นายภีมเดช อมรสุคนธ์ นายกสโมสรจังหวัดระยอง และอดีตรองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง (อบจ.)