พิธีบวงสรวงรดน้ำห่มผ้าฉลองต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา รุกขมรดกแห่งแผ่นดิน ประจำปี ๒๕๖๒

วันที่โพสต์: Apr 16, 2019 9:16:42 AM

วันที่ ๑๔ เม.ย. ๖๒ วัดคุ้งตะเภาจัดกิจกรรม พิธีบวงสรวงรดน้ำห่มผ้าฉลอง "ต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา รุกขมรดกแห่งแผ่นดิน" ที่ได้รับประกาศให้เป็น ๑ ใน ๔ ต้นไม้สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ และ ๑ ใน ๘๘ ต้นไม้ทรงคุณค่ารุกขมรดก ประจำปี ๒๕๖๒ โดยกำหนดสถานที่ประกอบพิธี ณ ลานบุนนาคใหญ่คู่วัดคุ้งตะเภา

กิจกรรมดังกล่าววัดคุ้งตะเภาได้จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้คนในชุมชนเกิดความภูมิใจในความสำคัญของต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา ที่ได้รับยกย่องในฐานะเป็นมรดกที่มีคุณค่าของชาติ ทั้งอายุ ความหายาก และขนาด รวมถึงสุนทรียศาสตร์ พฤกษศาสตร์ นิเวศวิทยา และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใครซึ่งไม่สามารถถูกแทนที่ได้ เพื่อสร้างความตระหนักให้คนในชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของและช่วยกันหวงแหนปกปักษ์รักษาให้ต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา เป็นต้นไม้ทรงคุณค่าของจังหวัดอุตรดิตถ์ไปตราบนานเท่านาน โดยหลังจากกิจกรรมดังกล่าว ทางวัดคุ้งตะเภาจะกั้นเขตพื้นที่โดยรอบ ห้ามเข้าภายใต้ร่มบุนนาค เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้นฟูต้นไม้ภายใต้คำแนะนำของรุกขกรต่อไป เพื่อให้ต้นบุนนาคอยู่คู่ชุมชนคุ้งตะเภาและเป็นต้นไม้สำคัญของแผ่นดินไทยไปอีกนานเท่านาน

โดยกิจกรรมเริ่มใน เวลา ๐๙.๐๙ น. ของวันที่ ๑๔ เม.ย. ๒๕๖๒ คณะศรัทธาวัดคุ้งตะเภาพร้อมใจกันตั้งขบวนแห่ผ้าห่มต้นบุนนาคจากลานตากข้าวกลุ่มเกษตรกรทำนาคุ้งตะเภามายังลานบุนนาควัดคุ้งตะเภา

เวลา ๑๐.๐๙ น. ตั้งกระบวนแห่ประกาศกระทรวงวัฒนธรรมและเชิญผ้าห่มสมโภชรอบต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภาเป็นตติยวาร จากนั้น ประธานจุดเทียนธุปบูชาพระรัตนตรัย นางบุญช่วย เรืองสุวรรณ ตัวแทนคณะศรัทธาจุดเทียนพลีกรรมรุกขเทวดา

เมื่อถึงเวลาลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ เวลา ๑๐.๓๙ น. คณะศรัทธาพร้อมใจกันประกอบพิธีบวงสรวงพลีกรรมบอกกล่าวรุกขเทพยดาเพื่อประกาศให้เป็นรุกขมรดกของแผ่นดิน และขออนุญาตกระทำรุกขกรรมดูแลต้นไม้ โดยพระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี, ดร. เป็นผู้ประกอบพิธี

เวลา ๑๐.๔๙ น. ทำพิธีรดน้ำต้นบุนนาครุกขมรดกของแผ่นดินบนรางเศวตรสูตรพลีกรรมแด่รุกขเทวดา เสร็จแล้ว พร้อมใจกันถวายผ้าป่าบำเพ็ญกุศลถวายแด่รุกขเทวดาผู้รักษาต้นไม้ คณะสงฆ์ทั้งนั้นอนุโมทนากถา เสร็จแล้ว

คณะศรัทธาร่วมใจกันผูกห่มผ้าต้นบุนนาครุกขมรดกของแผ่นดิน คณะสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา โปรยข้าวตอกดอกไม้รอบต้นบุนนาค เจิมสมโภชศาลเจ้าแม่บุนนาค พระสงฆ์ประพรมน้ำพระพุทธมนต์แก่คณะศรัทธา เป็นอันเสร็จพิธี

- จดหมายข่าววัดคุ้งตะเภา วันที่ ๑๖ เม.ย. ๖๒

ชมภาพได้ที่ 14-4-62 2 ฉลองบุนนาครุกขมรดก

ประวัติต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา รุกขมรดกของแผ่นดิน

(ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

ทั้งนี้ต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ทรงคุณค่าและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ๑ ใน ๔ ต้น ของจังหวัดอุตรดิตถ์ รองจากต้นมเหสักข์ (ต้นสักใหญ่ของโลก) ต้นมะค่าโมงยักษ์ อ.ฟากท่า และต้นมะปรางป่า วัดพระแท่นศิลาอาสน์ โดยต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภาได้รับประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นรุกขมรดกระดับประเทศโดยกระทรวงวัฒนธรรมในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เนื่องจากต้นบุนนาคนั้นเป็นไม้ยืนต้นโตช้า ต้นที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้จึงหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน

ต้นบุนนาคนี้มีอายุประมาณ ๒๔๐ ปี จากขนาดเส้นรอบวง ๓-๔ เมตร ความสูง ๒๕ เมตร เป็นสัญลักษณ์แห่งราชานุสรณ์ในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตามตำนานท้องถิ่นที่เชื่อว่าทรงปลูกไว้เมื่อครั้งทรงพระราชอุทิศไม้พระตำหนักค่ายหาดสูงเพื่อทรงสร้างวัดคุ้งตะเภา หลังเอาชนะศึกชุมนุมเจ้าพระฝางได้สำเร็จใน พ.ศ. ๒๓๑๓ นอกจากนี้ยังได้รับยกย่องให้เป็นบุนนาคพญาในวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในหัวเมืองเหนือ (Upper Siam) หรือจังหวัดในกลุ่มวัฒนธรรมสุโขทัยโบราณ เชื่อว่ามีความใหญ่เป็นรองเพียงต้นบุนนาคคู่ที่เมืองยอง รัฐฉาน ประเทศพม่า

โดยต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา ได้รับการพิจารณาจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศยกย่องให้เป็น ๑ ใน ๘๘ ต้นไม้รุกขมรดกของแผ่นดิน โดยผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณาให้เป็นต้นไม้รุกขมรดกที่มีคุณค่าของชาติ ทั้งในด้านอายุ ความหายาก และขนาด รวมถึงสุนทรียศาสตร์ พฤกษศาสตร์ นิเวศวิทยา และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่มีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนใครซึ่งไม่สามารถถูกแทนที่ได้ (ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

โดยการคัดเลือกและขึ้นทะเบียนต้นบุนนาคนั้น มาจากการที่กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ได้รวบรวมข้อมูลต้นไม้ที่มีความสำคัญจากทั่วประเทศ จำนวนกว่า ๕๐๐ ต้น จากนั้นจึงประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองในวาระที่ ๑ เพื่อคัดเลือกเหลือ ๑๕๐ ต้น ในวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๒ จากนั้นประชุมคณะกรรมการใหญ่ระดับกรมเพื่อพิจารณาเหลือ ๘๘ ต้น ในวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๒ โดยมีประกาศกรมส่งเสริมวัฒนธรรมลงวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ให้ต้นบุนนาควัดคุ้งตะเภา เป็นต้นไม้ที่มีความสำคัญของแผ่นดิน