พิธีหล่อพระเกศเปลวเพลิงสัมฤทธิ์ ถวายหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ อายุ ๘๐๐ ปี

วันที่โพสต์: Apr 14, 2015 8:22:14 AM

๑๓ เมษายน ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๙ น. นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เกียรติเป็นประธานใน พิธีหล่อพระเกศเปลวเพลิงสัมฤทธิ์ ถวายพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี พระพุทธรูปโบราณคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ อายุ ๘๐๐ ปี ณ วัดคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีพระครูเกษมธรรมาลังการ เจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ เป็นประธานนั่งปรกปลุกเสก และ พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เป็นประธานดำเนินการฝ่ายสงฆ์ เนื่องในโอกาส งานสมโภชการก่อตั้งวัด ครบ ๒๔๕ ปี นับแต่การก่อตั้งวัดคุ้งตะเภาเมื่อ พ.ศ. ๒๓๑๓ ซึ่งปรากฎหลักฐานการก่อตั้งวัดในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ครั้งเมื่อเสด็จขึ้นมาปราบชุมนุมเจ้าพระฝางเมืองสวางคบุรี ปีขาล โทศก จุลศักราช ๑๑๓๒ ถึงปัจจุบันวัดคุ้งตะเภาจึงมีอายุครบ ๒๔๕ปี ในปีนี้ คณะสงฆ์สัปบุรุษทายกทายิกา จึงได้จัดให้มีการบำเพ็ญกุศลประการต่าง ๆ อันเป็นเครื่องหมายแสดงถึงความสามัคคี ร่วมมือร่วมใจของพุทธศาสนิกชน และจัดให้มีพิธีหล่อพระเกศเปลวเพลิงสัมฤทธิ์ ถวายองค์หลวงพ่อพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี วัดคุ้งตะเภา โดยจัดให้หล่อขึ้นโดยถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยช่างฝีมือปราชญ์พื้นบ้านของสุโขทัย ผู้ได้รับเลือกจากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติให้เป็นศิลปินดีเด่น สาขาการช่างฝีมือ ประจำปี พุทธศักราช ๒๕๕๒

โดยองค์ พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี หรือ หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ เป็น ๑ ใน ๙ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ ประดิษฐาน ณ วัดคุ้งตะเภา โดยเป็นพระพุทธรูปโบราณในพุทธลักษณะปางมารวิชัย หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์บริสุทธิ์ หน้าตักกว้าง ๒ ศอกเศษ มีพุทธลักษณะงดงามตามแบบอย่างสกุลช่างสุโขทัย-เชียงแสน ซึ่งเป็นแบบที่พบได้น้อยมากและหายากที่สุด

ตัวองค์พระสำริด หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ ดังปรากฏในปัจจุบันนั้น สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยแรกก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๘ สกุลช่างเชียงแสนยุคปลายผสมสกุลช่างสุโขทัยยุคต้น หรือในช่วงยุครอยต่อการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัย ในรัชสมัยระหว่างพ่อขุนศรีอินทราทิตย์กับพญาลิไท มีอายุประมาณ ๘๐๐ ปี โดยหลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์ วัดคุ้งตะเภา เป็นพระพุทธรูปสำคัญเพียงองค์เดียวในจังหวัดอุตรดิตถ์ที่องค์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ทรงมีหนังสือยกย่องเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ และทรงมีพระเมตตาธิคุณทรงตั้งพระนามขึ้นใหม่ถวายเป็นพุทธบูชาเป็นกรณีพิเศษ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยพระเกศสัมฤทธิ์ของเดิมนั้น สันนิษฐานว่าได้สูญหายไปตั้งแต่ก่อนครั้งรัชกาลที่ ๑ ทรงอัญเชิญจากหัวเมืองเหนือ ไปประดิษฐานไว้ ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ในปี พ.ศ. ๒๓๔๔ โดยพระเกศเปลวเพลิงของหลวงพ่อสัมฤทธิ์ของเดิมในปัจจุบันนั้น เป็นปูนปั้นแกนไม้ปิดทองแท้ ที่ทำขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ซึ่งปัจจุบันได้ชำรุดไปตามกาลเวลา

นายชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมคณะ

ขึ้นกราบนมัสการขอพรองค์หลวงพ่อพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี (หลวงพ่อสุโขสัมฤทธิ์) อายุ ๘๐๐ ปี

พระโบราณศักดิ์สิทธิ์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์

โดยในส่วนรายละเอียดของพิธีนั้น ใน เวลา ๐๓.๔๙ น. คณะช่างหล่อพระสุโขทัยโบราณ บวงสรวงบอกกล่าวเทพยดา และหมายเขตปริมณฑลหล่อพระเกศสัมฤทธิ์ ก่อเตาเผา เตาหลอม หัวหน้าช่างหล่อทำการสุมไฟไล่ทองแบบหล่อพระเกศสัมฤทธิ์ จากนั้น คณะกรรมการตรวจสอบโลหะมีค่า นำโดยพระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา, พันเอกสิงหนาท โพธิ์กล่ำ ไวยาวัจกรวัดคุ้งตะเภา และนายสมชาย สำเภาทอง ผู้ใหญ่บ้านคุ้งตะเภา หมู่ ๔ ตรวจนับ ทองคำ เงิน และนาค และวัสดุสำริด และให้หัวหน้าช่างพิจารณาทำการทุบและเตรียมหลอมรองเบ้า จากนั้นใน เวลา ๐๕.๐๙ น. เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เป็นประธานวางทองฤกษ์ เงินฤกษ์ ลงในเบ้าหลอมทอง และ วางถ่านสุมเผาเตาหลอมทองเป็นปฐมฤกษ์ จากนั้นคณะช่างได้ทำการ สุมเผาหลอมทอง ตามลำดับ

โดยกิจกรรมหล่อพระเกศสัมฤทธิ์ดังกล่าว ณ วัดคุ้งตะเภา ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ชาวประชาเป็นสุขด้วย ได้รับความร่วมมือจากคณะสงฆ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา ฝ่ายปกครองท้องที่ สื่อมวลชน และประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย สภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ และพุทธศาสนิกชนร่วมงานเป็นจำนวนมาก เป็นการได้ร่วมกันบำเพ็ญคุณงามความดี ถวายเป็นพุทธบูชา และได้เข้าถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สร้างสรรค์วัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามให้คงอยู่สืบไป

กิจกรรมการหล่อพระเกศสัมฤทธิ์ดังกล่าว จึงได้จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชน ได้ร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในเทศกาลสงกรานต์ ด้วยกิจกรรมปลอดเหล้า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ โดยอาศัยศาสนสถานและกิจกรรมทางศาสนาช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ เป็นการ ส่งเสริมประเพณีและวัฒนธรรม ด้วยการสืบทอดภูมิปัญญาการหล่อพระพุทธรูปแบบโบราณโดยช่างท้องถิ่น ในอันที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ในหลักพระพุทธศาสนา และสร้างความภาคภูมิใจและความหวงแหนในวัฒนธรรมประเพณีให้เกิดขึ้น เพื่อนำมาปรับใช้ให้เป็นคนดี มีศีลธรรม และเป็นการแสดงออกถึงความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา แสดงออกถึงคุณค่าวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม

ใน เวลา ๐๙.๐๐ น. ท่านชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เดินทางมาถึงยังมณฑลพิธี โดยมีนายไพฑูรย์ พรหมน้อย กำนันตำบลคุ้งตะเภา นายสมชาย สำเภาทอง ผู้ใหญ่บ้านคุ้งตะเภา หมู่ ๔, และนายศักดิ์ตระกูล เลี้ยงประเสริฐ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้การต้อนรับ สู่ที่นั่งประธานในพิธี จากนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระครูเกษมธรรมาลังการ (อุดร) เจ้าคณะอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ประธานปรกปลุกเสกอธิษฐานจิต เดินทางมาถึงยังมณฑลพิธี

จากนั้นใน เวลา ๐๗.๑๙ น. เจ้าพิธีพ่อปู่บุญมา สวยงาม เจ้าของโรงหล่อพระบุญมาศิลป์สุโขทัย ผู้สืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นการหล่อพระสุโขทัยแบบโบราณหนึ่งเดียวของประเทศไทย ได้ทำการ บวงสรวงอัญเชิญเทพดา บอกกล่าวเสื้อวัดทรงวัดเทพยดาอารักษ์ ณ หน้าแท่นพิธีบวงสรวง จากนั้นพนักงานเป่าสังข์ทักษิณาวัฏ ไกวบัณเฑาะว์ ตีมงคลเภรี และลั่นฆ้องชัยมงคล จบแล้ว เวลา ๐๘.๐๙ น. หัวหน้าคณะช่างหล่อพระ เปิดเบ้าหลอมทอง และให้คณะศรัทธาได้นำทอง เงิน นาค เทลงในเบ้าหลอมทอง และอธิษฐานจิต โดยมีคณะศรัทธาร่วมเททองนาคเงินจำนวนมาก ตามลำดับ โดยต้องจัดชุดอธิษฐานจิตถวายทองเงินนาก ถึง ๔ ชุด โดยในแต่ละชุดได้น้ำหนักโลหะมีค่า จำนวนหลายสิบบาท รวมเป็นมูลค่าโลหะมีค่า ทั้งทองคำ นาก เงิน ขันลงหิน ฯลฯ ทุกประเภท เกือบ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท

จากนั้นเจ้าพิธีพ่อปู่บุญมา นำคณะช่างขอขมา และรดน้ำมนต์อธิษฐานจิต โดยมีคณะศรัทธาร่วมรับด้ายมงคล รับน้ำพระพุทธมนต์ เครื่องบวงสรวง และกล้วยอ้อยจนหมดมณฑลพิธี โดยหลังเสร็จพิธี คณะกรรมการวัดคุ้งตะเภา ได้เชิญท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ขึ้นกราบนมัสการองค์พระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี อายุ ๘๐๐ ปี โดยบรรยากาศในวันนี้ มีผู้เข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ด้วยความเต็มเปี่ยมพลังเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวบ้านคุ้งตะเภา ขออนุโมทนาสาธุ ๆ

จากนั้น ท่านชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นประธาน ถวายไทยธรรมแด่ประธานสงฆ์ พระสงฆ์ทั้งนั้นกล่าวอนุโมทนากถาเป็นภาษาบาลี จบแล้ว พิธีกรนำกราบลาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ทั้งนั้นเจริญชัยมงคลคาถา เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เชิญน้ำพระพุทธมนต์จาการอธิษฐานจิต ประพรมแก่ผู้เข้าร่วมพิธี ตามลำดับ

เวลา ๐๙.๐๙ น. พันตรีสงัด ศิริมา กรรมการสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ พิธีกร นำเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา และผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ถวายทองคำบริสุทธิ์น้ำหนัก ๑ บาท เทลงในเบ้าหลอมเป็นคนสุดท้าย จากนั้นพิธีกรเชิญประธานในพิธี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ณ โต๊ะหมู่ทองหน้าหลวงพ่อใหญ่เมตตาทันใจ (พระพุทธมหาเมตตาประชาบพิธ) จุดเทียนรุ่งเทียนชัย และนมัสการประธานสงฆ์ เสร็จแล้ว พิธีกรนำรับศีล และนำกล่าวอาราธนาพระปริตร จากนั้น คณะสงฆ์เจริญบทพระธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร และ ประธานสงฆ์นั่งปรกปลุกเสกอธิษฐานจิต ตามลำดับ

จากนั้น พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา และ ท่านชัช กิตตินภดล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ขึ้นสู่แท่นเททอง จับสายสิญจน์ พิธีกรนำอธิษฐานจิต เมื่อถึง เวลา ๐๙.๓๙ น. เป็นอุดมมงคลฤกษ์ พนักงานปลดเบ้าทองออกจากเตาหลอม และ ทำการเททองพระเกศสัมฤทธิ์ คณะสงฆ์ทั้งนั้นเจริญชัยมงคลคาถา พนักงานเป่าเป่าสังข์ทักษิณาวัฏ ไกวบัณเฑาะว์ ตีมงคลเภรี และลั่นฆ้องชัยมงคลสมโภช โดยปรากฎลมพัดขนาดใหญ่ตกสู่มณฑลพิธีเป็นที่น่าอัศจรรย์และสร้างความปีติให้แก่ผู้ร่วมพิธีอย่างยิ่ง

- จดหมายข่าววัดคุ้งตะเภา วันที่ ๑๓ มี.ค. ๕๘

รายงานข่าวจากหน่วยงานภายนอก

* รายงานข่าวจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์ กรมประชาสัมพันธ์

"พิธีหล่อพระเกศเปลวเพลิงสัมฤทธิ์ ถวายพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนี อายุ ๘๐๐ ปี วัดคุ้งตะเภา"

http://pr.prd.go.th/uttaradit/ewt_news.php?nid=2420&filename=index

เมื่อเวลา ๐๙.๐๙ น. วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๘ นายชัชกิตตินภดลผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีหล่อพระเกศเปลวเพลิงสัมฤทธิ์ถวายพระพุทธสุโขสัมฤทธิ์อุตรดิตถ์มุนีพระพุทธรูปโบราณคู่บ้านคู่เมืองอุตรดิตถ์ อายุ ๘๐๐ ปี ณ วัดคุ้งตะเภา อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ฯลฯ

ชมและดาวโหลดภาพ