เอกสารการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
คำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา
ที่ ๒/๒๕๕๕
เรื่อง จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
พ.ศ. ๒๕๕๕
*****************
ด้วยชุมชนคุ้งตะเภา เป็นชุมชนโบราณ มีความเป็นมาของหลักฐานทางประวัติศาสตร์ การเข้ามาอยู่อาศัยของชุมชน ที่มีอายุยาวนานมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีวัฒนธรรมประเพณี วิถีการดำรงชีวิต ความเป็นเอกลักษณ์ และสุนทรียภาพของภาษาถิ่น ภูมิปัญญา วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น และความสวยงามทางธรรมชาติ ที่ถูกรังสรรค์ให้คงอยู่คู่ชุมชนชาวคุ้งตะเภา ซึ่งนับวัน เอกลักษณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ กำลังจะถูกกลืนหายไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบัน ชุมชนคุ้งตะเภา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการอนุรักษ์จัดเก็บโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ เครื่องมือเครื่องใช้ในอดีต เรื่องราว เหตุการณ์ และวิถีชีวิตที่มีความสำคัญ เพื่อจัดแสดงข้อมูล สะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของชุมชนคุ้งตะเภา เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ที่สามารถสร้างความรู้ความเข้าใจถึงวิถีบรรพชนได้อย่างถ่องแท้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความภูมิใจ และเป็นแหล่งศึกษาทางด้านวัฒนธรรมประเพณี ที่จับต้องได้ของคนในชุมชน เป็นสถานที่ให้คนในชุมชนได้หันมาทบทวนอดีต เพื่อสามารถก้าวไปสู่กระแสแห่งพลวัฒน์ของการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้ต่อไป
และโดยที่วัดคุ้งตะเภา เป็นวัดโบราณที่มีอายุยาวนานที่สุดในเขตตำบลคุ้งตะเภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนามวัดคุ้งตะเภา เป็นนามพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นที่มาของชื่อชุมชนตำบลคุ้งตะเภามาตั้งแต่สมัยธนบุรี ล้อมรอบด้วยชุมชนบ้านคุ้งตะเภา ซึ่งเป็นชุมชนโบราณที่มีเอกลักษณ์สืบทอดมาอย่างยาวนานกว่า ๓๐๐ ปี วัดคุ้งตะเภา จึงนับว่าเป็นศูนย์กลางทางด้านประเพณีและวัฒนธรรมของตำบลคุ้งตะเภา ควรที่จะมีการส่งเสริมให้วัดคุ้งตะเภาเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ของชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษาทางวัฒนธรรมอันมีที่ตั้งถาวร เพื่อให้ผู้สนใจได้เรียนรู้ เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาและอนุรักษ์โบราณวัตถุและศิลปวัตถุ สำหรับเป็นประโยชน์ทางวิชาการแก่ประชาชน และเป็นสถานที่อันควรภาคภูมิใจและเกียรติประวัติของวัดและชุมชนตำบลคุ้งตะเภาสืบไป
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาจึงออกคำสั่ง จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา ดังนี้
ข้อ ๑ คำสั่งนี้เรียกว่า “คำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา เรื่อง จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา พ.ศ. ๒๕๕๕”
ข้อ ๒ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันลงนามคำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในคำสั่งนี้
"พิพิธภัณฑ์" หมายถึง พิพิธภัณฑ์ซึ่งได้ตั้งขึ้นตามคำสั่งนี้
"คณะกรรมการ" หมายถึง คณะกรรมการพิพิธภัณฑ์ตามความ
ในหมวด ๔ แห่งประกาศนี้
"ทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์" หมายถึง บรรดาสังหาริมทรัพย์อันเป็นโบราณวัตถุและ
ศิลปวัตถุ รวมทั้งเครื่องมือเครื่องใช้อื่น
อันจัดเข้าเก็บรักษาหรือจัดแสดงเพื่อประโยชน์
ในการพิพิธภัณฑ์ อันเป็นกรรมสิทธิ์ของ
วัดคุ้งตะเภา
หมวด ๑
พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
ข้อ ๔ ให้จัดตั้ง พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
ที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ ให้ใช้สถานที่อาคารอสีติวัสสายุมงคลมหาศาลาการเปรียญเป็นสถานที่ตั้งพิพิธภัณฑ์
ข้อ ๕ วัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา มีดังต่อไปนี้
(๑) ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาค้นคว้า ประวัติความเป็นมาของชุมชนท้องถิ่น ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ เครื่องมือ เครื่องใช้ในการดำเนินวิถีชีวิตของบรรพบุรุษหรือบุคคลสำคัญของชุมชนท้องถิ่น
(๒) จัดหาอาคารสถานที่สำหรับจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา รวมทั้งการออกแบบอาคารสถานที่ให้มีความเหมาะสมกับเนื้อหา ศิลปวัตถุที่จะจัดแสดง และเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ตามความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่น
(๓) จัดเตรียมข้อมูล รวบรวมศิลปวัตถุ โบราณวัตถุประเภทต่าง ๆ เพื่อการจัดแสดงผลงานภายในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา
(๔) บำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภาให้มีสภาพที่สมบูรณ์ดีพร้อมอยู่เสมอ เพื่อเปิดให้ประชาชนและผู้สนใจเข้าเยี่ยมศึกษาค้นคว้าหาความรู้
หมวด ๒
ตราสัญลักษณ์พิพิธภัณฑ์
ข้อ ๖ ให้มีตราสัญลักษณ์พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา สำหรับใช้เป็นตราสัญลักษณ์เพื่อการประชาสัมพันธ์พิพิธภัณฑ์
ตราตามความในวรรคต้น เป็นรูปหลังคาเรือนไทยคลุมรูปพระหัตถ์ปางจีบพระองคุลีของพระพุทธเจ้า ด้านล่างมีอักษรไทยว่า “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา” และอักษรภาษาอังกฤษว่า
“Wat Kungtaphao Local Museum” ดังภาพต่อไปนี้
ข้อ ๗ ตราสัญลักษณ์ตามข้อ ๖ มีความหมายดังนี้
(๑) รูปหลังคาเรือนไทย นำมาจากลักษณะที่ตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ที่ตั้งอยู่ภายในอาคารอสีติวัสสายุมงคลมหาศาลาการเปรียญวัดคุ้งตะเภา สื่อความหมายถึงวัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์ ที่มุ่งการอนุรักษ์ปกป้องรักษาโบราณวัตถุศิลปวัตถุ และประวัติศาสตร์ความเป็นมาของหมู่บ้านคุ้งตะเภา โดยทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ทั้งวัด ประชาชนในชุมชน และ สถานศึกษา
(๒) รูปพระหัตถ์ปางจีบพระองคุลีอันเป็นกิริยาแสดงธรรมของพระพุทธเจ้า สื่อความหมายถึงวัดคุ้งตะเภา ที่มีวัตถุประสงค์เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอน ในขณะที่สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้โดยชุมชนเป็นปราการสำคัญที่สนับสนุนส่งเสริมให้วัดมีความเจริญรุ่งเรือง อีกนัยหนึ่ง สื่อความถึงตัวโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ อันมีอยู่ในพิพิธภัณฑ์วัดคุ้งตะเภา ว่าเป็นสิ่งอันควรป้องกันรักษาและอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังชั่วกาลนาน
หมวด ๓
ทรัพย์สินของพิพิธภัณฑ์
ข้อ ๘ พิพิธภัณฑ์อาจได้มาซึ่งสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ หรืออื่นใด ที่มีผู้ยกให้ โดยพินัยกรรม หรือนิติกรรมอื่น ๆ ที่ปราศจากหนี้สิน หรือภาระติดพัน เพื่อประโยชน์แก่การเก็บรักษาอนุรักษ์ และการพิพิธภัณฑ์
ข้อ ๙ บรรดาสังหาริมทรัพย์อันจัดเข้าในพิพิธภัณฑ์ ให้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดคุ้งตะเภา และห้ามผู้ใด ให้ ซื้อขาย แลกเปลี่ยน หรือเคลื่อนย้าย ซึ่งทรัพย์สินอันจัดเข้าในพิพิธภัณฑ์ ออกจากวัดคุ้งตะเภา
ข้อ ๑๐ การยืมซึ่งทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์ องค์กรภาครัฐ และสถาบันการศึกษาเท่านั้นที่ยืมได้ ทั้งนี้ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางวิชาการ และเป็นการชั่วคราว และกำหนดเวลาไม่เกิน ๑๕ วัน เท่านั้น
การยืมนั้น ผู้ยืม ต้องมีหนังสือขอยืมอย่างเป็นทางการยังเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา คณะกรรมการจึงจะพิจารณาการอนุญาตให้ยืมหรือไม่ได้ และการยืมทุกครั้ง ต้องทำเป็นหนังสือระบุรายละเอียด รูปพรรณ ของทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์ที่ยืมในหนังสือให้ชัดเจน ลงนามเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา ภัณฑารักษ์ผู้ดูแล และคณะกรรมการผู้รับผิดชอบอย่างน้อย ๕ คน เป็นผู้ให้ยืม และลงนามผู้บริหารสูงสุดขององค์กรภาครัฐ หรือหัวหน้าสถาบันการศึกษา เป็นผู้ยืมเท่านั้น และการให้ยืมทุกครั้ง ให้คณะกรรมการประกาศรายละเอียดการให้ยืม ติดไว้ ณ ป้ายประชาสัมพันธ์ของพิพิธภัณฑ์ และทางเว็บไซต์อิเล็กทรอนิกส์ของวัด
การคืนทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์ที่ยืม หากมีความชำรุดเสียหายเพราะความผิดของผู้ยืมแม้เพียงเล็กน้อย ให้ผู้ยืมชดใช้ค่าเสียหายเป็น ๓ เท่า ของราคาประเมินทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์ซึ่งให้ระบุในการทำสัญญายืมทุกครั้ง
ทั้งนี้ ไม่อนุญาตให้ยืมพระพุทธรูป เครื่องพุทธบูชา และโบราณวัตถุสำคัญของวัด
หมวด ๔
คณะกรรมการพิพิธภัณฑ์
ข้อ ๑๑ ให้มีคณะกรรมการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา ประกอบด้วยเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาเป็นประธาน และภัณฑารักษ์ผู้ดูแล เป็นบรรพชิต ๑ รูป และคฤหัสถ์ ๑ คน และคณะกรรมการ จำนวนตามแต่เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภาจะเห็นสมควร
ข้อ ๑๒ คณะกรรมการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) ร่วมมือกับองค์กรภาครัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรเอกชน เพื่อการประชาสัมพันธ์ การเผยแพร่ความรู้ และการพัฒนางานด้านวิชาการ การขอขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุเพื่อประกาศเป็นโบราณวัตถุสำคัญของชาติในราชกิจจานุเบกษา รวมทั้งให้ความสนับสนุน กำลังกาย กำลังทรัพย์ และคำเสนอแนะ หรืออื่นใด เพื่อการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นวัดคุ้งตะเภา ตามความในข้อ ๕
(๒) รับบริจาค ทำทะเบียน บันทึกประวัติ และอนุรักษ์ ซึ่งโบราณวัตถุใด ๆ อันได้รับบริจาคจากประชาชน ที่ยกเป็นสิทธิ์ขาดให้เป็นทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์
(๓) รับฝาก ทำทะเบียน และบันทึกประวัติ ซึ่งโบราณวัตถุใด ๆ อันได้รับฝากจากประชาชน ที่ยกให้พิพิธภัณฑ์จัดแสดงเป็นการชั่วคราว เวลาตามแต่จะตกลงกับผู้ฝาก
(๔) จัดภูมิทัศน์ จัดทำตู้สำหรับเก็บรักษา และจัดทำตู้สำหรับแสดงนิทรรศการ ชั่วคราว หรือถาวร ซึ่งทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์ ในที่ตั้งพิพิธภัณฑ์
(๕) จัดหาอาคารสถานที่ ออกแบบอาคารสถานที่ จัดเตรียมข้อมูล จัดภูมิทัศน์ บำรุงรักษา จัดแสดงนิทรรศการ ชั่วคราว หรือถาวร ซึ่งประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ในที่ตั้งพิพิธภัณฑ์
(๖) พิจารณาอนุมัติ การให้ยืมซึ่งทรัพย์สินพิพิธภัณฑ์ตามความในข้อ ๑๐
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตามความในวรรคต้น ข้อ ๙ (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖)คณะกรรมการจะมีอำนาจหน้าที่ต่อเมื่อได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาสเป็นหนังสือ
ข้อ ๑๓ คุณสมบัติ การได้มา และสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งของภัณฑารักษ์ผู้ดูแล และคณะกรรมการ ให้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา
ข้อ ๑๔ การแต่งตั้งภัณฑารักษ์ผู้ดูแล และคณะกรรมการ ให้เป็นไปโดยคำสั่งเจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา
ข้อ ๑๕ การประชุมคณะกรรมการ ให้กระทำเมื่อมีคำสั่งประชุมจากเจ้าอาวาสเพื่อพิจารณาวาระใดวาระหนึ่ง
การออกเสียงลงมติในที่ประชุมคณะกรรมการให้เป็นไปโดยเอกฉันท์
ข้อ ๑๖ ในระหว่างที่ใช้ระเบียบนี้ หากมีข้อขัดแย้ง หรือมีการดำเนินการใดที่ฝ่าฝืนระเบียบนี้
เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภามีอำนาจเต็ม ที่จะวินิจฉัยชี้ขาด
ประกาศ ณ วันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
พระสมุห์สมชาย จีรปุญฺโญ
เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้คำสั่งฉบับนี้ คือ มีการปรารภจากพระมหาเทวประภาส วชิรญาณเมธี ว่าวัดคุ้งตะเภามีโบราณวัตถุและศิลปวัตถุเก็บรักษาไว้เป็นจำนวนมาก อีกประการหนึ่ง ตำบลคุ้งตะเภา ยังไม่มีระเบียบข้อบังคับการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานของชุมชนเพื่อการศึกษาเรียนรู้ของประชาชนขึ้น วัดคุ้งตะเภาจึงควรจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ของวัดขึ้นโดยให้การดำเนินการเป็นไปในรูปแบบคณะกรรมการ เพื่ออนุเคราะห์แก่ชุมชนและให้ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการพิพิธภัณฑ์ร่วมกัน เพื่อสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน และจักได้อนุรักษ์รักษาสิ่งของสำคัญล้ำค่าต่าง ๆ ของหมู่บ้านและวัดให้ดำรงอยู่สืบไป เจ้าอาวาสวัดคุ้งตะเภา โดยการสนับสนุนจากคณะศรัทธาและโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารวัดคุ้งตะเภา จึงประกาศใช้คำสั่งนี้