กิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมายุ ๖๓ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๒ เมษายน ๒๕๖๑ ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุศลแด่พระองค์ และเป็นการส่งเสริมการดำเนินการจัดกิจกรรมในโอกาสสำคัญดังกล่าว พร้อมทั้งอนุรักษ์สืบทอดประเพณี การเทศน์มหาชาติ อันเป็นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของไทย เพื่อเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชนนำแนวคิดที่สอดแทรกด้วยหลักธรรมจากมหาเวสสันดรชาดก มาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นพื้นฐานในการศึกษาเรียนรู้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในระดับสูงขึ้น ตลอดถึงให้เห็นคุณค่าวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงาม

การเทศน์มหาชาติ เป็นประเพณีการทำบุญที่คนไทยยึดถือมาช้านาน ปรากฎในทุกภูมิภาคของไทย และนับเป็นประเพณีการทำบุญที่เป็นมหากุศลอย่างยิ่ง เนื่องจากเรื่องราวและเนื้อหาของมหาเวสสันดรชาดก เป็นเรื่องราวที่พระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญตอนเป็นพระเวสสันดร อันเป็นพระชาติสุดท้ายของพระบรมโพธิสัตว์ ก่อนที่จะมาประสูติเป็นเจ้าชายสิทธัตถะ และออกบวชจนตรัสรู้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติต่อมา สำหรับการเทศน์มหาชาติ จะเริ่มเทศน์ตั้งแต่ เรื่องมหาเวสสันดรชาดก เพื่อสอนให้เห็นถึงการบำเพ็ญเพียรของสมเด็จพระบรมศาสดา เพื่อสั่งสมบารมีก่อนเสด็จตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย และยังเป็นการช่วยย้ำเตือนบุคคลให้น้อมรำลึกถึงการบำเพ็ญกุศล อันมีการสละความเห็นแก่ตัว สอนให้รู้จักโอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ อันจะเป็นเตุบันดาลให้สังคมสงบสุข นอกจากนี้ ยังมีผู้กล่าวถึงอานิสงส์ของการฟังเทน์มหาชาติว่า หากผู้ใดได้ฟังเทศน์มหาชาติหรือเวสสันดรชาดก ครบ ๑๓ กัณฑ์ ๑,๐๐๐ พระคาถา จบในวันเดียว สิริมงคลย่อมเกิดแก่ผู้นั้นอย่างมหาศาล