เลี้ยงนกกระทา

วิธีการเลี้ยงนกกระทา

1. เตรียมกรง , โรงเรือน และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น ถาดใส่อาหาร กระบอกใส่น้ำ ให้พร้อมโดยคำนึงถึงความสะอาด

2. หาซื้อไข่เชื้อ (ไข่นกกระทาที่ยังไม่ฟัก) จากแหล่งหรือโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน มีความ สะอาดเพียงพอ

3 . นำไข่เชื้อมาเข้าตู้ฟักที่เตรียมไว้ ประมาณ 15-16 วัน ไข่จะฟักเป็นตัวลูกนกกระทา (ตู้ฟักจะใช้อุณหภูมิ ประมาณ 38 องศาเซลเซียส )

4. นำลูกนกมาเข้ากรงอบนกเล็ก (ให้ความอบอุ่นด้วยแสงไฟ) โดยให้อาหารสำเร็จรูปของนกกระทา โดยเฉพาะใส่ในถาดใส่อาหาร และน้ำใส่กระบอกน้ำที่เตรียมไว้เพื่อให้ลูกนกกินประมาณ 12 วัน ขนลูกนกกระทาจะขึ้นเต็มตัว จึงเอาหลอดไฟที่อยู่ในกรงอบนกเล็กออก เนื่องจากนกกระทาสามารถมีร่างกายที่อบอุ่นได้เองจากขนของมันและให้มันอยู่ในกรงนี้ต่อไปอีก 6 วัน (รวมเวลาที่อยู่ในกรงนี้เป็น 18 วัน )

5. ตอนนี้คนเลี้ยงสามารถแยกเพศของนกกระทาได้แล้ว

6. ให้คัดเอานกกระทาตัวผู้ออกมาเลี้ยงไว้ในกรงเลี้ยงนกเนื้อ (กรงเลี้ยง นกเนื้อจะเลี้ยงบนพื้น ซึ่งจะทำให้โตเร็วขึ้น) โดยให้กินอาหารของไก่เนื้อแรกเกิดเพื่อคัดให้เป็นนกกระทาเนื้อและเลี้ยงอีก ประมาณ 27 วัน (รวมเป็น 45 วัน นับตั้งแต่ฟักออกจากไข่ ) ก็สามารถจับขายเป็นนกกระทาเนื้อได้แล้ว

7. ส่วนนกกระทาตัวเมียให้นำไปไว้นกกรงนกรุ่น (กรงอบนกไข่) เลี้ยงไว้ประมาณ 12 วัน จึงนำขึ้นไปเลี้ยงในกรงนกไข่ หลังจากนั้นประมาณ 6 วัน นกกระทาตัวเมียจะเริ่มไข่ออกมาประปรายมี อายุได้ 50 วัน นกกระทาตัวเมียจะไข่ทุกวัน โดยเฉลี่ยคิดเป็น 80 % ของนกทั้งหมด เช่น ถ้ามีนกกระทาตัวเมีย 100 ตัว ก็จะออกไข่ประมาณ 80 ฟอง

8. นกกระทาตัวเมีย (นกไข่) จะปลดระวางเป็นนกเนื้อเมื่ออายุ 1 ปี หรือ 12 เดือน และสามารถขายได้ราคาดีกว่านกเนื้อตัวผู้ เนื่องจากอร่อยและมีคนนิยมรับประทานมากกว่า