สะอึก
สะอึก
สะอึก (Hiccup, Hiccough, Singultus) เป็นอาการที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน (ไม่ใช่โรค) ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ (การป้องกันด้วยวิธีใดๆ จึงเป็นไปไม่ได้) ร่างกายไม่สามารถควบคุมอาการได้ หรือเรียกว่า รีเฟล็กซ์ (Reflex) เป็นอาการที่พบได้บ่อยมากทั้งหญิงและชายตั้งแต่ทารกในครรภ์จนถึงผู้สูงอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กแรกเกิด เด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น และวัยหนุ่มสาวจะพบได้บ่อยกว่า
อาการสะอึก โดยทั่วไปแล้วจะเป็นอาการเป็นๆ หายๆ กลไกที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากมีการรบกวนประสาทของกระบังลมและกล้ามเนื้อ ระหว่างกระดูกซี่โครง ซึ่งมีหน้าที่ช่วยในการหายใจเช่นเดียวกับ กระบังลม จึงส่งผลให้กระบังลมและกล้ามเนื้อระหว่างกระดูกซี่โครงนี้หดตัวทันที ส่งผลให้เกิดการหายใจเข้าทันที ตามด้วยฝากล่องเสียงปิดตามทันทีหลังหายใจเข้าผ่านกล่องเสียง จึงเกิดเป็นเสียงขึ้นมา จะเกิดขึ้นประมาณ 4-60 ครั้งต่อ 1 นาที โดยทั่วไปแล้วอาการสะอึกจะหายไปได้เองภายในระยะเวลาเป็นนาทีหรือเป็นชั่วโมง
สาเหตุของอาการสะอึก
โดยทั่วไปแล้วอาการสะอึกเป็นอาการปกติทั่วไป โดยมีสาเหตุหรือปัจจัยเสี่ยงที่พบได้บ่อยๆ เช่น
หายใจเอาควันต่างๆ เข้าไป
กินอาหารเร็วเกินไป กินมากเกินไป หรืออิ่มมากจนเกินไป
กินอาการที่ทำให้มีก๊าซมาก
กินอาหารรสจัด เช่น เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวาน จัด
มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของกระเพาะอาหารทันที เช่น กินอาหารร้อนจัด หรือ ดื่มเครื่องดื่มเย็นจัด เมื่อท้องว่าง
ดื่มเครื่องดื่มพวกที่ทำให้เกิดแก๊สหรือฟอง อย่างเช่น น้ำอัดลมหรือเบียร์
การสูบบุหรี่จัด หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
มีก้อนในบริเวณลำคอ เช่น คอพอก
ผลข้างเคียงมาจากยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัดรักษาโรคมะเร็ง
อาการสะอึกอาจสัมพันธ์กับปัญหาทางจิตใจและอารมณ์ เช่น ตื่นเต้น เครียด กังวล ซึมเศร้า กลัว เหล่านี้ก็อาจเป็นสาเหตุของการสะอึกได้
วิธีแก้อาการสะอึก
อย่าง ที่กล่าวมาแล้วว่าอาการสะอึกจะหายไปได้เอง ไม่จำเป็นต้องรักษา แต่ก็มีวิธีการทางภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ที่อาจช่วยให้อาการสะอึกหายได้เร็ว ขึ้น โดยเชื่อว่าวิธีการเหล่านี้สามารถขัดขวางการรีเฟล็กซ์ที่ทำให้เกิดอาการ สะอึกได้ เช่น
สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกลั้นหายใจไว้สักพัก นับ 1-10 จากนั้นหายใจออก แล้วดื่มน้ำตามทันที หรือกั้นหายใจไว้ แล้วกลืนน้ำลายให้ได้ 3 ครั้ง แล้วหายใจตามปกติ หรืออีกวิธีให้แหงนหน้า แล้วกลั้นหายใจ นับ 1-10 จากนั้นให้หายใจออกทันที แล้วดื่มน้ำตาม 1 แก้ว
การ หายใจเข้าออกในถุงปิดหรือถุงกระดาษ โดยเอาถุงมาครอบปากและจมูก แล้วหายใจในถุง ทนไว้ซักพักจนเริ่มไม่ไหว หายใจหอบสั้นๆ ประมาณ 1-2 นาที อาการสะอึกก็จะหายไป หรือให้ใช้มือป้องปากและปิดจมูกไว้ แต่ยังหายใจต่อเรื่อยๆ ตามปกติ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยระงับอาการสะอึกได้ เนื่องจากได้รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปมากขึ้นนั่นเอง
ดื่มน้ำ ถูกวิธีก็ช่วยแก้สะอึกได้ !! มีหลายวิธีเช่น การดื่มน้ำรัวๆ 9 อึก การจิบน้ำจากแก้วเร็วๆ หลายๆ อึก ติดๆ กัน หรือจิบน้ำเย็นจัดหรือน้ำดื่มน้ำเย็นจัดช้าๆ ตลอดเวลาและกลืนติดๆ กันไปเรื่อยๆ จนกว่าอาการสะอึกจะหาย หรือจนกลั้นหายใจไม่ได้
ให้ก้ม โน้มตัวไปข้างหน้าในระดับเอวแล้วดื่มน้ำจากขอบแก้วด้านตรงข้ามหรือด้านที่ ไกลจากริมฝีปาก (ให้ใส่น้ำให้เต็มแก้วนะครับแล้วค่อยๆ ดื่มจากขอบแก้ว) เห็นว่าหลายคนใช้วิธีนี้แล้วได้ผลมากๆ หรืออีกวิธีที่ง่ายกว่าให้อมน้ำไว้ คางชิดอก แล้วพยายามกลืนน้ำที่อมไว้ รอบเดียวรู้เรื่อง !!
กิน ของเปรี้ยวจัด เช่น น้ำมะนาว 100% โดยบีบมะนาวให้ได้สัก 1 ช้อนชา แล้วนำมาจิบแก้สะอึก หรือกลืนน้ำส้มสายชูหมักจาแอปเปิ้ลสัก 1 ช้อนชา ซึ่งวิธีเหล่านี้จะช่วยจู่โจมปุ่มรับรสและทำให้หายสะอึกได้อย่างรวดเร็ว
กิน น้ำตาลทรายเม็ดโดยไม่ดื่มน้ำตาม จากการศึกษาของมหาวิทยาลับมิชิแกน สหรัฐอเมริกา พบว่า การกลืนน้ำตาลทรายเปล่าๆ 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่ต้องใช้น้ำ) สามารถช่วยแก้อาการสะอึกได้ถึง 19 คน จากจำนวน 20 คน !!
นอกจาก กลืนน้ำตาลที่ใช้ได้ผลดีแล้ว การกลืนก้อนข้าว ก้อนขนมปังหรือเคี้ยวขนมปังแห้งๆ ก้อนน้ำแข็งเล็กๆ หรือกลืนน้ำแข็งบดละเอียดก็ช่วยได้เหมือนกัน
ลองเนยถั่ว 1 ช้อนชาแบบพูนๆ ระหว่างที่เคี้ยวและดุนให้เนยถั่วเหนียวๆ หลุดจากลิ้นและฟัน รูปแบบการกลืนกับการหายใจจะถูกขัดจังหวะ และอาจทำให้อาการสะอึกหายไปได้
ใช้ นิ้วมืออุดหูประมาณ 20-30 วินาที หรืออุดหูไปด้วยแล้วดูดน้ำจากหลอดไปด้วย หรืออีกวิธีให้กดผิวเนื้อนุ่มๆ ด้านหลังติ่งหูบริเวณที่ต่อจากกระโหลดศีรษะ วิธีนี้จะช่วยส่งสัญญาณผ่อนคลายผ่านเส้นประสาทเวกัส (Vagus nerve) ซึ่งเป็นส่วนที่ทอดยาวจากก้านสมองและเชื่อมต่อกับบริเวณกระบังลม
ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับลิ้นแล้วดึงออกมาข้างหน้า หรือแลบลิ้นออกมายาวๆ เพื่อช่วยเปิดหลอดลมที่ปิดอยู่
ใช้ นิ้วชี้กับนิ้วโป้งบีบจมูกค้างไว้แล้วดื่มน้ำเข้าไปประมาณ 7 อึก (หรือจนกว่าจะกลั้นหายใจไว้ไม่ไหว) โดยที่ยังบีบจมูกไว้จนรู้สึกว่าลมดันออกที่หู เขาบอกว่าทำแบบนี้ไม่เกิน 3 ครั้ง หายชะงัดนัก !
กดจุดแก้สะอึก เป็นเคล็ดลับทางการแพทย์แผนจีน ก่อนกดจุดให้นั่งหลังตรงหรือนอนหงาย จากนั้นใช้นิ้วโป้งกดลงที่หัวคิ้วพร้อมกันทั้งสองข้าง (จุดจ่านจู๋) ส่วนที่เหลืออีกสี่นิ้วให้จับหัวไว้ ให้กดเบาๆ ก่อนแล้วค่อยๆ แรงขึ้น โดยกดแบบเบาสลับหนักค้างไว้จนกว่าจะหายสะอึก ทำประมาณ 3-6 นาที พอหายสะอึกจึงหยุดกด
กด จุดโดยใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งบีบตรงเนินเนื้อที่อยู่ต่อจากนิ้วโป้งของมืออีก ข้างหนึ่งไว้ ยิ่งแรงยิ่งดี หรืออีกวิธีหนึ่งให้กดจุดบริเวณร่องเหนือริมฝีปาก เพราะแรงกดบีบจะช่วยเบี่ยงเบนระบบประสาทของคุณจากอาการสะอึกได้
นวดเพดานปาก
เขี่ยภายในรูจมูกให้จาม แล้วจะหายสะอึกทันที !!
กำหนด ลมหายใจเข้า-ออกปกติ พยายามเพ่งไปที่ลมหายใจอย่างเดียว แล้วจะสังเกตว่าระยะการสะอึกจะต่อยๆ ยาวขึ้นๆ ช่วงแรกๆ จะยังสะอึกอยู่บ้าง เมื่อทำไปเรื่อยๆ อาการสะอึกจะหายไปเอง
การทำให้ตกใจ เช่น ตบหลังแรงๆ โดยไม่ให้รู้ตัวมาก่อน หรือทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง เช่น โกรธ ตื่นเต้น หรือกลัว หรือทำการเบี่ยงความสนใจ เช่น ถามว่า “น้ำเต้าหู้ทำมาจากอะไร?” อะเมซิ่งมาก มันหายจริงๆ !
การดมสารที่มีกลิ่นฉุน เช่น แอมโมเนีย
ถ้าเป็นเด็กอ่อนหรือทารกสะอึกก็ควรอุ้มพาดบ่าใช้มือลูบหลังเบาๆ ให้เรอ
ส่วน วิธีอื่นๆ ที่ใช้แล้วอาจได้ผลก็มีหลายวิธี เช่น บ้วนปาก, เคี้ยวหัวข่าแก่ๆ กินน้ำ, คาบปากกาไว้แล้วดื่มน้ำ, กินซอสเผ็ดๆ, กลืนน้ำผึ้งผสมน้ำอุ่น (น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา), กลืนผงโกโก้หรือโอวัลติน, ค่อยๆ เคี้ยวแล้วกลืนเมล็ดผักชีลาว, ใช้กระดาษเช็ดมือปิดฝาแก้วที่บรรน้ำดื่ม แล้วพยายามดื่มน้ำ (เมื่อคุณใช้แรงดูดน้ำผ่านกระดาษจะทำให้กระบังลมต้องออกแรงมากขึ้น จึงช่วยต้านอาการกระตุกของกล้ามเนื้อได้)
การ สะอึกถ้าเป็นติดต่อกันหลายวัน ถือเป็นอาการไม่ปกติ คุณควรไปพบแพทย์ เพราะอาจมีสาเหตุมาจากโรคอื่นๆ ได้ เช่น มีความผิดปกติทางสมอ การเป็นโรคทางเดินอาหาร การเป็นอัมพาต การอักเสบในช่องท้องบริเวณกะบังลม โรคหลอเลือดสมองตีบ ฯลฯ แต่ส่วนมากผู้ป่วยที่มาพบแพทย์ด้วยการสะอึกเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ก็เนื่องมาจากมีอาการผิดปกติทางสมองหรือเป็นอัมพาต ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถให้ยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการสะอึกได้