ถั่วดาวอินคา

“ถั่วดาวอินคา” ได้มีการทดลองปลูกในทวีปเอเชียที่แรกคือ ประเทศจีน ได้ปลูกในเมืองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน และก่อตั้งเป็นโรงงานอุตสาหกรรมสำหรับหีบน้ำมันจากถั่ว ดาวอินคาขึ้นที่มณฑลยูนนาน แต่ผลผลิตถั่วดาวอินคาในประเทศจีนยังน้อยไปซึ่งไม่พอต่อความต้องการผลิตน้ำมันถั่วดาวอินคา จึงได้มีการส่งเสริมการปลูกถั่วดาวอินคาให้กับเกษตรกรไทย เนื่องจากประเทศไทยมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม และสภาพภูมิประเทศที่ไม่แตกต่างจากประเทศจีน จึงมีการขยายฐานการปลูกมายังประเทศไทย โดยเริ่มนำเข้ามาทดลองปลูกร่วมกับ นัก วิชาการในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในหลายพื้นที่ หลังการทดลองปลูกเพียง 1 ปี พบว่าถั่วดาวอินคา เจริญเติบโตได้ดีในประเทศไทย จึงนำไปส่งเสริมให้กับเกษตรกรในหลายพื้นที่ปลูก เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพะเยา จังหวัดเชียงราย เป็นต้น ปัจจุบันนี้ถั่วดาวอินคามีได้มีการปลูกมากขึ้นในหลายภาคของประเทศไทย คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน

ลักษณะทั่วไปของถั่วดาวอินคา

ถั่วดาวอินคา (Sacha Inchi) เป็นพืชตระกูลถั่ว เป็นไม้เลื้อยที่มีลักษณะลำต้นใหญ่ อายุยืนนับสิบปี มีผลเป็นฝักมักจะมี 4-6 แฉก รูปคล้ายดาว ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อผลแก่แห้งจะเป็นสีน้ำตาล ถั่วดาวอินคาเป็นพืชที่ให้ผลเร็วมาก ใช้ระยะเวลาปลูกประมาณ 4-6 ก็สามารถให้ผลผลิตได้แล้ว และสามารถให้ผลผลิตได้เป็นระยะเวลายาวนานถึง 15-50 ปี จากการปลูกเพียงครั้งเดียว

ประวัติความเป็นมาของถั่ว Inca (Sacha inchi)

อาณาจักรอินคา ดินแดนแห่งสถาปัตยกรรมและอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ในทวีปอเมริกาใต้ .... ผ่านมากว่า 3000 ปี ได้มีการค้นพบครั้งสำคัญของมนุษยชาติ ที่ทำให้ผู้คนมีอายุยืนยาวและสมองอัญชาญฉลาดโดยมีหลักฐานจากการขุดค้นพบทางโบราณคดีในสุสานของกษัตริย์และผู้นำในยุคนั้น ได้มีเมล็ดพันธุ์พืชที่มีความมหัศจรรย์อยู่ด้วย ซึ่งทั่วโลกขนานนามว่า "ราชาเมล็ดอายุวัฒณะ" มีชื่อสามัญว่า "Sasha Inchi" หรือ "ถั่วดาวอินคา"

เมล็ด Sacha Inchi ถูกนำมาใช้ในการบำรุงรักษาอย่างใดอย่างหนึ่งของอารยะธรรมที่ทันสมัย​​ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่า Inca เชื่อว่าเป็นพืชที่ได้ใช้โดย Incas มากกว่า 3000 ปีที่ผ่านมาซึ่งจะเห็นได้จากหลักฐานของพืชบนเรือในสุสาน Incan

Sacha inchi มีการใช้แบบดั้งเดิมของชุมชนใน Amazon ในอาหารที่แตกต่างกันเช่น ซุปในระดับภูมิภาคและเมล็ดสุกที่เป็นส่วนผสมในซอส น้ำมันและเมล็ดคั่วเป็นส่วนผสมอาหารที่พบโดยทั่วไปในเมืองและทั่วป่าเปรู นอกจากนี้ยังใช้ภายนอกโดยคนเปรูเป็นครีมฟื้นฟูที่ใช้บนผิวหนังสมบัติของ Amazon นี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานซึ่งตอนนี้คุณสามารถมีการเข้าถึงในรูปแบบของ SaviSeed การชิมที่ดีที่สุดแหล่งที่ร่ำรวยที่สุดของโอเมก้า 3

Sacha Inchi เป็นพืชจากป่าอะเมซอนของชาวเปรู พืชชนิดนี้เติบโตในสภาพอากาศอุ่น (10 ° C Min - 36 ° C max) ลักษณะที่ดีสำหรับการปลูกถั่ว Inca จะเจริญเติบโตในระดับความสูงตั้งแต่100 เมตร (ป่าต่ำ) ถึง 2000 เมตร(ป่าสูง) จากระดับน้ำทะเล ช่วงชีวิตของถั่ว Inca มีอายูถึง 10-50 ปี พืชมีผลไม้ที่มีรูปร่างที่แปลกประหลาดที่เหมือนดาว เมื่อสกัดเมล็ดจะมีน้ำมัน หลังจากการสกัดน้ำมันที่"เค้ก"แล้วจะได้แป้งและโปรตีนที่มีคุณค่าทางชีวภาพสูง

ลักษณะของพันธุ์พืชถั่ว Inca (Sacha inchi)

ถั่ว Inca (Sacha inchi)เป็นพืชตระกูล : Euphorbiaceae

สายพันธุ์: Plukenetia

สปีชี่ : Linneo Volubilis

ชื่อสามัญ : Sacha inchi, Sacha inchic, Sacha mani, Inca peanut (ถั่วลิสง Inca)

ภาษาท้องถิ่น : เรียกอีกชื่อว่า องุ่นสีเขียว หรือ แบริ่ง

เมล็ดจากต้นถั่วดาวอินคา เมื่อแก่เต็มที สามารถเอาเมล็ดมาสกัดออกมาเป็นน้ำมันได้ น้ำมันที่ได้ออกมามีองค์ประกอบ มีสูงโปรตีน (27%) และน้ำมัน (35 - 60%) และในน้ำมันยังอุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น

1.โอเมก้า 3 กรดไลโนเลนิ (45-53%ของปริมาณไขมัน)

2.โอเมก้า 6 กรดไลโนเลอิก (34-39% ของปริมาณไขมัน)

3.โอเมก้า 9 (6-10% ของปริมาณไขมัน)

4.ยังอุดมไปด้วยไอโอดีน

5.วิตามิน เอ

6.วิตามิน อี

น้ำมันจากเมล็ดถั่วดาวอินคา ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติสำหรับรสชาติและคุณสมบัติทางด้านสุขภาพ ในเดือนมิถุนายนปี 2007 น้ำมันถั่วดาวอินคา ได้รับรางวัลMedaille (เหรียญทอง)ในการแข่งขันอาหารพิเศษสินค้าโภคภัณฑ์ AVPA

น้ำมันถั่วดาวอินคาได้รับการเรียกว่า Super food เพราะมีคุณสมบัติสูงมีกรดไขมันที่จำเป็น น้ำมันที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่รุนแรง

Sacha inchi เป็นพืชที่มีสองเพศในต้นเดียวกัน โดยดอกของต้นถั่วดาวอินคามี 2 เพศ มีลักษณะต่างกัน ดอกตัวผู้มีขนาดเล็กสีขาวและอยู่เป็นกลุ่ม ดอกเพศเมียจะอยู่ที่ ฐานของช่อดอก หลังจากผสมเกสรจะเริ่มติดฝัก ฝักขนาดเต็มวัยจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3-5ซม.

สีเขียวสดใสเมื่อหนุ่มและมีสีน้ำตาลเข้มเมื่อฝักแก่เต็มที่ ที่ฝักมักจะมี 4-6 แฉก จะมีเมล็ดอยู่ในแฉก หนึ่งเมล็ดพันธุ์กว้างประมาณ 15 ถึง 20 มม. ,หนาประมาณ 7-8 มม. น้ำหนักของเมล็ดพันธุ์จะอยู่ประมาณ 0.8 - 1.4 กรัม เมล็ดอุดมไปด้วยสารอาหารและกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายมนุษย์

ถั่ว Inca (Sacha inchi) หรือ ภาษาท้องถิ่นเรียกอีกชื่อว่า “องุ่นสีเขียว”หรือ “แบริ่งฝัก” (Twining) เป็นไม้เถา

ทรงพุ่ม เจริญเติบโตในแถวในระดับความสูง 2-3 เมตร เป็นพืชที่ต้องการแสงแดดและความชื้นสูง

ผล Sacha inchi เป็นรูปดาว หนุ่มเป็นฝักสีเขียวและมีสีน้ำตาลเข้มเมื่อฝักแก่เต็มที่ มีเปลือกที่ครอบคลุม

เมล็ดใน 3 ชั้น 1 ฝักมีเมล็ด 3-7 เมล็ด

การเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวพืชเมือปลูกถั่ว Inca (Sacha inchi) เพียงแค่ 7-8 เดือน หลังการเก็บเกี่ยว พืช Sacha inchi ครั้ง แรกก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตพืชหลายต่อหลายครั้งตลอดทั้งปีและขึ้นอยู่กับการ ดูแลเอาใจใส่ของผู้ปลูก สามารถให้ผลผลิตได้นานนับสิบปี(จากสถิติของประเทศเปรูสามารถเก็บผลผลิตได้ถึงห้าสิบปีขึ้นไป)

ลักษณะพิเศษของถั่วอินคา Sacha Inchi

จากงานวิจัยหลายๆสถาบันพบว่า ถั่วดาวอินคาเป็นพืชที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงมาก เพราะอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น มีวิตามิน A และ E อีกทั้งมีกรดไขมันโอเมก้า 3 6 และ 9 ในปริมาณที่สูงมาก (ปกติเราจะพบพบมากในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาแม็คเคอเรล ปลาทูน่า) แต่ครั้งนี้ถือเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่สำหรับ โอเมก้า 3 6 และ 9 ที่อยู่บนพื้นดิน จากถั่วดาวอินคา ซึ้งมีปริมาณที่สูงมากสูงมากอีกด้วย

งานวิจัยใหม่ที่เน้นประโยชน์ต่อสุขภาพของกรดไขมันโอเมก้า, ให้ความสนใจในแหล่งที่ยั่งยืนของโอเมก้าเพิ่มขึ้น น้ำมัน ถั่วดาวอินคาถูกนำมาใช้ในอาหารมังสวิรัติเพราะเพื่อให้ได้มากรดไขมันโอเมก้า 3

ประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำมันจากถั่วดาวอินคา

1.ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล LDL

2.ป้องกันการแข็งตัวของเลือด โดยการรักษาระดับไขมันอิ่มตัวในกระแสเลือด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและความดันเลือดสูง

3.ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และป้องกันความดันโลหิตสูง

4.ในโรคเบาหวาน / ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการซึมเศร้า / สุขภาพจิตแจ่มใส

5.รักษาความลื่นไหลและความแข็งแกร่งของเยื่อหุ้มเซลล์

6.ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดโรคไขข้อ

7.ช่วยดูแลโรคผิวหนัง หอบหืด แผล ไมเกรน ต้อหิน

8.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมความดันตาและเส้นเลือด

9.การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันหน้าที่เป็นสื่อกลางขนส่งออกซิเจนเครือข่ายจากเซลล์ของเลือดไปยังเนื้อเยื่อของไตทำงานให้เหมาะสม

จากเหตุผลดังกล่าวทำให้การปลูกถั่วดาวอินคา ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงตามไปด้วย เพราะมีประโยชน์มากและความต้องการของตลาดสูงมาก เนื่องจากคุณสมบัติดังกล่าวสามารถนำไปผลิต อาหารเสริม ยารักษาโรคและเครื่องสำอาง ซึ่งปัจจุบันตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีความต้องการสูงมาก

ข้อดีของถั่ว Inca (Sacha inchi)

Sacha Inchi เป็นพืชที่มีอายุยืนยาว สามารถให้ผลผลิตที่มีความยาวนาน 15 - 50 ปี

ผลผลิต Sacha Inchi สามารถให้ผลผลิตสูงมากกว่า 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่ของผู้ปลูก และให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกพืชต่อไร่

Sacha Inchi จะเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาของ Sacha Inchi จะต่ำกว่าการผลิตพืชน้ำมันชนิดอื่น ๆ เพราะจะเน้นการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ปลอดสารพิษเท่านั้น

ด้านอุตสาหกรรม

เมล็ดถั่วดาวอินคา มีปริมาณน้ำมันสูงมากกว่า 50% โดยวิธีการสกัดเย็น ไม่ต้องใช้การกลั่น มีความเข้มข้นของกรดไขมันที่จำเป็นสูงและมีโอเมก้า 3,6,9 มีสารต้านอนุมูลอิสระวิตามิน A และวิตามินอี (อัลฟาโทโคฟีรอ) เป็นโปรตีนสูงและอุดมด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่มีความสำคัญต่อสุขภาพที่ดี ถั่วดาวอินคา มีน้ำมันมีความเข้มข้นสูงกว่าธรรมชาติของกรดไขมันจำเป็น (84%) โอเมก้า 3 6 9 มากกว่า 48%

ด้านโภชนาการ

ถั่วดาวอินคา เป็นน้ำมันที่ไม่เป็นพิษหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หรือมีข้อจำกัด ในการบริโภคของมนุษย์ น้ำมันถั่วดาวอินคา ได้รับรางวัลเหรียญทองของคุณภาพที่ดีเยี่ยมระดับโลก ในการแข่งขันในปารีสในปี 2004

สำหรับน้ำมันชนิดอื่น ๆ ที่อุดมไปด้วย Obega 3, เช่น ลินซีดและ perilla, ซึ่งประกอบด้วยสารพิษและดังนั้นจึงไม่ได้รับอนุญาตที่จะใช้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ในบางประเทศ แต่น้ำมันถั่วดาวอินคา นอกจากจะมีความเข้มข้นสูงของน้ำมันแล้ว, เมล็ดถั่วดาวอินคา ยังมีโปรตีนที่มีคุณภาพและมีอุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อ 96% ซึ่งช่วยทำให้ระบบย่อยได้ง่ายขึ้นมาก

ด้านสิ่งแวดล้อม

ถั่วดาวอินคาเป็นพืชป่า มีต้นกำเนิดอยู่ในป่าอะเมซอนซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกมากกว่าผลกระทบเชิงลบเมื่อเทียบกับพืชน้ำมันอื่น ๆ ถั่วดาวอินคาเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีอายุยืนยาว เทียบไม้ยืนต้นหลายชนิดได้ ซึ่งจะช่วยรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี สามารถส่งเสริมการปลูกป่าของชุมชนได้อีกด้วย

ด้านเศรษฐกิจ

ถั่วดาวอินคา (Sacha Inchi) เป็นพืชที่มีอายุยาวนานและให้ผลผลิตต่อเนื่อง 15 - 50 ปีต่อการปลูก 1 ครั้ง เก็บเกี่ยวได้ตลอดปี ให้ผลผลิตสูงประมาณ 800-1,200 กก./ไร่ (ขึ้นอยู่กับการดูแล) และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับพืชอื่นๆต่อไร่ ถั่วดาวอินคา (Sacha Inchi) จะเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ดูแลง่าย ต้นทุนต่ำ ค่าใช้จ่ายในการดูแลต่ำ กว่าการผลิตพืชน้ำมันชนิดอื่น ๆ ผลผลิตของเมล็ดพันธุ์ที่สูงขึ้นต่อไร่ ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันที่สูงขึ้นของเมล็ด และความสะดวกของการเก็บเกี่ยวจะช่วยให้อุตสาหกรรมถั่วดาวอินคา มีข้อได้เปรียบมากกว่าการพืชน้ำมันอื่น ๆ ที่ใช้ในการผลิตน้ำมันและโปรตีนสำหรับมนุษย์บริโภคเครื่องสำอางและ ผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกมามาย

ด้านประโยชน์ต่อสุขภาพ

จากผลการวิจัยล่าสุดได้แสดงให้เห็นถั่วดาวอินคา เป็นน้ำมันที่มีความหลากหลาย มีประโยชน์ต่อสุขภาพของมนุษย์เป็นอย่างมาก น้ำมันถั่วดาวอินคามี โอเมก้า 3, 6 และ 9 ที่อยู่ในน้ำมันถั่วดาวอินคา จะช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล LDL, และ ป้องกันการแข็งตัวของเลือด โดยการรักษาระดับไขมันในกระแสเลือด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันเลือดสูง ช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์และความดันโลหิตสูง ป้องกัน การเป็นโรคเบาหวาน / ลดน้ำหนักควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการซึมเศร้า / สุขภาพจิตแจ่มใส รักษาความแข็งแกร่งของเยื่อหุ้มเซลล์ ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดโรคไขข้อ รักษาโรคผิวหนัง หอบหืด แผล ไมเกรน ต้อหิน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ควบคุมความดันและของเส้นเลือดและการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน หน้าที่เป็นสื่อกลางขนส่งออกซิเจนเครือข่ายจากเซลล์ของเลือดไปยังเนื้อเยื่อ รักษาไตทำงานที่เหมาะสมและการไหลของและอื่น ๆ

น้ำมันจากเมล็ดถั่วดาวอินคา ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติสำหรับรสชาติและคุณสมบัติทางด้านสุขภาพ จนได้รับรางวัลเหรียญทอง ในเดือนมิถุนายนปี 2007 น้ำมันถั่วดาวอินคา ได้รับรางวัล Medaille Award (รางวัลเหรียญทอง) ในการแข่งขันอาหารพิเศษสินค้าโภคภัณฑ์ AVPA (กระบวนการสกัดนวัตกรรมเทคโนโลยี)

ถั่วดาวอินคา มี Omega 3, 6, 9 และ Vitamin A,E

โอเมก้า 3, 6, 9 ที่มีอยู่ในน้ำมันของเมล็ดถั่วอินคานั้น จะเป็นตัวช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล และป้องกันการแข็งตัวของเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตในร่างกาย หัวใจ สมอง ตับ ไต และอวัยวะอื่น ๆ ทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะช่วยฟื้นฟูตับ ให้ทำงานดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง

โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคไขข้อเสื่อม มีประโยชน์ต่อระบบสายตา (วิตามิน A)

และประสาท พัฒนาสมองสามารถช่วยผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคประสาท ไมเกรน

รักษาโรคผิวหนัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน(วิตามิน E) ช่วยให้ผิวพรรณผ่องใสและเนียนนุ่ม ช่วยบรรเทา

อาการปวดประจำเดือน ช่วยอาการโรคต่อมลูกหมากโตในผู้สูงอายุ เหมาะที่สุดในการบำรุงตับให้

มีประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น และยังเหมาะสำหรับผู้ทานมังสวิรัติที่ต้องการโอเมก้า 3,6,9 โดย

ไม่ต้องรับประทานน้ำมันจากปลา

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของถั่วดาวอินคา โอเมก้าบนดิน 3,6,9

ทำไมต้องปลูกถั่วดาวอินคา

ทำไมต้องปลูกถั่วดาวอินคา

เบื้องต้นเราคงทราบกันแล้วว่าถั่วดาวอินคามีประโยชน์มากมายโดยเฉพาะ โอเมก้าบนดิน 3 6 9 และวิตามิน A E ที่ยอมรับกันทั่วโลกแล้ว มาดูกันว่าถั่วดาวอินคาทำอะไรได้อีกบ้าง

เริ่มจากยอดของต้นถั่วดาวอินคา

หลังจากที่เราปลูกต้นถั่วดาวอินคาได้สักระยะหนึ่งหรือที่ความสูงประมาณ 2 เมตร เราจะทำการเด็ดยอดอ่อนของต้นถั่วดาวอินคาเพื่อให้ต้นถั่วดาวอินคาแตกยอดใหม่

ยอดของถั่วดาวอินคาที่ได้ สามารถนำไปประกอบอาหาร นำมาผัดกันน้ำมันหอย มีรสชาติอร่อย มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีโอเมก้า3 6 9 และวิตามิน A E ช่วยบำรุงร่างกายได้อีกด้วย

ใบของถั่วดาวอินคา

ใบของต้นถั่วดาวอินคา สามารถนำไปต้มหรือตากแห้งทำเป็นชาหรือนำไปสกัดเป็นคลอโรฟิลล์ ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าคลอโรฟิลล์ ทั่วๆไปถึง 200 เท่า หรือสกัดน้ำจากใบเป็นน้ำเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย

เมล็ดถั่วดาวอินคา

เมล็ดนิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมัน โดยใช้วิธีสกัดเย็น ซึ่งมีประโยชน์สำหรับร่างกายมนุษย์เป็นอย่างมาก จึงได้ชื่อว่า เป็นยาอายุวัฒนะเลยก็ว่าได้ เพราะมีโอเมก้า 3 6 9 และวิตามิน A E (นำมาบรรจุแคปซูล) ซึ่งเป็นที่นิยม รับประทานกันอย่างแพร่หลาย, นำมาประกอบอาหารหรือทำน้ำสลัด เพื่อบริโภค ทางด้านความงามและอาหารเสริม เช่น โฟม สบู่ ครีมบำรุงผิว โลชั่น เป็นต้น ซึ่งสินค้าและน้ำมันจากถั่วดาวอินคา เป็นที่ต้องการของต่างประเทศเป็นอย่างมาก

เปลือกของถั่วดาวอินคา

เปลือกที่หุ้มเมล็ดถั่วดาวอินคาที่กระเทาะออกมาแล้วสามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์หรือจะอัดก้อน ใช้เป็นพลังงานความร้อนชีวมวล , ผสมเป็นอาหารไก่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการทดลองผสมให้ไก่กิน ปรากฎว่า ไก่เจริญเติบโตสมบูรณ์มาก

ต้นถั่วดาวอินคาหรือต้นเศรษฐี sacha inchi มีมากว่า 3,000 ปี ต้นกำเนิดจากประเทศเปรู ในทวีปอเมริกาใต้ ต่อมาได้มีการตกลงแลกเปลี่ยนสินค้าและเมล็ดพันธุ์กับประเทศจีน ซึ่งประเทศจีนก็ได้นำเมล็ดพันธุ์เข้ามาทดลองปลูกทางภาคเหนือของไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า สะดวกในการดูแลและการขนส่ง รวมทั้งสภาพอากาศที่เหมาะสม ต่อมาก็เริ่มแพร่หลาย สู่ภาคอีสานและภาคกลางของไทย จวบจนถึงทุกวันนี้ก็เริ่มมีการปลูกกันอย่างแพร่หลายในหลายๆประเทศ

สภาพแวดล้อมและวิธีปลูก

-ต้นถั่วดาวอินคา ปลูกง่าย ตายยาก ปลูกได้ในทุกภาคของประเทศไทย ทนแล้ง ไม่ชอบน้ำมาก ศัตรูพืชรบกวนน้อยมาก

-ปลูกโดยระบบเกษตรอินทรีย์เท่านนั้น (ไม่ใช้สารเคมี)

-ต้นมีอายุยืนยาวตั้งแต่ 15-50 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแล ปลูกครั้งเดียวดูแลเก็บเกี่ยวถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน

-ระยะห่างระหว่างต้น 2 x 3 เมตร เพราะต้นถั่วดาวอินคาเป็นไม้เลื้อยและชอบอากาศโปร่ง 1 ไร่ควรปลูกประมาณ 200-250 ต้น (ควรเว้นทางเดินประมาณ 3 เมตร) 1 ไร่ใช้ 200-250 เมล็ดโดยประมาณ

-ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 8-10 เดือน นับจากลงกล้าปลูก (ให้ผลตอบแทนที่สูงมากเมื่อเทียบกับพืชเกษตรอื่นต่อไร่และดูแลง่าย)

-เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น ยอด ใบ เมล็ด

-ถั่วดาวอินคานอกจากจะเก็บผลผลิตขายแล้ว เกษตรสามารถเพิ่มมูลค่าโดยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆได้มากมายอีกด้วย

ตลาดซื้อ-ขาย สำหรับการขายเมล็ดตากแห้ง สามารถขายได้ 2 แบบ

ขายฝักแห้ง (ไม่กระเทาะเปลือก) กิโลกรัมละ 20-30 บาท

ขายเมล็ด (แบบกระเทาะเปลือก) กิโลกรัมละ 40-60 บาท

เมื่อเทียบกับพืชเศรษฐกิจตัวอื่นๆ ต้นถั่วดาวอินคา จะให้ผลตอบแทนต่อไร่ที่สูงกว่าพืชตัวอืนๆมากและปัจุบันตลาดมีความต้องการผลผลิตเป็นอย่างมากและก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด เพราะประโยชน์ที่หลากหลายและการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงทำต้นถั่วดาวหรือ sacha inchi เป็นที่ต้องการของตลาดโลกและตลาด AEC เป็นอย่างมาก ปลูกเพียงไม่ถึงปีก็สามารถเริ่มเก็บผลผลิตขายได้แล้ว จึงเป็นที่มาชื่อต้นต้นเศรษฐี โอเมก้าบนดิน ซึ่งลงทุนในระยะเวลาที่สั้น แต่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ยาวนานเป็นสิบๆปี

จะเห็นได้ว่าประโยชน์ต้นถั่วดาวอินคาหรือต้นเศรษฐี sacha inchi มีประโยชน์ทุกๆส่วน แถมมีอายุยืนยาว จึงเป็นพืชเศรษฐ์กิจที่มีความสำคัญที่ภาครัฐและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่จะต้องให้ความรู้และให้การสนับสนุน ทางด้านการเพาะปลูก การแปรรูป การตลาดเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรไทยที่จะต้องแข่งขัน สินค้าทางด้านการเกษตรได้และเพื่อที่รองรับตลาด AEC ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้

ดังนั้นถั่วดาวอินคาถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ ลงทุนต่ำและลงทุนครั้งเดียว สามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 15-50 ปีต่อ 1 ไร่ สร้างรายได้สูงถึง 1 แสนบาทต่อปี ระยะเวลาเก็บเกี่ยว 6-8 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี ปีละ 4-6 รอบ ปลูกในระบบเกษตรอินทรีย์เท่านั้นจึงปราศจากเคมี ถั่วดาวอินคาไม่ได้ขายแค่เฉพาะเมล็ดเป็นหลักเท่านั้น แต่ใบสด ใบแห้ง ยอดอ่อน ก็สามารถขายได้เช่นกัน โดยนำใบไปทำเป็นใบชาหรือนำไปสกัดเป็นคลอโรฟิลล์ซึ่งมีคุณค่ามากกว่าคลอโรฟิลล์ทั่วๆ ไปถึง 200 เท่า เปลือกนำมาทำเป็นปุ๋ยเกษตรอินทรีย์หรือจะอัดก้อนใช้เป็นพลังงานความร้อน ชีวมวลได้อีกด้วย

ที่สำคัญถั่วดาวอินคาสามารถแปรรูปได้หลากหลาย จึงไม่จำกัดเฉพาะการขายผลผลิตเหมือนพืชอื่นทั่วไป

ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันถั่วดาวอินคา ชาถั่วดาวอินคา กาแฟถั่วดาวอินคา สบู่ถั่วดาวอินคา โลชั่น แชมพูถั่วดาวอินคา

นอกจากนี้ยังใช้เป็นวัตถุดิบในการทำเครื่องสำอางอื่นๆได้อีกมากมาย

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลว่าทำไมต้องปลูกถั่วดาวอินคา

Sacha Inchi ถั่วดาวอินคา ราชาเมล็ดอายุวัฒณะ

โอเมก้าบนดิน 3, 6, 9 และวิตามิน A,E

ถั่วดาวอินคา พืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ สำหรับเกษตรกรไทย

วิธีปลูกถั่วดาวอินคา

ดาวอินคาเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ที่น่าจับตามองอย่างมาก เพราะสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด และที่สำคัญมีโอเมก้า 3 6 9 ในปริมาณสูง

ซึ่งเป็นที่ต้องการของทั่วโลก ดาวอินคาเป็นพืชตระกูลถั่ว ที่ปลูกง่าย ไม่ชอบแสงแดดจัดมาก ไม่ชอบน้ำขัง ดูแลง่าย ให้ผลผลิตเร็ว 6-8 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้ อายุนานถึง 15-50 ปี ปลูกครั้งเดียวดูแลเก็บเกี่ยวถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน สามารถปลูกได้กับดินทั่วประเทศไทย จำนวนผลผลิตขึ้นอยู่กับการดูแล วิธีการปลูกที่ถูกต้องจะทำให้ได้ผลผลิตดี

สภาพแวดล้อมและวิธีปลูก

-ต้นถั่วดาวอินคา ปลูกง่าย ตายยาก ปลูกได้ในทุกภาคของประเทศไทย ทนแล้ง ไม่ชอบน้ำมาก ชอบชื้น ถ้าทำให้ดินมีความชื่นตลอดจะโตและให้ผลผลิตเร็วมาก ศัตรูพืชรบกวนน้อยมากถ้ามีให้ใช้น้ำส้มควันไม้ฉีด ห้ามใช้สารเคมีเด็ดขาด

การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคา

1. คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี เมล็ดใหญ่ เต็มเมื่อแกะดูข้างใน ไม่ลีบ หรือขึ้นรา (ลอยน้ำ)

2. เมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์ สีจะเข้ม น้ำหนักดี ใน 1 กิโลกรัม จะมีเมล็ด 700 - 850 เมล็ด

3. เมล็ดพันธุ์ที่จะงอกดี ควรมีอายุหลังเก็บจากต้นไม่เกิน 2 - 4 เดือน หลังจากนั้นอัตราการงอกจะลดลง

วิธีการเพาะต้นกล้าถั่วดาวอินคา

วิธีที่ 1

หลังจากคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคาที่ดีได้แล้ว นำเมล็ดพันธุ์ ไปแช่น้ำอุ่น (น้ำเย็น 2 ส่วน ต่อน้ำร้อน 1 ส่วน) 1 คืน เมื่อครบตามกำหนด ให้นำเมล็ดพันธุ์ที่แช่น้ำแล้วมาห่อด้วยผ้า (ผ้าต้องสะอาด) ใส่ภาชนะ หรือกระติกปิดฝา ทิ้งไว้ประมาณ 5 - 7 วันจะมีรากงอกสีขาวๆ ออกมาจากเมล็ดพันธุ์ นำเมล็ดฝังลงถุงชำไม่ต้องลึกมากประมาณ 1-2 นิ้ว รดน้ำให้แค่ชุ่มเท่านั้น และไม่ควรรดน้ำเยอะเกินไป เพราะจะทำให้เมล็ดเน่าได้ รดน้ำทุกวันพอชุ่ม ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมล็ดถั่วดาวอินคาจะเริ่มงอกออกมา ช่วงนี้รดน้ำอย่าให้ขาด ควรรดให้ดินชุ่มเท่านั้น อาจจะวันเว้นวัน อายุ 30 - 45 วันสามารถปลูกลงดินได้

วิธีที่ 2

หลังจากคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคาที่ดีได้แล้ว นำเมล็ดพันธุ์ ไปแช่น้ำอุ่น (น้ำเย็น 2 ส่วน ต่อน้ำร้อน 1 ส่วน) 1 คืน เมื่อครบตามกำหนด ให้นำเมล็ดพันธุ์ที่แช่น้ำแล้วมาเพาะในกระบะทราย จะมีรากงอก นำเมล็ดฝังลงถุงชำไม่ต้องลึกมากประมาณ 1-2 นิ้ว รดน้ำให้แค่ชุ่มเท่านั้น และไม่ควรรดน้ำเยอะเกินไป เพราะจะทำให้เมล็ดเน่าได้ รดน้ำทุกวันพอชุ่ม ประมาณ 1-2 สัปดาห์ เมล็ดถั่วดาวอินคาจะเริ่มงอกออกมา ช่วงนี้รดน้ำอย่าให้ขาด ควรรดให้ดินชุ่มเท่านั้น อาจจะวันเว้นวัน อายุ 30 - 45 วันสามารถปลูกลงดินได้

วิธีที่ 3

หลังจากคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ถั่วดาวอินคาที่ดีได้แล้ว นำเมล็ดพันธุ์ ไปแช่น้ำอุ่น (น้ำเย็น 2 ส่วน ต่อน้ำร้อน 1 ส่วน) 1 คืน เมื่อครบตามกำหนด ให้นำเมล็ดพันธุ์ที่แช่น้ำแล้วมาเพาะลงในถุงดำ วิธีนี้จะประหยัดขั้นตอน รากไม่หัก เสียหาย แต่อาจมีเมล็ดบางส่วนที่ไม่งอก ต้องคอยคัดแยก

หมายเหตุ - ในครั้งแรกที่แช่น้ำ เมล็ดถั่วจะลอย แต่เมื่อแช่ครบ 1 คืนเมล็ดที่จมจะงอก เมล็ดที่ลอบคัดทิ้งไป

- การห่อด้วยผ้า ควรต้มผ้าด้วยน้ำร้อน เพื่อฆ่าเชื้อ ลดการเกิดเชื้อราได้

- ไม่ควรปล่อยให้เมล็ดที่งอก อยู่ในผ้านานเกินไป รากจะยาว เวลาดึงอาจหัก เสียหายได้

- สามารถล้างเมล็ดพันธุ์ด้วยน้ำยาล้างจาน และล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อฆ่าเชื่อรา

- ช่วงอากาศเย็นและมีความชื้นมากในช่วง ฝน หนาว อาจจะงอกช้ากว่าปกติ และงอกไม่พร้อมกัน แต่จะทะยอยงอก

การเตรียมดินปลูก

-ไถดะ และตากดิน 15-30 วัน เพื่อให้วัชพืชที่กลบใต้ดินตาย (เป็นปุ๋ยอินทรีย์อีกทางหนึ่ง)

-ไถพรวนดินให้ละเอียด ไถให้ลึก แล้วทำการยกร่อง เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง ความกว้างของแต่ละร่อง ควรมีขนาด 1.5 - 2 เมตร

การเตรียมหลุมปลูก

-เตรียมหลุมสำหรับปลูก เนื่องจากต้นถั่วดาวอินคาเป็นพืชรากลอยหรือรากอากาศ ต้องการอากาศในการหายใจค่อนข้างเยอะ

-ถ้าลักษณะดินที่เตรียมไถได้ลึกและร่วนละเอียดดีแล้วแนะนำให้มูลดินโดยผสมดินกับปุ๋ยคอก หรือสารปรับปรุงดิน คลุกให้เข้ากัน มูลดินแล้วเจาะหลุมปลูก

-ถ้าลักษณะดินที่เตรียมไม่ได้ไถดะหรือพรวนให้ขุดหลุมอย่างน้อย 50 x 50 ซม. (กว้าง 50 x ลึก 50 ซม.) โดยแยกหน้าดินไว้ต่างหาก

แล้วนำหน้าดิน ผสมกับปุ๋ยคอก หรือสารปรับปรุงดิน คลุกให้เข้ากัน แล้วเทลงหลุม

-ระยะห่างระหว่างต้น 2 x 3 เมตร เพราะต้นถั่วดาวอินคาเป็นไม้เลื้อยและชอบอากาศโปร่ง 1 ไร่ควรปลูกประมาณ 200-250 ต้น (ควรเว้นทางเดินประมาณ 3 เมตร) 1 ไร่ใช้ 200-250 เมล็ดโดยประมาณ

การทำค้าง

ค้างคือเสาหรือไม้ยึด เพื่อให้ถั่วดาวอินคาเลื้อยจับ เนื่องจากถั่วดาวอินคาเป็นไม้เลื้อยและมีอายุที่ยืนยาวพอสมควร

วิธีทำค้างสำหรับถั่วดาวอินคาจึงจำเป็นต้องทำให้ได้มาตรฐาน แข็งแกร่ง ทนทาน และลดการทำงานที่ซ้ำซ้อน คำถามที่พบมากคือ สามารถใช้ไม้ได้ไหม คำตอบคือสามารถใช้ได้ แต่ระยะเวลาอาจจะไม่นาน และต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนเรื่อยๆ ในการเปลี่ยนแต่ละครั้งจะมีความยุ่งยากพอสมควร และอาจมีผลกระทบต่อต้นถั่วดาวอินคาได้

เพราะฉะนั้นการทำค้างจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของการปลูกถั่วดาวอินคา แนะนำลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนและการลงทุนครั้งเดียวคือ ใช้เสาปูนมาตรฐานในการทำค้าง ควรใช้เสาปูนสูง 2.50 เมตรขึ้นไป ปักลงดินลึก 50 ซม. ปักระยะ 2-4 เมตร / ต้น แล้วเสาควรทำรูปตัว T ขึงลวด 2 เส้น เพื่อให้มีพื้นที่ในการเลื้อยของยอดถั่วดาวอินคาเยอะขึ้น (พื้นที่เลื้อยเยอะ ยอดจะเยอะ ผลจะดก)

-นำต้นกล้าที่พร้อมปลูกมาฉีกถุงเพาะชำออกแล้ววางลงในหลุมปลูก ให้ระดับต้นกล้าตำกว่าปากหลุมเล็กน้อย

-รดน้ำให้ชุ่ม การให้น้ำ ให้สังเกตุความชื้น ให้ดินมีความชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะจนเกินไป นำหญ้าแห้งหรือฟางข้าวคลุมที่ลำต้น เพื่อช่วยเก็บความชื้นของดิน

การดูแลรักษา

-ต้นถั่วดาวอินคาให้ปลูกโดยระบบเกษตรอินทรีย์เท่านนั้น (ไม่ใช้สารเคมี) ควรให้ปุ๋ยคอกรอบลำต้น ปีละ 3-4 ครั้ง ปุ๋ยทางใบ เดือนละ 1-2 ครั้ง

-ต้นถั่วดาวอินคาสูง 1-1.5 เมตร ให้ทำการตัดยอดออก (ยอดเอามาผัดผักบุ้งไฟแดงทานได้) จะมีกิ่งใหม่แตกตามข้อ จำนวนมาก ไม่ควรให้มีเถามากเกินไป แนะนำต้นละ 5 เถา ตามจำนวนค้างที่ทำไว้

วิธีการป้องกัน แมลงกินใบ

แมลงกินใบ เป็นปัญหาอีกปัญหาหนึ่งที่พบเกือบทุกพื้นทีของการปลูก มักจะพบกับต้นที่เริ่มปลูก 1- 4 เดือนแรก บางพื้นทีพบรุนแรงถึงขนาดกินหมดทุกใบ

- ใช้น้ำส้มควันไม้ละลายน้ำ โดยใช้อัตราส่วน 5 ซีซี / น้ำ 1 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วลำต้น ทุก 7-15 วัน

- ใช้สะเดาสดหรือผงสะเดาแช่น้ำ แล้วฉีดพ่นให้ทั่วลำต้น ในพื้นที่พบแมลงกินใบ

การเก็บเกี่ยว

-ระยะเวลาเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต ประมาณ 6-8 เดือน นับจากลงกล้าปลูก เก็บฝักที่แห้งแล้วนำมาตากแดดจนแห้งสนิท(ถ้าไม้แห้งอาจเกิดเชื้อราได้)แล้วบรรจุใสถุงปุ๋ย หากเก็บไว้นานแนะนำให้ใช้ถุงที่ใส่กระเทียม

-เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น ยอด ใบ เมล็ด

-ถั่วดาวอินคานอกจากจะเก็บผลผลิตขายแล้ว เกษตรสามารถเพิ่มมูลค่าโดยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆได้มากมายอีกด้วย

ข้อควรปฎิบัติ การปลูกถั่วดาวอินคา

1. ถั่วดาวอินคา ต้องปลูกระบบเกษตรอินทรีย์ เท่านั้น ห้ามใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีเด็ดขาด

2. ให้น้ำแต่พอชุ่มชื้น ห้ามมีน้ำขังรอบลำต้นเด็ดขาด

3. ควรตัดแต่งกิ่งถั่วดาวอินคาสม่ำเสมอ เพราะต้นถั่วดาวอินคาชอบอากาศโปร่งจะทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้นตามไปด้วย